ใบตองแห้งออนไลน์: สันติวิธีกับความเป็นธรรม

หมอประเวศออกมาเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อความเป็นธรรมแห่งชาติ ชี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก กราบขอบพระคุณในความปรารถนาดี ข้อเสนอของอาจารย์ฟังเหมือนเข้าที แต่ไม่รู้เรื่องตามเคย (ฮา)

อะไรคือความเป็นธรรมของอาจารย์ คงเขียนอธิบายเป็นภาษาสวยงามได้หลายหน้ากระดาษ แต่ไม่มีคำตอบให้กับคนที่เขารู้สึกว่าเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นจากรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ จากการปล้นอำนาจที่เขาเลือกตั้งเข้ามา จากความยุติธรรม 2 มาตรฐาน ฯลฯ

ความเป็นธรรมของอาจารย์จะเกิดได้อย่างไร ภายใต้อำนาจที่มีที่มาไม่ชอบธรรม

นี่คือปัญหาของนักสันติวิธี ที่ออกมาเคลื่อนไหวใส่เสื้อขาวอยู่ตอนนี้ ผมยินดีและยอมรับความปรารถนาดีของนักสันติวิธีอย่างอาจารย์โคทม อาจารย์ปริญญา คุณสารี ที่พยายามห้ามทั้งม็อบเสื้อแดงและรัฐไม่ให้ใช้ความรุนแรง แต่ถามว่าแล้วคุณจะห้ามอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลยืนกรานไม่ยุบสภา ขณะที่ม็อบเสื้อแดงซึ่งมาทำ “สงครามครั้งสุดท้าย” มีมวลชนมากมายขนาดนี้ เขาก็คงไม่ยอมถอยง่ายๆ

นักสันติวิธีจึงมาถึงทางตัน เพราะมองไม่เห็น ไม่ตระหนัก ไม่รู้สึก ต่อความไม่เป็นธรรม ความไม่ชอบธรรม อันเป็นที่มาของรัฐบาลชุดนี้

เมื่อวันอาทิตย์ผมเผอิญได้ดูรายการทีวีไทย ที่เชิญนักสันติวิธีทั้งหลายไปร่วมรายการ (มี’จารย์พิชญ์ไปนั่งพูดอะไรให้ถูกหลักถูกใจอยู่ด้วย) อ.นิธิท่านพูดได้ชัดเจนที่สุดว่า ต้องหาทางลงให้ม็อบเสื้อแดง ไม่เช่นนั้นก็หลีกเลี่ยงความรุนแรงไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีการเจรจาต่อรองข้อเรียกร้อง

อ.นิธิชัดเจนเพราะท่านบอกว่าอภิสิทธิ์ควรยุบสภาตั้งนานแล้ว รัฐบาลแม้ขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม แต่ท่านถือว่ายังดีกว่ารัฐประหาร กระนั้นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลคือ จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่ทุกคนยอมรับโดยเร็ว ฉะนั้น อภิสิทธิ์ควรยุบสภาตั้งนานแล้ว

ชัดเจนนะครับ ผู้ดีอังกฤษ ที่มาของคุณไม่ชอบธรรม ถ้าคุณชนะการเลือกตั้งโดยชอบธรรม ม็อบจะไม่มีสิทธิมาเรียกร้องให้คุณยุบสภาหรือลาออก

คนที่ไม่ชัดเจนคือนักสันติวิธี ซึ่งมองไม่เห็นความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ทั้งรัฐประหาร และตุลาการภิวัตน์ ที่กระทำกับคนอีกฝ่ายจนเขาเหลืออด กระนั้นเขาก็ยังเรียกร้องขอช่วงชิงอำนาจคืนผ่านกระบวนการประชาธิปไตย คือเลือกตั้งใหม่

ถ้านักสันติวิธีมองไม่เห็น แล้วเอาแต่ถือพระปางห้ามญาติ ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ

ปัญหาของนักสันติวิธีคือส่วนใหญ่ก็เกลียดทักษิณกันทั้งนั้น และดีอกดีใจที่ได้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แม้จะตะขิดตะขวงใจกันอยู่บ้างกับกระบวนการตั้งแต่รัฐประหาร แต่ก็รู้สึกว่าผลไม้พิษมันหอมหวาน นักสันติวิธีจึงแยกไม่ออกระหว่างบทบาทหน้าที่ตัวเอง กับทัศนะทางการเมืองของตัวเอง

อันที่จริงก็น่าสงสารนะครับ เช่นอาจารย์ปริญญา เป็นคนที่มีความจริงใจ ปรารถนาดี เป็นคนที่ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไม่ว่ากับสีไหนทั้งสิ้น แต่ความไม่ชัดเจนทำให้ออกอาการพะว้าพะวัง จะเป็นพวกนิติไกรพจน์ก็ไม่เชิง จะมาทางอาจารย์วรเจตน์ก็ไม่ใช่ สุดท้ายเลยโดนทั้งพวกพันธมิตรด่า โดนพวกเสื้อแดงด่า แถมยังโดนพวกสองไม่เอาด่า

คำถามใหญ่สำหรับนักสันติวิธีคือ สถานการณ์จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครยอมถอย แทนที่จะเอาแต่ชูพระปางห้ามญาติ คุณช่วยหาทางออกให้มีการเจรจา หรือพบกันครึ่งทางได้ไหม

ข้อเรียกร้องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะครับ ถ้าอภิสิทธิ์มีที่มาชอบธรรม ขอย้ำ แต่ในเมื่อตัวอภิสิทธิ์เองก็เคยพูดว่าจะอยู่ไม่ครบเทอม ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ที่จะให้คำมั่นว่าแม้ยังไม่ยุบสภาวันนี้ แต่จะยุบในอีก 3 เดือนหรือ 6 เดือน (เกินนั้นเสื้อแดงอย่ายอม)

การต่อสู้แย่งชิงอำนาจผ่านการเลือกตั้งคือวิถีประชาธิปไตย ที่จะช่วยลดความรุนแรงนอกกติกา อย่ามาอ้างความเป็นธรรมเลื่อนลอยถ่วงเวลา อย่ามาอ้างปัญหาเศรษฐกิจ แบบกรณี 19 ก.ย. เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย ความรุนแรงจะยังเกิดขึ้นต่อไปถ้าไม่บำบัดความอยุติธรรม

แล้วก็ไม่ต้องอ้างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ผมจะสนับสนุนให้แก้ไข แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะต้องแก้ทั้งฉบับ ต้องต่อสู้กันอีกยาว ที่จะแก้ 6 ประเด็นนะหรือ มาตรา 237 ไม่มีความหมายแล้ว ไม่มีควายที่ไหนส่งกรรมการบริหารลง ส.ส.เขตให้จับใบแดงยุบพรรค ปชป.ยังลดกรรมการบริหารเหลือแค่ 15 คนก่อนเพื่อน

แน่นอนว่าเลือกตั้งแล้วความขัดแย้งยังอยู่ แต่การต่อสู้จะค่อยๆ เข้าไปอยู่ในกรอบ ถ้าคุณบอกว่ายุบสภาใน 6 เดือน ม็อบเสื้อแดงก็จะไม่มาอีกแล้ว แต่จะกลับไปเข้าสู่กระบวนการรณรงค์เลือกตั้ง (อย่างมากอาจจะมาไล่ กกต. เลียนแบบพันธมิตร ไม่ได้ยุนะ-ฮิฮิ)

อย่างน้อย พรรคการเมืองใหม่ก็จะได้แจ้งเกิดเสียที ไม่ต้อง fly kite กันฟรีๆ อยู่แบบนี้ สนธิ ยะใส จะได้ประกาศนโยบายแก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชน (ตามแนวทางลัทธิประเวศแข่งกับทักษิโณมิคส์-ฮิฮิ)

แล้วอย่าไปกลัวล่ะว่าจะเข้าทางทักษิณ คุณอยากทำอะไรเขาอีก ต้องโทษจำคุกก็แล้ว ยึดทรัพย์ก็แล้ว พันธนาการที่ทำไว้กับทักษิณน่ะ ต่อให้ชนะเลือกตั้งเข้ามาก็แก้ไม่ได้ง่ายๆ มันต้อง “ปฏิวัติประชาชน” เท่านั้น อยากเห็นแบบนั้นไหมล่ะ อยากเห็นก็กดกันต่อไป

พูดง่ายๆ ว่าถ้าผมเป็นทักษิณนะ ใจจริงก็ไม่อยากให้ยุบสภาหรอก แต่อยากให้มีอะไรเปรี้ยงปร้างในวันสองวันนี้ดีกว่า จริงไหม เลือกตั้งเดิมพันสูง แพ้ขึ้นมาจบเห่

พูดอย่างนี้ไม่ใช่จะให้ขี่ม้าสามศอกไปบอกอภิสิทธิ์ว่ายุบสภาเหอะ ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลายจะพิจารณาจังหวะเวลาที่เหมาะสม ผมแค่ฝากเตือนว่า หนึ่ง พระห้ามญาติช่วยไม่ได้ และสอง ยุบสภาเป็นทางออกที่ชอบธรรมและลดความรุนแรง

