นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาการเตรียมความพร้อมด้านแรงงาน เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาแรงงาน โดยเน้น 2 เรื่องหลัก คือ การจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติและการพัฒนาแรงงานด้านต่างๆ เช่น ทักษะฝีมือ ภาษา วัฒนธรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเบื้องต้นแรงงานไทยมีทักษะฝีมือดีเกือบทุกสาขา แต่มีจุดอ่อนในเรื่องภาษาต่างประเทศทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาในประเทศอาเซียน และไอที ซึ่งกระทรวงแรงงาน จะร่วมกับองค์กรเอกชน สถานประกอบการ สมาคมวิชาชีพด้านภาษาและไอที พัฒนาทักษะทั้งสองด้านให้แรงงานไทย โดยเฉพาะภาษาต่างประเทศ เพื่อให้แรงงานกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ไม่ถูกแรงงานกลุ่มประเทศอาเซียนเข้ามาแย่งอาชีพแรงงานไทย เพราะแม้แรงงานไทยมีอุปนิสัยและพฤติกรรมการทำงานที่ดี แต่ไม่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ ผู้ประกอบการย่อมเลือกที่จะจ้างแรงงานที่มีทักษะด้านภาษามากกว่า 

 

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงาน ได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาวิจัยผลกระทบด้านแรงงานที่จะเกิดขึ้น หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ทราบผลกระทบ จุดอ่อน-จุดแข็งแรงงานแต่ละประเทศ คาดว่าแล้วเสร็จเดือนกรกฏาคมนี้ เพื่อนำข้อมาประกอบการจัดทำร่างแผนฯ เสร็จแล้วจะให้ฝ่ายต่างๆ ร่วมวิเคราะห์และให้ข้อเสนอแนะ จากนั้นกระทรวงแรงงานจะปรับปรุงร่างแผนฯ ให้สมบูรณ์เพื่อเสนอนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พิจารณาต่อไป 

 

(สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, 3-6-2555)

 

 

นายพิทูร ดำสาคร จัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานแจ้งว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศมุสลิมที่เคร่งครัดในหลักคำสอนทางศาสนาอิสลาม หากผู้ใดกระทำผิดต่อคำสอนของศาสนาหรือกฎหมายจะได้รับการลงโทษขั้นเด็ดขาด ซึ่งมีแรงงานไทยจำนวนมากกระทำผิดกฎหมายต้องถูกปรับ จำคุก และถูกศาลตัดสินลงโทษห้ามเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอดชีวิต ทำให้เสียเงิน เวลา และโอกาสในการทำงาน รวมทั้งส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของแรงงานไทยที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในอนาคตโดย มีข้อมูลฐานความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา คดียาเสพติดที่มีไว้ครอบครองโทษประหารชีวิต คดีลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่นโทษขั้นต่ำจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และเนรเทศไม่ให้เดินทางเข้าประเทศตลอดชีวิต 

 

ทั้งนี้ จัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า แรงงานไทยหลายรายถูกตำตรวจจับกุมเนื่องจากนำโทรศัพท์มือถือที่เก็บได้ไปใช้ แม้เปลี่ยนซิมเป็นของตนเองแล้วก็ตาม ดังนั้นจัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงเตือนประชาชน หากต้องการเดินทางไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ความเคารพและ ปฏิบัติตามขนบธรรมและกฎหมายของท้องถิ่น ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาคารศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน ชั้น 2 ถนนสุราษฎร์ – นาสาร ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร.077355422-3 ต่อ 11,12 

 

(สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, 5-6-2555)

 

 

