Skip to main content
sharethis
10 ต.ค. 52 - เวลา 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะซึ่งประกอบด้วย นายอิสสระ สมชัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาธิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพบกมาลงที่สนามบินกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี ก่อนจะออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำจากกองบิน 21 อุบลฯมุ่งหน้าไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร
ขณะเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนขบวนเพื่อตามไปที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน อ.โขงเจียม โดยมีกลุ่มเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งที่รออยู่ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด นำโดย นางสุทธินี มุทุวงศ์ นำกลุ่ม นปช.จากจังหวัดนครราชสีมา เชียงใหม่ และ ศรีสะเกษ เดินทางมาทบกับกลุ่มชักธงรบ เสรีชนและแดงอุบลฯ เดินทางมุ่งหน้าผ่านอำเภอพิบูลมังสาหาร
โดยระหว่างทางแกนนำได้โจมตีการทำงานของนายอภิสิทธิ์ และต้องการไปสอบถามนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำตอบว่า ทำไมต้องช่วยยายไฮ ขันจันทา คนเดียว คนไทยทั้งประเทศยังเดือดร้อนอยู่มากที่รอการช่วยเหลือ น้ำก็ท่วม,เศรษฐกิจไม่ดี การเดินทางมาของนายกในครั้งนี้ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการักษาความ ปลอดภัยเป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นคนดี ชาวบ้านเขาจะมารับเองไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจมาคุ้มกันความปลอดภัยถึง 4,700 นาย
นายกพบสมัชชาคนจน มอบเงินยายไฮและพวกกรณีเขื่อนห้วยละห้า
เวลา 08.45 น.เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ นำคณะของนายกรัฐมนตรีเดินทางมาลงที่โรงเรียนบ้านวังสะแบง ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ห่างจากศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล 1 กองร้อยคุมเข้มรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคุมเข้มทุกคนที่เข้าออกภายในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะเดินทางมาถึงที่บริเวณศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน โดยมี พล.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ให้การต้อนรับหลังจากนั้นก็นำคณะนายกเดินทางเข้ามายังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน โดยมีชาวบ้านและกลุ่ม สมัชชาคนจนประมาณ 6,000 คนจาก 56 หมู่บ้านและกลุ่มกรณีปัญหาที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ ได้ส่งตัวแทนมาร่วมรับนายกรัฐมนตรีจังหวัดละ 4-5 คน เมื่อนายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงนางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำสมัชชาคนจนได้นำนายกรัฐมนตรีเข้า สักการะอนุสาวรีย์คนจน ซึ่งตั้งอยู่ทางเข้าศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน พร้อมกับพาเดินชมพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาวิถีชีวิตชาวบ้านที่บริเวณชั้นล่าง ศูนย์จากนั้นนายสมเกียรติ พ้นภัย แกนนำสมัชชาคนจน ได้บรรยายสรุปถึงการต่อสู้เรียกร้องของกลุ่มสมัชชาคนจน ที่ผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ต่อมานายทองเจริญ สีหาธรรม แกนนำกลุ่มสมัชชาคนจนได้เชิญนายกฯและคณะขึ้นไปบนศูนย์ซึ่งเป็นศาลาขนาดใหญ่บริเวณชั้น 2 พบยายไฮ ขันจันทา และพวกอีก 3 คน โดยมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจาก 15 กรณีปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจน มาร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญนายกรัฐมนตรีอยู่เต็มด้านบนของศาลา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้มอบเช็ดค่าชดเชยให้กับยายไฮ ขันจันทาและพวก รวม 3 คนเป็นเงิน 4.9 ล้านบาท
ด้านยายไฮ ขันจันทา กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ดูแลช่วยเหลือสำหรับเงินที่ได้รับจำนวน 1,208,153 บาท จะแบ่งออก 3 ส่วนคือ เก็บไว้ใช้เองจำนวนหนึ่ง อีกส่วนแบ่งให้ลูกทั้ง 10 คน และซื้อที่นาเพิ่มเติม
ส่วนเงินของนายฟอง ขันจันทา (สามียายไฮ) จำนวน 1,350,922 บาท ได้มอบให้นางเพชร ขันจันทา บุตรสาว เปิดบัญชีแทนนายฟองบิดาที่เสียชีวิต รวมทั้งเงิน นายเสือ พันธุ์คำ ที่เสียชีวิตเช่นกันจำนวน 2,389,142 บาท นายประทวน พันธุ์คำ บุตรชาย ต้องนำเช็คฝากเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนสรรพสิทธิ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลฯ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อน เมื่อศาลมีคำสั่ง จึงจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ซึ่งอาจใช้เวลา 1-2 เดือน พร้อมขอร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ช่วยทำถนนทางเข้าบ้านให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย จากนั้นยายไฮได้ร้องหมอลำกลอนเพื่อให้นายกฯรัฐมนตรีฟังก่อนนายกรัฐมนตรีจะอัดเทปรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยมียายไฮ ขันจันทา นั่งอยู่ข้างๆด้วย
