ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 'เชียงราย-เชียงใหม่' น้ำท่วมในบางพื้นที่อีกระลอก กรมสุขภาพจิตเฝ้าระวังคนเครียดจากภัยพิบัติ พบเสี่ยงต่อภาวะเครียด 1,501 คน เสี่ยงซึมเศร้า 215 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 36 คน

ที่มาภาพ: กรมประชาสัมพันธ์

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ อีกระลอก

เว็บข่าว Ch7 รายงานว่าเกิดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเมื่อวันที่ 1 ต.ค" ทำให้น้ำป่าหลากลงมาท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย และ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

(คลิกดูภาพทั้งหมด)

น้ำป่ายังหลากเข้าท่วมบริเวณตลาดแม่อาย และทางหลวงหมายเลข 107 จุดเดิมที่เคยถูกน้ำท่วม และยังหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลแม่อาย โดยทางเทศบาลตำบลแม่อาย ได้ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ให้เตรียมตัวรับมือน้ำป่าไหลหลากอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ริมน้ำแม่อายและแม่สาว ขณะที่ชาวบ้านต่างผวา หวั่นซ้ำรอย 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินสไลด์

(คลิกดูภาพทั้งหมด)

เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (2 ต.ค.) มีรายงานว่าพนังกั้นลำน้ำอาย บริเวณสะพานน้ำอาย ได้ทรุดและขวางทางน้ำ

ส่วนชาวบ้านที่ ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กว่า 100 ครอบครัว ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังติดต่อกันมาแล้ว 6 วัน โดยเฉพาะหมู่ 3 หมู่ 5 และหมู่ 7 น้ำเริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นจนชาวบ้านกินไม่ได้นอนไม่หลับ

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่เร่งทำการสูบน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.สารภี จำนวน 3 ตำบล คือ ต.ไชยสถาน ต.ป่าบง และ ต.ชมภู ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำก่อนลงสู่แม่น้ำกวงแล้ว

(คลิกดูภาพทั้งหมด)

ส่วนที่ อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากเทือกเขาดอยปูไข่ เขตวนอุทยานน้ำตกโป่งพระบาท หลากเข้าท่วมถนนพหลโยธิน และชุมชนบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปปิดถนน ให้ใช้ทางเลี่ยง แต่มีผู้ใช้รถบางส่วนเลือกที่จะขับรถฝ่าน้ำ จนทำให้รถติดเป็นทางยาว

ผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ประกาศยกเลิกการสอบกลางภาค ปีการศึกษา 2567 ในวันที่ 2 ต.ค. 2567 ทุกรายวิชา ส่วนกำหนดวันสอบกลางภาคใหม่ ทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้นักศึกษาทราบอีกครั้ง

(คลิกดูภาพทั้งหมด)

เช้าวันนี้ (2 ต.ค.) เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณบ้านป่างิ้ว หมู่ 1 ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเวียงป่าเป้าธรรมสถาน และเจ้าหน้าที่เทบาลตำบลป่างิ้ว เร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกเศษแก้วบาดที่เท้า เป็นแผลลึก ต้องเร่งน้ำส่งโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า

ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงขึ้นชั้นสองของบ้าน หลังระดับน้ำเริ่มหลากแรงและเพิ่มขึ้นชาวงครึ่งเช้าวันนี้ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนน ถนนหมายเลข 118 บริเวณตลาดเช้าป่างิ้ว ถึง โบสถ์ป่างิ้ว ระดับน้ำเริ่มทรงตัว แต่รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้

ที่มาภาพ: วิทยุจราจร จราจรเพื่อชุมชนเชียงใหม่

นอกจากนี้ จากฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดดินสไลด์บนถนนสาย 107 จ.เชียงใหม่- ฝาง บริเวณ อ.แม่แตง โดยในเวลา 14.59 น. (2 ต.ค.) มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้แก้ไขและเคลียร์เส้นทางเรียบร้อยแล้ว ทำให้รถสามารถสัญจรได้ตามปกติ ขอให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังและติดตามข้อมูลการจราจรอย่างต่อเนื่องในกรณีที่มีฝนตกเพิ่มเติม

ล่าสุดวันนี้ (2 ต.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้ออกประกาศเฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังแม่น้ำกก วันที่ 2 – 9 ต.ค. 2567 เนื่องจากฝนตกหนักมากในพื้นที่ต้นน้ำในเขต อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกก บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง แม่จัน ดอยหลวง เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 0.5 - 1.0 เมตร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความมั่นคงอาคารป้องกันริมน้ำและเสริมคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยง และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำ

กรมสุขภาพจิตเฝ้าระวังคนเครียดจากภัยพิบัติ

Thai PBS รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข สั่งการในที่ประชุมให้กรมสุขภาพจิต โดยทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมชื่นชมทีม MCATT ที่ได้นำทั้ง จิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตลงพื้นที่หลังเกิดเหตุการณ์ทันที รวมถึงส่งทีมไปยัง จ.อุทัยธานี เพื่อดูแลสุขภาพจิตครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้ทีม MCATT ของกรมสุขภาพจิต ลงพื้นที่เยียวยาดูแลจิตใจผู้ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยด้วย แบ่งแผนการดำเนินการเป็น 3 ส่วน ตามระยะของผลกระทบ คือ 1.พื้นที่น้ำลดแล้ว มีการประเมินสุขภาพจิตโดยทีม MCATT จำนวน 40,268 คน

โดยพบความเสี่ยงต่อภาวะเครียด 1,501 คน เสี่ยงซึมเศร้า 215 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 36 คน และปฐมพยาบาลทางใจครบ 100 % รวมถึงมีระบบการติดตามและเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่อง ในระยะหลังได้รับผลกระทบ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน จนกว่าจะไม่พบความเสี่ยง

ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบสูงมาก โดยเฉพาะ อ.แม่สาย มีการติดตามเฝ้าระวังเคสที่มีการสูญเสียทรัพย์สิน 400 คน มีความเสี่ยงสูง และมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 13 คนมีการติดตามอย่างใกล้ชิด