กรมการจัดหางานกระทรวงแรงงาน ได้รับแจ้งจากสำนักงานแรงงานในประแทศมาเลเซียว่า แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานกับนายจ้าง บริษัท Otop Golden Sadn Sdn.Bhd. ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ที่ Lot F21,1 Floor, Ampang Point Shopping Center,Ampang, Selangor ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบในการทำงานมาโดยต่อเนื่อง เช่น ให้แรงงานไทยทำข้อตกลงในการจ่ายค่าใบอนุญาตทำงานแทนนายจ้างเมื่อเดินทางถึง ประเทศมาเลเซีย การหักค่าประกันสัญญาจ่าง ให้ทำงานหนัก ไม่มีวันหยุดพักผ่อน และไม่ได้รับสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายแรงงานในประเทศมาเลเซีย รวมทั้งได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสำนักงานแรงในประเทศมาเลเซียได้ดำเนินการช่วยเหลือให้แรงงานไทยดังกล่าว เดินทางกลับประเทศไทยและประสานนายจ้างเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่นายจ้างไม่ให้ความร่วมมือใดๆและไม่สนใจแก้ปัญหา 

 

สำนักงานจัดหางานจังหวัดสกลนคร จึงขอแจ้งเตือนผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ให้ทราบพฤติกรรมของนายจ้างดังกล่าว และขอเตือนคนหางานให้เดินทางไปทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย จัดทำสัญญาจ้างกับนายจ้างก่อนการเดินทาง และสัญญาจ้างดังกล่าวต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ หรือสถานทูต สถานกงสุลไทยในประเทศที่จะไปทำงาน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาจ้าง ความเหมาะสมของสถานที่ทำงาน และสภาพการจ้างงาน รวมทั้งความสอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่น เพื่อเป็นการกลั่นกรองความเหมาะสมของการจ้างงานและคุ้มครองแรงงานไทยก่อน เดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสกลนคร ถนนสุขสวัสดิ์ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โทร.042-714778-9 

 

(สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, 5-6-2555)

 

 

6 มิ.ย. 55 - นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงาน พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วยนายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และนายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีกำหนดการเดินทางไปสมาพันธรัฐสวิส เพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ประจำปีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) สมัยที่ 101 ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายนนี้ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยนายเผดิมชัย มีกำหนดการปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่ ณ ห้องสมัชชาใหญ่ องค์การสหประชาชาติ ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จะนำเสนอให้ที่ประชุมได้รับทราบว่ารัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างและ ขยายหลักประกันให้คนทำงานทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการการคุ้มครองทาง สังคมในหลายด้าน และเข้าร่วมการประชุมในกลุ่มรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในวันที่ 8 มิถุนายน 2555 ด้วย ขณะนี้มีผู้แจ้งเข้าร่วมการประชุมใหญ่สมัยที่ 101 จากประเทศสมาชิก 184 ประเทศ และองค์การระหว่างประเทศต่างๆ รวมทั้งหมดประมาณ 5,000 คน และนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี และผู้นำพรรคฝ่ายค้านของพม่า มีกำหนดปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่ไอแอลโอ ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ด้วย. 

 

(สำนักข่าวไทย, 6-6-2555)

 

 

วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสตูล นายวัชรินทร์ ทองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติกระทรวงแรง งานจังหวัดสตูล เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วน และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพแก่ผู้ประสบภัย ธรรมชาติ พ.ศ.2551 ประจำปีงบประมาณ 2555 

       

โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเข้าร่วมประชุม เช่น สำนักงานแรงงาน สำนักงานจัดหางาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งผู้แทนอำเภอทั้ง 7 อำเภอ 

       

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน ได้จัดสรรงบประมาณประจำปี 2555 ให้จังหวัดสตูล จำนวน 1 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ พ.ศ.2551 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยธรรมชาติได้มีงานทำ สร้างโอกาส และทางเลือกในการประกอบอาชีพ มีรายได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน 

       

สำหรับจังหวัดสตูล ได้อนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้แก่อำเภอต่างๆ ดำเนินโครงการ รวม 19 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ 17 ตำบล 27 หมู่บ้าน เช่น โครงการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณะ โครงการปลูกป่าชายเลน โครงการบำเพ็ญประโยชน์มัสยิด โครงการบูรณะที่พักสงฆ์ เป็นต้น 

       

นอกจากนี้ ยังจัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เช่น หลักสูตรการทำอาหารฮาลาล การทำจักสาน การทำขันหมากแต่งงาน การทำขนมพื้นบ้าน การยกระดับการตัดเย็บเสื้อผ้า มีผู้ประสบภัยเข้าร่วมโครงการ จำนวน 448 คน เสร็จสิ้นโครงการภายในเดือนกรกฎาคม 2555 

 

(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 7-6-2555)

 

 

นพ.พูลชัย จิตอนันตวิทยา ที่ปรึกษาภาคีหมออนามัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การคัดกรองโรคพบว่า ร้อยละ 96 ของผู้หญิงที่อยู่ในระบบประกันสังคม (สปส.) ไม่เคยใช้สิทธิรับการตรวจคัดกรองโดยเฉพาะโรคมะเร็งปากมดลูก ส่งผลให้ปัจจุบันยังมีผู้หญิงเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก เสียชีวิตสูงถึงวันละ 15 ราย ซึ่งในปีนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก "ในกลุ่มผู้ประกันตนทุกระบบ" จำนวน 1 ล้านราย โดยเริ่มต้นที่โรงงานอุตสาหกรรมก่อน โดยตนได้หาวิธีการตรวจเพื่อย่นระยะเวลาให้เหลือ1 นาที และลดความน่ากลัวของการตรวจซึ่งประสบผลสำเร็จ 

 

ผลจากการตรวจคัดกรองคนงานในโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 4,700 ราย จากการตรวจ 11,100 ราย พบว่ามี 44 รายที่อยู่ในระยะที่จะเป็นมะเร็ง อายุตั้งแต่ 26-37 และมี 3 รายที่เป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น ดังนั้นตนจึงได้ทำเรื่องส่งต่อไปยังรพ.เอกชน 6 แห่ง ที่ผู้ป่วยใช้สิทธิประกันตนอยู่ ซึ่งตามปกติเมื่อเอาผลตรวจไปที่รพ.ควรตรวจเพิ่มเติมแล้วเอากล้องชนิดพิเศษ ส่องเข้าไปบริเวณปากมดลูกเพื่อดูเนื้อเยื่อที่ผิดปกติแล้วใช้เครื่องมือที่ มีลักษณะเป็นขดลวดที่มีความร้อนปาดเนื้อเยื่อตรงนั้นออกมา(LEEP) แต่ 6 รพ.นี้ไม่มีเครื่องมือดังกล่าวเลยทั้งๆ ที่เป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้อยู่ และใน รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีอยู่ทุกแห่ง และ รพ.ยังปฏิเสธการรักษา อ้างว่าผลตรวจที่เราส่งไปใช้ไม่ได้ ถ้าให้ทาง รพ.ตรวจเอง โดยใช้เครื่องเก็บเซลล์ที่เป็นไม้ไอติมซึ่งมาตรฐานต่ำกว่าที่เราใช้ จึงไม่พบอาการผิดปกติ และไม่มีการส่งตัวรักษา แต่ผู้ป่วยพยายามขอตรวจซ้ำและเจอเซลล์มะเร็งจริงๆ ในอีก 2 เดือนถัดมา และประสบกับปัญหาน้ำท่วมพอดี 

 

"1 ใน 3 ของผู้ที่ตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งนั้น เมื่อ2 ปีที่แล้วเคยมาตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งนี้แล้วพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้น แต่ทาง รพ.บอกว่ายังไม่รุนแรงให้รอไปก่อน ไม่กระตือรือร้นรักษาหรือหาเครื่องมือต่อมาผู้ป่วยคนเดิมมีอาการเข้าสู่ระยะ ที่ 2 ถ้า รพ.ผ่าตัด ดีอาร์จีจะเกิน 2 และเมื่อ24 เม.ย.ที่ผ่านมา กรรมการ สปส.เพิ่งจะขึ้นค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็งจากเดิม 50,000 เป็น 270,000 บาท ซึ่งทำให้ รพ.เบิกเงิน สปส.ได้เงินเยอะเลย" นพ.พูลชัยกล่าว และว่า กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่ 6 รพ.เอกชนไม่ได้เรื่องแต่เป็นระบบการควบคุมคุณภาพของ รพ.ใน สปส.ไม่ได้เรื่องและสะท้อนว่าระบบของ สปส.ล้าหลังกว่า สปสช. 

 

(ไทยโพสต์, 7-6-2555)

 

 

นายเอกลักษณ์ พรหมพันธ์ใจ ประธานสหภาพแรงงานชินเอ ไฮเทค กล่าวว่า สภาพปัญหาของคนงานชินเอนั้น ตั้งแต่ได้เดินทางมาร้องขอให้กระทรวงแรงงานช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน ระหว่างสหภาพแรงงานกับนายจ้างบริษัทชินเอ ไฮ-เทค จำกัด วันนี้กรณีการให้ความช่วยเหลือยังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากไม่สามารถที่จะ เชิญนายจ้างที่มีอำนาจเข้ามาพูดคุยปรึกษาหารือเพื่อทำข้อตกลงกันได้ แต่ขณะนี้มีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก คือ เรื่องของการที่สำนักงานพันธเดชาธรรมทนายความ และธุรกิจ ที่ลงนามโดยนายชัยรัตน์ ทัดเทียม ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้มีการส่งหนังสือไปตามทะเบียนบ้านของคนงานทั้งหมดลงวันที่ 30 เมษายน 2555 

 

“ขอให้ชดเชยเงินค่าเสียหาย โดยในหนังสือระบุว่าตามที่ได้มีเพื่อนพนักงานอื่นๆอีกจำนวนลายคนได้ร่วมกัน นัดหยุดงาน และหรือผละงานละทิ้งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24-28 เมษายน2555 อันเป็นการจงใจทำให้บริษัทนายจ้างได้รับความเสียหาย รายละเอียดตามที่ทราบดีอยู่แล้วนั้น จากการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการกระทำของพวกคุณตั้งแต่ วันที่ 25-28 เมษายน2555 ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายต่องานผลิตสินค้าที่บริษัทได้วางแผนไว้ เสียหายต่อชื่อเสียง เสียหายต่อการสูญเสียโอกาสในการทำธุรกิจ คิดเป็นเงิน 200,000,000 (สองร้อยล้านบาท) ดังนั้น ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของบริษัทฯ ขอให้คุณได้โปรดนำเงินจำนวน 200,000,000 (สองร้อยล้านบาท) มาชำระคืนให้แก่ บริษัทฯให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 7 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับหนังสือทวงถามฉบับนี้ หากพ้นกำหนดดังกล่าวข้างต้นแล้วคุณยังคงเพิกเฉยอยู่ ข้าพเจ้ามีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับท่านตามกฎหมายต่อ ไป” 

 

นายเอกลักษณ์ พรหมพันธ์ใจ กล่าวว่า ผลจากหนังสือนี้สร้างผลกระทบต่อชีวิตของคนงานจำนวนมาก คือมีอยู่หนึ่งรายที่คุณแม่ช็อกเข้าโรงพยาบาลเมื่อรับจดหมายให้ชดเชยค่าเสีย หาย และมีอีกหลายคนที่สามีขอหย่า หรือเรียกให้กลับเข้าไปทำงาน และพ่อ แม่ โทรมาสอบถามเรื่องความเป็นมาดังกล่าวว่า ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับครอบครัวคนงานอย่างมาก ซึ่งตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมสำนักงานทนายความจึงได้ส่งหนังสือไปตามบ้านคนงาน เพราะคนงานไม่ได้อยู่ที่นั้นหากพ่อ แม่คนงานช็อกเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบต่อการสูญเสียของเขา ซึ่งประเด็นนี้ตนคงต้องปรึกษาหารือกับขบวนการแรงงานเพื่อให้ช่วยจัดการให้ ความเป็นธรรมต่อเราด้วยเพราะเราต้องการแค่เจรจากับนายจ้างของเราเพื่อช่วย กันหาทางออก เรายังเชื่อว่าหากได้คุยกับนายจ้างจะสามารถหาข้อยุติได้ เพราะเรามีแรงงานสัมพันธ์ที่ดีด้วยกันมาโดยตลอด 

 