นายสมเกียรติ พ้นภัย แกนนำสมัชชาคนจน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมามอบเงินให้กับยายไฮ ขันจันทา และพบกับกลุ่มสมัชชาคนจน เพื่อรับฟังปัญหากรณีผลกระทบจากการโครงการของรัฐ พร้อมได้ยื่นเรื่องปัญหา และอุปสรรคให้กับนายกรัฐมนตรี โดยนายสมเกียรติ สรุปปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจนว่า ส่วนใหญ่การแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความล่าช้าระยะเวลาในการ แก้ไขปัญหาไม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการเจรจากรณีปัญหาแต่ละครั้งไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากตัวแทนของรัฐบาลไม่ตัดสินใจ การติดตามงานในระดับพื้นที่ ที่รัฐบาลได้ส่งตัวแทนลงไป อาทิเช่น ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่มีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นและในบางครั้งก็สร้างปัญหาให้กับทาง สมัชชาคนจนเสียเอง ซึ่งการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีกลุ่มสมัชชาคนจนหวังที่สุดก็อยากให้รัฐบาล ได้นัดประชุมพูดคุยหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทางกลุ่มสมัชชาคนจนโดยเร็วถึงแม้ ว่าเคยมีการพูดคุยเจรจาปัญหากันมาแล้ว 4 ครั้ง
นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำสมัชชาคนจน นำเสนอว่า ปัญหาของสมัชาชนคนจนที่เรียกร้องต่อรัฐบาลนั้นล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่เกิด จากนโยบายการพัฒนาของรัฐ และปัญหาข้อกฎหมายที่ละเมิดสิทธิของคนจน อันเป็นข้ออ้างของทางราชการที่จะไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาตลอด จำเป็นต้องอาศัยอำนาจทางบริหารของรัฐบาลเป็นผู้ชี้ขาดและตัดสินใจแก้ไขปัญหา จึงขอให้รัฐบาลนัดหมายเจรจากับสมัชชาคนจนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าได้ข้อยุติทุกกรณีปัญหา
ตำรวจอารักขาแน่นหนา เสื้อแดงเข้าไม่ถึงตัวควักปลาร้าปารูป เผาโลงแช่ง
ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 10 ต.ค.52 ที่จ.อุบลราชธานี ได้มีนายพิเชษฐ์ ดาบุดดา แกนนำกลุ่มเสื้อแดงชักธงรบ ได้ใช้รถยนต์จำนวน 120 คัน และมีสมาชิกประมาณ 1,600 คน โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนไปตามถนนในตัวเมือง ไปหยุดอยู่ที่บริเวณด้านหน้าสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี ปราศรัยโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
จากนั้นเวลา 10.30 น.กลุ่มคนเสื้อแดงมีรถสิบล้อบรรทุกหินกรวดเต็มคัน เป็นหัวขบวนพร้อมติดตั้งเครื่องขยายเสียง เดินทางมาถึงสถานข้ามแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร เจ้าหน้าที่ได้ตำรวจนำรถสิบล้อ 2 คันมาจอดปิดทางข้ามสะพานโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นาย ตั้งแถวปิดกั้น หลังจากนั้นกลุ่มแกนนำได้ช่วยกันนขับรถสิบล้อที่ปิดกั้นทางออกได้ จึงสามารถข้ามสะพานได้และต้องเจอจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 4 จุด โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร ซึ่งจุดประสงค์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพื่อต้องการถ้วงเวลาของกลุ่มคนเสื้อ แดงไว้ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเสร็จภาระกิจที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน อ.พิบูลมังสาหาร ก่อน
เวลา 11.20 น. คณะรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดงได้ฝ่าด่าน จุดสกัดของเจ้าหน้าที่มาได้ และกำลังมุ่งหน้าเดินทางมาอยู่ห่างจากศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน ประมาณ 10 ก.ม.
เวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะซึ่งมีกำหนดการที่จะร่วมรับประทานอาหารกับยายไฮ และชาวบ้านต้องยกเลิกภาระกิจทั้งหมดและรีบเดินทางกลับไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ จอดรออยู่ 2 ลำที่ สนามโรงเรียนบ้านวังสะแบง ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม ออกเดินทางต่อไปยัง จ.อำนาจเจริญทันที
เวลา 11.40 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางมาถึงที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน และพยายามจะเข้าไปภายในบริเวณศูนย์ แต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูทุกด้าน หลังจากที่แกนนำเสื้อแดงทราบว่าคณะของนายกเดินทางกลับไปแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้นำถุงปลาร้าที่เตรียมมาปลาใส่ป้ายภาพต้อนรับนายกและ พยายามจะดึงลงมาเผาแต่ถูกห้ามไว้ และนำโลงศพออกมาเผา จากนั้นก็พากันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: www.bangkokbiznews.com,www.komchadluek.net

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net