เสื้อแดง-ขึ้นได้สวย

หวังว่าคงไม่มีแต่... และคงไม่ใช่แค่ลำไม้ไผ่

ในขณะที่เรียกร้องนักสันติวิธีให้มองเสื้อแดงว่าถอยไม่ได้ เสี่ยงต่อความรุนแรง ผมก็ไม่สามารถยุเสื้อแดงว่า “ถอยไม่ได้” เพราะเสี่ยงกับความรุนแรง เสียเลือดเนื้อ และความพ่ายแพ้

ถึงอย่างไรก็ต้องยึดการต่อสู้โดยสันติ สู้ยืดเยื้อ และไม่ใช่สงครามครั้งสุดท้าย

มวลชนเสื้อแดงต้องพร้อมที่จะทำใจว่า ถ้าต่อสู้ถึงที่สุดแล้ว รัฐบาลดื้อรั้นไม่ยุบสภา คุณก็ต้องถอยได้ เพื่อกลับมาใหม่ เพื่อการต่อสู้ครั้งใหม่ ที่อาจได้รับชัยชนะที่เหนือกว่า อย่าคิดว่ากลับครั้งนี้ต้องแพ้เลย

ถ้าดูการเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 12-15 มี.ค. และอาจจะต่อเนื่องถึงวันที่ 16 มี.ค. ที่ประกาศกรีดเลือด ผมเห็นว่าเสื้อแดงขึ้นต้นได้สวย ไม่เพลี่ยงพล้ำ แม้ต้องเผชิญหน้ารัฐบาลสร้างภาพถูกจริตคนกรุงคนชั้นกลาง รวมทั้งสื่อ นักวิชาการ (สวมคราบ) ที่รุมกระหน่ำแทบข้างเดียว

นั่นคือเสื้อแดงให้ภาพของมวลชนที่ฮึกเหิม มาด้วยใจ สู้ไม่ถอย มีความเป็นระเบียบพอสมควร มีจำนวนที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องอึ้งทึ่งไปเลย แถมยังมี gimmick แบบยกขบวนแห่ ยกทัพเรือ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการสร้างภาพผีป่าจะมาปล้นเมืองของไอ้เทือกไอ้ไทแล้วคนละเรื่อง ทำให้รัฐบาลต้องถอยไปตั้งรับ ยืนกรานแต่ว่าจะไม่ออก ไม่ยุบ แล้วก็เที่ยวก่อกวนเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขอหมายจับอริสมันต์ในวันก่อม็อบพอดี หรือพอจะกรีดเลือด ก็แห่กันออกมาโวยวายแปลกๆ เช่น จะติดเอดส์ติดเชื้อไวรัส หรือห้ามแพทย์พยาบาลเจาะเลือดเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองถือว่าผิดจรรยาบรรณ (สิทธิส่วนบุคคลของเขา แพทยสภาไปยุ่งอะไรวะ กลับไปทำมาหาเงินไป๊)

การกรีดเลือดประท้วงเป็นประเพณีแต่โบราณ ไม่ใช่เรื่องของแพทยสภา พยาบาล หรือสภากาชาด ที่จะมาเที่ยวปากมากปากเมนท์ นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่ไอ้เทือกไม่ส่งตีความว่าเลือดเป็นอาวุธหรือไม่ ยุ่งนัก เดี๋ยวยุให้ปาขี้เสียเลย (ฮา-แต่อย่าลืมนะครับ อารยะขัดขืน ถ้าทำต้องรับสารภาพ มอบตัว รับโทษจำคุก 10 วัน)

กลับมาเข้าเรื่องว่า ภาพรวมใน 4-5 วันคืออะไร คือม็อบเสื้อแดงไม่ได้รับการต่อต้านจากชาวบ้านบางระจัน (ฮา) ตรงกันข้ามยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนกรุง ทั้งเสื้อแดง หรือไม่ใช่เสื้อแดงแต่เบื่อหน่ายรัฐบาลนี้ ซึ่งจำนวนไม่น้อยเป็นคนชั้นกลาง เช่นภาพในประชาไทวันเคลื่อนทัพไปราบ 11 มีคนมาโบกธงแดง ผ้าแดง ต้อนรับตลอดสองข้างทาง ตั้งแต่ยาม คนงาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล คนขับรถเมล์ ไปจนกระทั่งพนักงานบริษัทผูกไท และคนทุกประเภท

นี่คือชัยชนะแล้ว นี่แสดงให้เห็นพลังของเสื้อแดงที่ไม่ได้มีแค่อยู่ในม็อบ แต่อยู่ทั่วทุกหัวระแหงในกรุง และในประเทศนี้ รวมถึงผู้มีใจเป็นธรรมที่แม้ไม่ใช่เสื้อแดงก็มองเห็นความอยุติธรรม อำมาตย์ ผู้ดี สื่อ เห็นแล้วต้องตกใจว่าพวกเขาเหลือมวลชนอยู่แค่ไหน (เหลืออยู่ในโพลล์-ฮา)

