Skip to main content
sharethis

เที่ยงวันนี้ (5 ต.ค.) ระดับน้ำปิงตัวเมืองเชียงใหม่แตะระดับ 5.30 ม. แล้ว ขยายวงกว้างท่วมหลายพื้นที่หนักเป็นประวัติการณ์ 'แพทองธาร' กำชับทุกฝ่ายเร่งระดมให้ความช่วยเหลือ

5 ต.ค. 2567 สำนักงานชลประทานที่ 1 รายงานเหตุการณ์เฝ้าระวัง ระดับน้ำปิง ณ วันที่ 5 ต.ค. 2567 เวลา 12.00 น. ที่จุด P1 สะพานนวรัฐ อยู่ในระดับวิกฤตที่ 5.30 ม. จนถึงเวลา 13.00 น. ระดับน้ำยังทรงตัวในระดับ 5.30 ม.

ต่อมาเวลา 14.00 น. และ 15.00 น. ระดับน้ำลดลงมาอยู่ที่ 5.29 ม.

วันนี้มวลน้ำจากแม่น้ำปิงแผ่ขยายวงกว้างท่วมหลายพื้นที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ กินพื้นที่มากกว่าเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำเข้าท่วมถนนแก้วนวรัฐ ตั้งแต่เชิงสะพานนครพิงค์ ยาวไปจนถึงแยกบริเวณศาลเด็ก เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 50 ปี ที่น้ำท่วมถึงจุดนี้ นอกจากนี้ยังท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ อีก ดังเช่น 

มีรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. กำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการ  และจิตอาสาภัยพิบัติ จิตอาสา 904  พร้อมยานพาหนะ รถยนต์บรรทุก 2 1/2 ตัน FTS และ รถยนต์บรรทุก แบบ 51 จำนวน 4 คัน ออกปฏิบัติภารกิจเข้าช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเปรมติณสูลานนท์ ต.ห้วยทราย  อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  ที่ยังติดค้างภายในโรงเรียนฯ ประมาณ 250 คน โดยการรับนักเรียน และนำโดยสารยานพาหนะของหน่วย ไปส่งยังพื้นที่นัดหมายของผู้ปกครอง เขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากในคืนที่ผ่านมาปริมาณน้ำแม่ปิง และน้ำแม่ริม ได้เพิ่มระดับและเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว และช่วงเวลากลางคืนอาจเป็นอุปสรรคในการขนย้ายผู้ประสบภัย จึงประสานงานให้พักคอยอยู่ภายในอาคารเรียน โดยการดูแลของบุคลากรภายในโรงเรียน และในเช้าวันนี้หน่วยได้นำส่งเด็กนักเรียน​ให้กับผู้ปกครองเป็นที่เรียบร้อยและปลอดภัยทุกคน

พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ได้เข้าเยี่ยมเยือนและให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 1 ราย ที่หน่วยได้เข้าช่วยเหลือ และมอบถุงยังชีพ จากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่


น้ำท่วมที่โรงพยาบาลค่ายกาวิละ | ที่มาภาพ: PR Chiangmai

นอกจากนี้ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 4 ต.ค. 2567  น้ำได้ทะลักเข้าท่วม โรงพยาบาลค่ายกาวิละ และเช้าวันที่ 5 ต.ค. 2567  น้ำปิงยังเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ โรงพยาบาลค่ายกาวิละ ซ้ำ ทำให้ ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ โรงพยาบาลค่ายกาวิละ ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ว่า ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ชั่วคราว หากน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ ทาง โรงพยาบาลค่ายกาวิละ จะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้ง


ภาพน้ำท่วมขนส่งอาเขตเชียงใหม่ | ที่มาภาพ: PR Chiangmai 

ถนนท่าแพ น้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมแล้ว แต่ยังไม่ถึงประตูท่าแพ วันที่ 5 ต.ค.2567 เวลา 10.30 น. | ที่มาภาพ: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์

สะพานป่าตัน วัดฟ้าฮ่าม 5 ต.ค. 2567 เวลา 12:05 น. | ที่มาภาพ: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ 

ถนนวงแหวนรอบสาม จากแยกสะเมิงมุ่งหน้าแยกกองทราย | ที่มาภาพ: PR Chiangmai

เวลา 13.00 น. มีรายงานว่า  ถนนวงแหวนรอบสาม จากแยกสะเมิงมุ่งหน้าแยกกองทราย การจราจรเคลื่อนตัวช้า เริ่มมีน้ำจากคลองข้างทางไหลเอ่อล้นถนน บ้านเรือนประชาชนด้านในมีน้ำท่วมสูง 

