ทนายความเผยสาเหตุการตายของ “บุ้ง ทะลุวัง” เบื้องต้นทราบว่ามาจากอาการหัวใจล้มเหลว แต่ยังต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปที่จะมีในวันพรุ่งนี้ว่าการตายนั้นเกิดจากเหตุผิดธรรมชาติหรือไม่ ส่วนเพื่อนๆ จะสานต่อเจตนารมณ์ของบุ้งตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ผู้เห็นต่างต้องไม่ติดคุก และไทยไม่ควรได้เป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของ UN

14 พ.ค.2567 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ เพื่อนของเนติพรได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยได้ขอประกาศว่าเนติพรได้จากไปแล้วหลังจากการอดอาหารมาร้อยกว่าวันในคดีมาตรา 112 และศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้เนติพรประกันตัว โดยเวลาที่แพทย์แจ้งอย่างเป็นทางการว่าเนติพรเสียชีวิตคือเมื่อเวลา 11.22 น.

“เป็นที่ทราบกันในสังคมแล้วว่า 112 ได้พรากชีวิตของบุ้งไปเรียบร้อยแล้ว” ณัฐนิชกล่าว

ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์

เพื่อนของบุ้งอีกคนได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาเนติพรมีข้อเรียกร้องสามข้อคือ ประเทศไม่ควรจะได้เป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและเหตุการณ์ในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทำไมไทยไม่ควรได้เป็นเพราะการที่เนติพรไม่ได้รับการประกันตัวมารวมถึงการต้องกลับเข้าเรือนจำอีกครั้งด้วยเหตุผลเรื่องคดีมาตรา 112 และรัฐก็ยังเป็นคู่กรณีกับประชาชนด้วย ทุกสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย ทางเพื่อนของเนติพรก็อยากจะสานต่อเจตนารมณ์เรื่องนี้

เพื่อนบุ้ง (ไม่ประสงค์ออกนาม)

เพื่อนของบุ้งกล่าวต่อว่า นอกจากนั้นข้อที่สองคือต้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ก็เป็นเรื่องที่สืบเนื่องกับที่กล่าวไปข้างต้นคือต้องมีสิทธิในการประกันตัวในคดีมาตรา 112 และข้อสามผู้มีความเห็นต่างทางการเมืองไม่ควรจะต้องติดคุกหรือถูกดำเนินคดีอีกเพราะคดีเหล่านี้คู่กรณีคือประชาชนกับรัฐ

กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า เนติพรเสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลาประมาณ 11 โมงเศษ ส่วนสาเหตุที่เขาได้รับแจ้งเบื้องต้นคือหัวใจล้มเหลว แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงแพทย์จะมีการชันสูตรพลิกศพโดยมีการผ่าพิสูจน์ในวันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้า และส่งผลเลือดต่างๆ ไปตรวจ โดยวันนี้ร่างของบุ้งจะยังไว้ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ก่อนเพราะมีขั้นตอนทางกฎหมายที่พนักงานสอบสวนจะต้องมาร่วมกระบวนการชันสูตรพลิกศพและต้องทำการผ่าพิสูจน์เพราะว่าสาเหตุการตายจะผิดธรรมชาติหรือเปล่านั้นจะต้องดูจากการชันสูตรศพ

กฤษฎางค์ นุตจรัส

ทั้งนี้ทนายความบอกว่าตัวเขาเองทราบข่าวเรื่องบุ้งจากทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า ตอน 6 โมงเช้าวันนี้ว่าระหว่างที่บุ้งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชทัณฑ์ยังมีอาการเป็นลมหมดสติแล้วหัวใจหยุดเต้น ทางรพ.ราชทัณฑ์ก็ปั๊มหัวใจให้กลับมาทำงาน แต่ก็ไม่มีผลเพราะสัญญาณชีพก็ไม่มีแล้ว ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์จึงนำส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แล้วทางโรงพยาบาล มธ. ก็ทำการปั๊มหัวใจต่ออีก 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจริงๆ ก็หมดหวังอยู่แล้ว และเสียชีวิตในเวลาประมาณ  11 โมง

ทั้งนี้จากสภาพร่างกายของบุ้งที่เขาได้ทราบจากการรายงานของทนายความที่ได้เข้าเยี่ยมเธอมีอาการทางร่างกายคือตัวบวม ปวดท้องแล้วก็มีความอ่อนเพลียแล้วก็บอกว่าเขาป่วย รวมถึงมีอาการนอนไม่หลับ และจากที่ประเมินกันและทราบจากแพทย์ที่ดูแลก็เป็นอาการของคนที่อดอาหารมาแล้วกำลังจะฟื้นร่างกาย เพราะตั้งแต่ครอบครัวบุ้งได้ขอร้องให้ทานอาหารแต่ก็ทานไม่ได้อยู่ดีเพราะอดอาหารมานานก็เลยให้สารโพแทสเซียม แคลเซียม หรือน้ำ แต่ก็ยังอ่อนเพลียอยู่ 

ส่วนเรื่องทางครอบครัวจะติดใจกับการเสียชีวิตอย่างไรบ้าง ทนายความแจ้งว่ายังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้คุยกับทางครอบครัวของเนติพร ก็คงต้องรอการชันสูตรพลิกศพก่อน

