7 ธ.ค.2558 กรณีการควบคุมตัวคณะกิจกรรม ‘นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’ ซึ่งจัดโดยกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อเวลา 16.10 น. ที่ผ่านมา สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต [1] ได้เผยแพร่แถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม โดยระบุว่า สืบเนื่องจากการที่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรรมศาสตร์ จำนวน 4 คน ถูกควบคุมตัวระหว่างการจัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” อันได้แก่ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ คณะรัฐศาสตร์ น.ส.กรกนก คำตา คณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ คณะเศรษฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 และ นายศศวัชร์ คมนียวนิช คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ชั้นปีที่ 2 

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีความยึดมั่นในหลักของสิทธิ และเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม ดังนั้นสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขอแสดงความกังวลใจต่อเหตุการณ์การเข้าควบคุมตัว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จึงขอเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุม เพื่อเป็นการแสดงการเคารพต่อหลักสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของนักศึกษาและประชาชน

‘กสม.ชุดใหม่’ เตรียมถกปมทหารคุมตัว นศ.ไปอุทยานราชภักดิ์พรุ่งนี้

เดลินิวส์ รายงานว่า นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา นัดนั่งรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว ที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรีนั้น ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นร้อน ซึ่งกสม.ก็มีการติดตามและพิจารณาเรื่องนี้อยู่ โดยในการประชุมคณะกรรมการ กสม.พรุ่งนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกันในที่ประชุมเป็นการภายใน นอกเหนือจากวาระการประชุมตามปกติ และหากการหารือมีข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะมีการแจ้งสื่อมวลชนในภายหลัง

สุเทพมั่นมวลมหาปชช.ไม่ตกลงสู่กับดักหลุมพรางล้ม คสช. นี้อย่างแน่นอน

มติชนออนไลน์ [2] รายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นการเคลื่อนไหวตรวจสอบโครงการราชภักดิ์ ของคนบางกล่าว ว่า ตนเชื่อว่า ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจ สถานการณ์ดีว่าฝ่ายที่ต้องการบ่อนทำลายความมั่นคง ทำลายความศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล หยิบยกเอาประเด็นเรื่องอุทยานราชภักดิ์ มาขยายให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงแล้วการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ตนไม่ทราบว่าใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ ที่ทราบมาประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตเหมือนโครงการรับจำนำข้าวโครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านเอื้ออาทร

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า การทุจริตคอร์รัปชั่น จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็เป็นเรื่องทั้งนั้น แต่เขาเอาเรื่องมาขยายผลนั้น เหมือนใหญ่กว่าโครงการรับจำนำข้าว ที่สื่อนำเสนอทุกวัน อาจจะกลบเรื่องเก่า หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ว่าเราประชาชนตั้งหลักทำใจว่าในที่สุด ก็ต้องสะสางให้เห็นข้อเท็จจริงใครผิดใครถูกก็ว่าไปตามนั้น หรือการที่มีคนบางพวกบางกลุ่มที่นำ เรื่องดังกล่าวมาล้มรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือมาทำลายความเชื่อถือของ คสช. ตนยืนยันว่าไม่เป็นผล มวลมหาประชาชน และคนไทยทั้งหลายไม่ตกลงสู่กับดักหลุมพรางนี้อย่างแน่นอน เพราะมองออกว่าอะไรเป็นอะไร

เดลินิวส์ [3] รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อถามต่อว่ากรณีที่มีนักศึกษาจัดกิจกรรม“นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” นายสุเทพ กล่าวว่าตนไม่ทราบว่า นักศึกษามีจิตเจตนาอย่างไร คิดเอง หรือใครวางแผนให้แต่มองในแง่ดีในฐานะที่เป็นคนหนุ่มคนสาวบางทียังมองโลกแบบสดใส อาจไม่ได้มองตามความเป็นจริง ซึ่งเราเข้าใจอย่างไรก็ตามตนคิดว่าทางฝ่ายทหารก็ปฏิบัติกับนักศึกษาด้วยความนุ่มนวลน่าชื่นชม ขอบคุณฝ่ายทหารที่ปฏิบัติอย่างระมัดระวัง