'แพทองธาร' กำชับทุกฝ่ายเร่งระดมให้ความช่วยเหลือ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานล่าสุดของสถานการณ์จังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยผู้ว่านายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชน และสัตว์ที่ประสบภัยน้ำท่วม ในอำเภอแม่แตง โดยจังหวัดได้ส่งนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ประสานงาน ร่วมกับ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย บัญชาการเหตุการณ์ตัง้แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอแม่แตง ได้รายงานสถานการณ์การให้การช่วยเหลือช้างในพื้นที่ว่า สถานการณ์ล่าสุดพบช้างล้ม 2 เชือก ขณะนี้ปศุสัตว์จังหวัด และปศุสัตว์อำเภอกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นช้างชื่อ "ฟ้าใส" และ "พลอยทอง"

ขณะที่สถานการณ์น้ำแม่แตง วันนี้ลดลง 1.5 -2 เมตร ไหลลงกลับไปรวมกับลำน้ำแม่แตง ไม่ล้นแนวตลิ่งออกมาแล้ว ซึ่งพบว่าปางช้าง Elephant Nature Park ซึ่งรับการช่วยเหลือขนย้าย 124 เชือก โดยก่อนหน้านี้ มีการทยอยขนช้างขึ้นที่สูงแล้วเกือบทั้งหมด เหลือเพียงช้างป่วยและพิการจำนวน 15 เชือก และช้างดุ 7 เชือก ซึ่งขณะนี้น้ำกลับลงลำน้ำแม่แตงแล้ว ไม่มีช้างที่แช่น้ำ จึงปรับแผนไม่ต้องเคลื่อนย้าย ซึ่งได้จัดเตรียมยา และมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดูแลอย่างใกล้ชิด

โดยในวันเดียวกันนี้ นายอำเภอแม่แตง จะนำฝ่ายปกครอง อาสาเจ้าหน้าที่ และกำลังทหาร เข้าฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหลายร้อยหลังคาเรือน

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ศปช.และส่วนหน้า เร่งอำนวยการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และแก้ไขปัญหาสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายจิรายุ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศปช. รายงานว่าในช่วง 1-7 วันข้างหน้านี้ มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิม 2,000 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยเพิ่มขึ้นวันละ 50-100 ลบ.ม./วินาที ทำให้ความสูงของน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับเพิ่มขึ้นครั้งละ 10 - 15 เซนติเมตร โดยสูงสุดไม่เกิน 70 เซนติเมตร ส่งผลกระทบกับประชาชนริ่มฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง ท่าจีน ป่าสัก สะแกกรัง เจ้าพระยา จำนวน 11 จังหวัด

"ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ โดยการระบายน้ำมีผลกระทบ ดังนี้ ผลกระทบแรก จะมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าจีน ผลกระทบที่สอง เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก สะแกกรัง เจ้าพระยา มีระดับสูงขึ้นแต่ไม่ล้นตลิ่ง จะทำให้ผู้ประกอบการในทางน้ำ การเดินเรือ การเลี้ยงปลาในกระชัง ผู้ที่อาศัยบริเวณนอกคันกั้นน้ำ ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำดังกล่าว ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด" นายจิรายุกล่าว

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต (ปภ.) ได้ร่วมทำงานกับศูนย์บัญชาเหตุการณ์จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่รอยต่อจังหวัดลำพูน ได้ปฏิบัติงานใน 2 ส่วน ดังนี้

1.ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (อพยพประชาชน การอำนวยความสะดวกในการสัญจร รวมถึงการแจกจ่ายอาหารและสิ่งของดำรงชีพ) ปฏิบัติงานเมื่อคืนในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอแม่แตง ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมรถยกสูง เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์

2.ชุดปฏิบัติการสูบน้ำท่วมขัง/สูบระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำของจังหวัดเชียงใหม่ และรอยต่อจังหวัดลำพูน ทีม ปภ. ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำท่วมขังสมรรถนะสูง ศักยภาพสูบน้ำได้ 50,000 ลิตร/นาที ไว้ที่พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับเร่งระบายมวลน้ำก้อนเดิมออก เพื่อให้พื้นที่ปลายน้ำสามารถรองรับมวลน้ำใหม่ได้ และสามารถระบายน้ำออกแม่น้ำกวง และแม่น้ำปิงได้

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net