ฉะนั้น ถ้าเสื้อแดงยึดมั่นในการต่อสู้โดยสันติ ใช้มาตรการอารยะขัดขืน ที่ไม่ยกระดับไปสู่ความรุนแรง อย่างน้อยก็จะได้ชัยชนะในจิตใจประชาชน ซึ่งแม้จะเป็นชัยชนะที่เป็นนามธรรม แต่มีผลใหญ่หลวงในการต่อสู้ระยะยาว พร้อมกับลบภาพความรุนแรงเมื่อสงกรานต์ที่แล้ว ถ้าม็อบเสื้อแดงครั้งนี้สามารถกลับบ้านโดยสันติ ผู้คนก็จะลืมเหตุการณ์เมื่อสงกรานต์ และคุณจะมาใหม่อีกเมื่อไหร่ก็ได้

มวลชนเสื้อแดงจึงต้องตระหนักว่า การเคลื่อนไหวจะต้องไม่ยกระดับสู่ความรุนแรง แต่คุณต่อสู้ยืดเยื้อได้ ยาวนานได้ แปรการต่อสู้นี้ให้มวลชนในกรุงเทพฯ เข้าร่วม ทั้งพี่น้องคนยากคนจน คนชั้นกลาง ซึ่งประเด็นสำคัญคือสร้างความเชื่อมั่นว่าพวกคุณจะม็อบโดยสันติ ไม่ยึดอนุสาวรีย์ ไม่บุกมหาดไทย คนชั้นกลางก็จะเข้าไปร่วมกับคุณมากขึ้น

จะเป็นอะไรไปล่ะครับ ถ้าการต่อสู้จะยืดเยื้อไปอีกสักหน่อย ไม่ใช่อยู่แค่ 4 วัน อาจจะ 7 วันถึงวันแดงเดือด (แมนฯยูถล่มลิเวอร์พรุน ฮิฮิ) หรืออยู่ยาวไปกว่านั้น ใครมีธุระกลับก่อน ที่บ้านใครว่างก็มาเสริม (แต่ลำบากหน่อยนะ งานนี้ท่อน้ำเลี้ยงน้อย หลังทักษิณถูกยึดทรัพย์ สื่อพาดหัวว่ามีท่อน้ำเลี้ยงแค่ร้อยล้าน ลดราคาจากเมื่อก่อนที่พาดหัวหลายร้อยล้าน-ฮา)

7 วัน 10 วัน ไม่ต้องถึง 193 วัน “ไม่ชนะ” ในทางข้อเรียกร้องก็กลับได้ เพราะ “ชนะ” ในขั้นตอนทางยุทธศาสตร์ คุณต้องเชื่อมั่นว่า “ระบอบไม่เอาทักษิณ” ที่ไร้ความชอบธรรม ไร้ประสิทธิภาพ ขัดแย้งในตัวมันเอง ไม่มีทางอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าคุณกลับวันอาทิตย์นี้แล้วอภิสิทธิ์จะเสวยอำนาจอยู่ราบรื่นถึงปลายปีหน้า (ว่างจากการผลิตเมื่อไหร่ค่อยยกทัพกลับมาทางด่านเจดีย์สามองค์)

ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้บอกไม่ให้กดดัน เพราะในการเคลื่อนไหว แกนนำต้องกำหนดมาตรการกดดันอยู่แล้ว จะมานั่งตบแปะอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ว่าวันที่ 17, 18 หรือวันต่อๆ ไปจะมีมาตรการอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องดูไปวันต่อวัน

เพียงแต่ถึงที่สุดคือในภาวะล่อแหลมของการตัดสินใจ จะต้องยึดแนวทางสันติ ไม่ก่อความรุนแรงก่อน เพราะรุนแรงก่อนก็แพ้ ต้องมองสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น และมองให้เห็นการต่อสู้ระยะยาว ซึ่งลำพังเสื้อแดงไม่สามารถเอาชนะอำนาจที่ครอบงำอยู่ได้ คุณต้องสร้างแนวร่วม คุณต้องมีคนชั้นกลาง คุณต้องมีพลังอื่นๆ คู่ขนาน อย่าให้ความรุนแรงทำลายแนวร่วม ทำลายอนาคต

เพราะถ้าขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่เหมือนสงกรานต์อีก คราวนี้แพ้หนักเลยนะครับ

ใบตองแห้ง
15 มี.ค.53
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท