“ธีรรัตน์” รมช.มหาดไทยและ ประธาน ศปช. ส่วนหน้า จ.เชียงราย ขีดเส้นวันที่ 31 ตุลานี้ เคลียร์พื้นที่หลังน้ำท่วมคืนประชาชน ระดมอาสารักษาดินแดนกว่า 1,500 นาย เคลียร์โคลนพื้นที่เชียงราย - แม่สาย ยืนยันทางจังหวัดมีงบเงินอยู่ 100 ล้านบาท ที่สามารถใช้ฟื้นฟูพื้นที่

2 ต.ค. 2567 ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์ หลังเมืองเชียงราย - แม่สาย เผชิญวิกฤตน้ำท่วมหนัก กระแสน้ำได้ทิ้งดินโคลนทับถมไว้ทั่วทั้งเมืองรวมทั้งท่อระบายน้ำ เป็นปัญหาหนักยิ่งของผู้ประสบภัยชาวเชียงราย เพราะการนำโคลนจำนวนมากออกจากพื้นที่เป็นเรื่องยากเกินกว่าที่ประชาชนจะสามารถจัดการเองได้ 

ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า จ.เชียงราย ได้อัพเดทสถานการณ์ฟื้นฟูพื้นที่เมืองเชียงรายและแม่สาย ว่า  เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมภาพรวมทั้งหมดเพื่อดูว่าระบบการจัดการเดิมในพื้นที่มีการจัดการอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ได้มีการแบ่งพื้นที่การรับผิดชอบให้ชัดเจนโดยตัวอำเภอแม่สายที่มีความเสียหายอยู่ในระดับที่รุนแรงให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดูแล ส่วนในพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายที่มีความเสียหายเป็นวงกว้างได้สั่งการให้ทางกระทรวงมหาดไทยดูแลพื้นที่ 

สถานการณ์ปัจจุบันในพื้นที่ยังมีต้องการความช่วยเหลืออยู่มาก ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนเข้าไปในพื้นที่กว่า 1,500 นาย กระจายกำลังลงพื้นที่ทั้งในตัวเมืองและแม่สาย

ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์  ขณะลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมเชียงราย

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย 

ทาง ศปช. ส่วนหน้า​ ระบุว่า ความคืบหน้าในการจัดการโคลนในตัวเมืองเชียงรายมีความคืบหน้าไปมาก อาจจะยังคงเหลือขยะที่กองไว้เพื่อรอการจัดการอยู่บ้าง ซึ่งส่วนนี้ต้องอาศัยทางเทศบาลเข้ามาดูแล ขณะนี้ทางเทศบาลมีการขอความช่วยเหลือให้ทาง ศปช.ส่วนหน้า​ เร่งรัดการอนุมัติงบประมาณในการจัดการส่วนนี้ เพื่อจ้างแรงงานเข้ามาจัดการขนขยะที่กองไว้ทั่วเมือง ขณะที่ตัวแม่สายยังมีน้ำและโคลนขังอยู่ซึ่งต้องอาศัยการฉีดน้ำหลายรอบ ส่วนพื้นที่ในการนำโคลนไปทิ้งขณะนี้ยังเพียงพอ แต่กำลังจะได้พื้นที่เพิ่มจากกรมป่าไม้ในความดูแลของกระทรวงทรัพยากรฯ โดยเมื่อวัน 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ครม. ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้ หากว่าสามารถนำโคลนไปไว้ในพื้นที่ป่าหรืออุทยานได้โดยไม่ขัดกับหลักกฎหมาย ทางพื้นที่ก็สามารถดำเนินการได้เลย ทาง ศปช.ส่วนหน้า​ พยายามดูเรื่องข้อกฎหมายให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

ทาง ศปช. ส่วนหน้า​ยังได้มีการการทำงานร่วมกับหน่วยกู้ภัยและมูลนิธิกระจกเงาในพื้นที่ด้วย โดยมีเสียงสะท้อนจากคนทำงานในพื้นที่ที่มีความกังวลเกี่ยวกับโคลนที่ค้างอยู่ในท่อน้ำในตัวเมืองเชียงราย ทาง ศปช. ส่วนหน้ายืนยันจะเสริมกำลังคนเข้ามาจัดการโคลนเพื่อกู้พื้นที่กลับมาให้ได้เร็วที่สุด และหากสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติทางรัฐบาลอยากจะเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงรายโดยร่วมจัดงานลอยกระทงร่วมกับทางจังหวัด สนับสนุนในเรื่องของงบประมาณให้คนเข้ามาเที่ยวในพื้นที่

ส่วนความร่วมมือกับทางฝั่งพม่าตอนนี้ได้มีการดำเนินการมาอยู่แล้ว มีแผนในการติดตั้งเครื่องวัดระดับน้ำในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจัดระเบียบร้านค้าที่ก่อสร้างขวางทางน้ำ ปรับตอม่อให้เข้ากับสภาพพื้นที่

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย 

เรื่องฟื้นฟูเยียวยาซึ่งทางมูลนิธิกระจกเงาตั้งข้อสังเกตว่างบยังลงมาไม่ถึงในพื้นที่ ต้องถามกลับว่าเป็นงบในส่วนไหน เนื่องจากงบฟื้นฟูเยียวยามีหลายส่วน ทั้งงบช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นงบกลาง และในส่วนของจังหวัดที่เป็นเงินทดลองราชการที่สามารถนำมาใช้ได้เลย เพียงแค่ขออนุมัติจากกรมบัญชีกลาง ต้องยอมรับว่าในช่วงก่อนหน้านี้เงินช่วยเหลือมีแต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างทันการณ์ ตอนนี้ทางจังหวัดเชียงรายได้ชี้แจงมาแล้วว่ามีเงินที่สามารถใช้ได้อยู่ที่ 100 ล้าน ซึ่งธีรรัตน์มองว่าไม่เพียงพอกับการกู้สถานการณ์ และวางแผนดึงงบจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยที่จะมาใช้ได้ในสถานการณ์นี้ ตามระเบียบที่มีอยู่

“เราได้ให้กรอบไปแล้วว่าวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เป็นวันที่ทุกอย่างจะต้องเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการดูแลสาธารนูปโภค ไฟฟ้า ปะปา ต้องครบ 100 % ประชาชนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านได้ ในส่วนท่ีบ้านพังหรือชำรุดก็จะมีการชดเชยเยียวยาในประชาชนได้มีที่พักที่สมบูรณ์ที่สุด ในเรื่องของความคืบหน้าเราเองก็คิดว่าเราจะสามารถจัดการตรงนี้ได้ แม้ว่าจะหนัก แม้ว่าทางท้องถิ่นขอระยะเวลาจัดการถึง 45 วัน แต่ทาง ศปช.ส่วนหน้า เราอยากจะให้เสร็จเร็วที่สุด ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่จะให้มีความชัดเจนขึ้น” ประธาน ศปช.ส่วนหน้ากล่าว