“ตามจริงแล้วเดิมนายจ้างจะเป็นคนดูแลและจัดสวัสดิการต่างๆให้โดยใช้แรง งานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ใช้ท่าทีในการพูดคุยหารือกันเสมอเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา วันนี้ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่มีการจ้างผู้จัดการฝ่ายบุคคลใหม่เข้ามา มีการปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงาน เพิ่มอำนาจหัวหน้า และมีการตรวจสอบคุณสมบัติของกรรมการสหภาพแรงงาน และการส่งหนังสือเวียนขอคืนสภาพการจ้างเดิม ทำให้เกิดความระส่ำระสายความไม่มั่นใจของคนงานที่ทำงานในบริษัท แต่อย่างไรพวกตนยังเชื่อมันในนายจ้างว่าทุกอย่างมีทางออกหากมีการพูดคุย ปรึกษาหารือร่วมกัน” นายเอกลักษณ์ กล่าว 

 

นายภูมิพัฒน์ ขจรพบ คนงานชินเอกล่าวว่า ตนและเพื่ออีก 3 คนได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ที่ออกมาเมื่อวันที่ 26 เมษายนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช 2477 มาตรา 52 ด้วยเหตุที่ต้องหาว่า “ร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกาย นายจรัญ คัมภิรานนท์” ซึ่งในความจริงตนกับเพื่อนๆไม่เคยรู้จักหน้าตาของคนที่อ้างว่าพยายามทำร้าย ร่างกายเลยแม้แต่น้อย “พวกเราได้ขอแจ้งความกลับแต่ทางตำรวจยังไม่รับแจ้งความ จึงยังไม่ทราบจะทำอย่างไรนอกจากการไปรายงานตัว และปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พ่อแม่ขอพวกเราเป็นผู้ที่รับหมายไว้เช่นกัน ซึ่งก็ตกใจอยู่ดีๆมีหมายมาถึงบ้านว่าลูกๆของเขาทำผิด”    

 

นายนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า จากการที่ทางคนงานชินเอ มาร้องทุกข์และปรึกษาหารือกับทางคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือนั้น จริงทาง คสรท.ได้ทำงานร่วมกับทางสภาองค์การลูกจ้างยานยนต์แห่งประเทศไทย และได้รับหนังสือขอความช่วยเหลือแล้ว กำลังดำเนินการในการรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง และงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนงานชินเอ “วันนี้ได้รับฟังข้อเท็จจริงจากคนงานแล้ว ดูเหมือนว่าทางนายจ้างจะว่าจ้างสำนักงานทนายความในการกระทำการแทนดังนี้ 1. มีการส่งจดหมายเวียนถึงคนงานเพื่อขอลดสวัสดิการทั้งหมด นำมาซึ่งการยื่นข้อเรียกร้องของคนงานที่มีถึง 35 ข้อด้วยจริงคือสภาพการจ้างเดิม มีข้อเรียกร้องใหม่ไม่กี่ข้อ 2. มีการใช้ความไม่รู้ของคนงานในการออกจดหมายขู่ว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท และการส่งหมายเรียกตัวผู้ต้องหา กรณีพยายามทำร้ายร่างกาย ไปตามบ้านเกิดของคนงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิต และครอบครัวของคนงานอย่างมาก อันนี้ต้องมีคนรับผิดชอบต่อประเด็นดังกล่าว เพราะพ่อ แม่ คนงาน ส่วนใหญ่ไม่รู้กฎหมายเมื่อเห็นข้อความต่างๆที่ดูเป็นทางการของสำนักงานฯ นำมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิตครอบครัว การต่อสู้ของคนงานครั้งนี้เขาต้องการความเป็นธรรมสิ่งที่เคยได้เคยมี และเขายังเชื่อว่าเขากับนายจ้างสามารถที่จะพูดคุยกันได้ จึงคิดว่ากระทรวงแรงงานคงต้องหาทางช่วยให้คนงานได้พูดคุยกับนายจ้างแทนการ พูดคุยผ่านตัวแทนที่ไม่มีอำนาจ” นายชาลี ลอยสูง กล่าว 

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้ส่งหนังสือเชิญชวนสมาชิก แนวร่วม พันธ์มิตรร่วมให้กำลังใจกับพี่น้องคนงานชินเอ ไฮเทค โดยจะมีการบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับพี่น้องคนงานชินเอเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในวันที่ 7 พฤษภาคม 2555เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงแรงงาน 

 

(ว๊อยซ์เลเบอร์, 7-6-2555)

 

 

นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายวิลเลี่ยม เลซี สวิง ผู้อำนวยการใหญ่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เข้าพบ ว่า ทางไอโอเอ็มได้ทยอยแจ้งจำนวนความต้องการแรงงานของนายจ้างอิสราเอลมายัง กระทรวงแรงงาน โดยขณะนี้มีกว่า 50 ตนแล้ว ซึ่งทางกระทรวงอยู่ระหว่างดำเนินการจับคู่ตำแหน่งงานและคัดเลือกคนงานเพื่อ ไปทำงานภาคเกษตรภายใต้โครงการร่วมมือไทย-อิสราเอล (Thailand-Israel Cooperation on thePlacement of Workers: TIC) ทั้งนี้คาดว่าจะมีการจัดส่งแรงงานลอตแรกปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยคนงานที่เดินทางไปทำงานภายใต้โครงการดังกล่าวจะเสียค่าใช้จ่ายไม่เกิน 70,000 บาท 

 

นอกจานี้ ทางไอโอเอ็มได้เสนอให้ทางกระทรวงแรงงานจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศ ลิเบียร่วมกับไอโอเอ็ม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับแรงงานและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป ทำงานต่างประเทศด้วย เนื่องจากขณะนี้ประเทศลิเบียขาดแคลนแรงงานและมีความต้องการจ้างแรงงานต่าง ชาติจำนวนมาก ซึ่งตนได้หารือกับทางไอโอเอ็มว่าอยากขอให้สถานการณ์ในประเทศลิเบียปลอดภัย ก่อน 

 

ขณะเดียวกันทางไอโอเอ็มได้มาเรียนเชิญนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.กระทรวงแรงงานร่วมประชุมกล่าวปาฐกถาในเวทีไอโอเอ็มที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 ด้วย 

 

(แนวหน้า, 8-6-2555)

 

 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ในฐานะประธานคณะทำงานผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคม กล่าวว่า กองทุนประกันสังคมมีเงินมหาศาลประมาณ 1 ล้านล้านบาท ใหญ่เทียบเท่าสถาบันการเงิน มีสมาชิกทั้งในและนอกระบบกว่า 10 ล้านคน  แต่การเลือกคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) กลับไม่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ที่เสนอแก้ไขโดยประชาชน 14,264 รายชื่อ  จึงเสนอแก้ไขที่มาของเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมจากเดิมเป็นข้าราชการ ประจำมาจากการแต่งตั้งของ รมว.แรงงาน ก็แก้ไขเป็นมาจากการสรรหาแทนเพราะจะได้คนที่เป็นมืออาชีพมากกว่า ส่วนบอร์ดประกันสังคมก็มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 4 ปี เป็นได้ 2 สมัย  ทุกขั้นตอนต้องให้สมาชิกที่จ่ายเงินสมทบมีส่วนร่วม สามารถตรวจสอบการบริหารงานได้ อย่างไรก็ตามทราบว่า ร่างแก้ไขของกระทรวงแรงงานนั้นไม่ได้แตะเรื่องที่มาของตัวบุคคลที่จะมาบริ หารสำนักงานและกองทุนแต่ไปเน้นเรื่องสิทธิประโยชน์แทน 

 

นายนคร ศิลปอาชา รองปลัดกระทรวงแรงงาน  กล่าวว่า คาดว่าในวันที่ 12 มิ.ย. กระทรวงแรงงานจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ในเดือน ส.ค. 

 

ด้าน นายแล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวว่า พ.ร.บ.ประกันสังคมยังเป็นเครื่องมือสนองประโยชน์ของรัฐและต่อรองกับภาคเอกชน ไม่ใช่เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง. 

 

(เดลินิวส์, 9-6-2555)