กฤษฎางค์ได้กล่าวว่าทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โทรหาเขาและได้แสดงความกังวลใจเรื่องความโปร่งใสของกระบวนการอยู่ก็อยากให้มีการผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เลยไม่ต้องเอาไปที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตัวเขาเองก็เห็นด้วยกับทวีเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรทำให้โปร่งใสเนื่องจากเนติพรเองก็ถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ก็ต้องทำให้โปร่งใสที่สุด

กฤษฎางค์ได้ตอบถึงประเด็นเรื่องพินัยกรรมของเนติพรที่เป็นข่าวด้วยว่าตัวเขาได้เห็นพินัยกรรมแล้วถ้าทำถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายก็ต้องเป็นไปตามเจตนาของเนติพร ส่วนเรื่องนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้จัดการมรดกของเนติพรเป็นคนเปิดเผยดีกว่า

ส่วนทางด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ระบุว่าก่อนเนติพรเสียชีวิตตลอดการทำกิจกรรมทางการเมืองที่ผ่านมาเธอถูกดำเนินคดีรวมทั้งหมด 7 คดี เป็นคดีตามมาตรา 112 อยู่ 2 คดี ได้แก่

1. คดีเหตุพ่น-สาดสี “วัคซีน” และแขวนเชือกดึงรูปปั้นของพระบรมราชชนก ในกระทรวงสาธารณสุข โดยกลุ่มเด็กปากแจ๋ว (เยาวชน) ร่วมกับเยาวชนอีก 3 คน เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2564 , ข้อหา พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ประมวลกฎหมายอาญา ม. 358 ทำให้เสียทรัพย์, คดีอยู่ในชั้นพิจารณาคดี ศาลจังหวัดนนทบุรี ความคืบหน้าล่าสุดคือ อัยการสั่งฟ้องคดีวันที่ 25 เม.ย. 2565   
2. คดีจากเหตุกิจกรรมทำโพลล์ “ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่” ที่บริเวณลานหน้าห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 , ข้อหา มาตรา 112 และมาตรา 116, คดีอยู่ในชั้นพิจารณาคดี, ศาลอาญากรุงเทพใต้, อัยการสั่งฟ้องคดีวันที่ 30 พ.ค. 2565 ความคืบหน้าล่าสุดคือมีนัดสืบพยานวันที่ 20, 27 พ.ค. 2567
3. คดีทำโพลสำรวจ “เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลอนุญาตให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามอัธยาศัย” บริเวณ MRTจตุจักร, BTSห้าแยกลาดพร้าว-สนามเป้า และหน้ากองพลทหารม้าที่ 2 เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 (พ.ต.ท.นาถนริศ รัตนบุรี เป็นผู้กล่าวหา), ข้อหา มาตรา 112 , คดีอยู่ในชั้นพิจารณาคดี ศาลอาญา  // อัยการสั่งฟ้องคดี 23 มิ.ย. 2565 ความคืบหน้าล่าสุดคือมีนัดสืบพยาน 7 มิ.ย., 12 ก.ค., 1-2 ส.ค. และ 2 -3ต.ค. 2567
4. คดีเดินประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุมช่วงประชุม APEC2022 จากบีทีเอสสยาม เข้าไปในห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2565 ป.อาญา มาตรา 362 และ 365 (1) (2) บุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมการทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ความคืบหน้าล่าสุดคือคดีอยู่ในชั้นสอบสวน สน.ปทุมวัน
5. คดีทำกิจกรรม #กระชากกวีซีไรต์ เรียกร้องให้ถอดถอนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จาก สว.หน้ากระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ข้อหา ร่วมกันบุกรุกอาคารหรือสำนวนงานในความครอบครองของผู้อื่น, จุดและปล่อยพลุควันโดยไม่ได้รับอนุญาต ความคืบหน้าล่าสุดคือคดีอยู่ในชั้นสอบสวน สน.ห้วยขวาง
6. คดีถูกกล่าวหาว่าบุกรุกเข้าไปโรงเรียมเตรียมอุดมพัฒนาการศึกษา กับพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ข้อหาร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป อันเป็นการรบกวนครอบครองอสังหารินทรัพย์ของผู้อื่น ความคืบหน้าล่าสุดคือคดีอยู่ในชั้นสอบสวน สน.ประเวศ
7. คดีละเมิดอำนาจศาล จากการกรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระหว่างการรอประกันตัว “โฟล์ค สหรัฐ” ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2566 ความคืบหน้าล่าสุดคือศาลตัดสินมีโทษจำคุก 1 เดือน และคดีสิ้นสุดแล้ว

สำหรับผู้ที่ยังอดอาหารประท้วงในเรือนจำขณะนี้ที่ทางศูนย์ทนายความฯ อัพเดตข้อมูลไว้เมื่อ 7 พ.ค.นอกจากเนติพรแล้ว ยังเหลืออีก 3 คนคือ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน, ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ที่มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เหมือนกับเนติพร ส่วนมงคล ถิระโคตร หรือบัสบาส มีข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข