14 ก.ย. 2549 - นายจักรพันธ์ ยมจินดา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และ พิธีกรรายการสถานีสนามเป้า ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) กล่าวถึงการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะออกอากาศทาง ททบ. 5 ในวันที่ 13-14-15 กันยายนนี้ว่า ไฮไลท์สำคัญคือวันที่ 2 และ 3 ของรายการ เป็นประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง

แม้ไม่มีการพูดที่ชัดเจนว่าจะเว้นวรรคหลังเลือกตั้ง แต่สามารถจับสัญญาณบางอย่างจากคำพูดได้ และ ไฮไลท์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งมีการพูดถึงคือประเด็นมิตรเก่ากลายเป็นศัตรู

ทั้งนี้ เนื้อหาคำให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาตนได้พยายามทุ่มเททำงานจนสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่วันนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่จะไม่มีการยึดติดกับอนาคตและตำแหน่งทางการเมือง พร้อมกับระบุว่า "นายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจไม่ใช่ผมก็ได้

พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวด้วยว่าถ้าหากในอนาคตไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกมาก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ

ตลอดการตอบคำถามของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับเรื่องอนาคต พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้คำพูดว่า "ถ้า…" เสมอ และ ในช่วงที่พูดถึงเรื่องมิตรที่กลายเป็นศัตรู นายจักรพันธ์ ได้ถามว่าเหตุใดกลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงได้ย้ายไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้เวลาพูดถึงเรื่องนี้ค่อนข้างนาน แต่จะสรุปในตอนท้ายว่า "สักวันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจผม"

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้กล่าวถึงกรณีลอบสังหารและ การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านเวลาที่ไปงานราชการตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ด้วยว่า ไม่คิดว่าผู้นำประเทศจะต้องโดนแบบนี้เลย ทุกวันนี้ไปไหนก็ไม่ได้ ต้องคอยระมัดระวัง จนบางครั้งรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่เมื่อเป็นคำแนะนำของฝ่ายรักษาความปลอดภัยก็ต้องปฏิบัติตาม

เรียบเรียงจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์