ใบตองแห้ง 'MEDIA INSIDE OUT': เผา TPBS ไล่ภิญโญ?

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

รายการตอบโจทย์ประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มี.ค. (ที่มาของภาพ: คัดลอกจากไทยพีบีเอส)

 

“ตอบโจทย์” ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตอนที่ 5 กลับมาออกอากาศแล้ว ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนอะไร สถาบันพระมหากษัตริย์ยังดำรงอยู่อย่างมั่นคง พวกที่โวยวายจะเป็นจะตาย ทั้งคนนอกคนใน ก็ไม่ยักมาคัดค้านอีก ยังกับว่าบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว

แต่ TPBS สิ เสียเครดิตไปแล้ว เสียความเชื่อถือ เสียโอกาสที่จะก้าวข้ามความเคลือบแคลงแบ่งฝ่ายไปสู่การเป็น “ทีวีสาธารณะ” ที่แท้จริงทั้งยังเสียภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และทีมงาน “ตอบโจทย์” ไปด้วย

เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็นวัตถุประสงค์ที่บรรลุแล้ว สำหรับคนนอก คือกลุ่มผู้ประท้วง ที่ต่อไปนี้คงไม่มีสื่อไหนกล้าเปิดเวทีถกเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ไม่มีสื่อไหนกล้าเชิญสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไปออกอากาศอีก ทุกสื่อจะก้มหน้าก้มตาสรรเสริญพระบารมีแต่ถ่ายเดียวต่อไป (ไม่ต่างจากมติชนที่กลัวขึ้นหัวขมองจนยกข้อเขียนของเกษียร เตชะพีระ แล้วก็เสียเกษียรไป)

เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็นวัตถุประสงค์ที่บรรลุแล้ว สำหรับคนใน ที่ลุกฮือให้ “ชะลอ” การออกอากาศไปก่อน เพราะ “ชะลอ” จนภิญโญกับทีมงานออกไปแล้ว

 

ตอบโจทย์ Outsource

ใครที่เป็นแฟนประจำ คงทันสังเกตว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 รายการ “ตอบโจทย์” ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ตอบโจทย์ประเทศไทย” และเพิ่มเวลาจาก 20-25 นาทีมาเป็น 45 นาที

“ตอบโจทย์” เดิมเป็นรายการของฝ่ายข่าว หรือสำนักข่าว ออกแบบมาคู่กับ “ที่นี่ทีวีไทย” ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ที่นี่ Thai PBS” หะแรกกะให้เทพชัย หย่อง เป็นพิธีกร ซึ่งคงมันส์น่าดู แต่น่าเสียดาย กรรมการนโยบายท้วงว่าไม่เหมาะ ผอ.ไม่ควรเป็นพิธีกรเอง จึงหาพิธีกรมาเรื่อยจนได้ภิญโญเป็นพิธีกรเอก สลับกับคนอื่นๆ (ช่วงหลังเป็น ดร.ณัฏฐา โกมลวาทิน) โดยตอนแรก ทั้ง 2 รายการนี้ยังเป็นทีมงานเดียวกัน แต่ต่อมา “ตอบโจทย์” แยกเป็นอีกทีมหนึ่ง แต่ยังสังกัดฝ่ายข่าว

จนกระทั่งสมชัย สุวรรณบรรณ มาเป็น ผอ.คนใหม่ เห็นว่า “ตอบโจทย์” เป็นรายการ “เรือธง” ของ TPBS เรียกคนดูได้กว้างขวางที่สุด มีพลังที่สุด จึงปรับเปลี่ยนให้ “ตอบโจทย์” ไปอยู่ฝ่ายรายการ หรือสำนักรายการและสร้างสรรค์ ซึ่งมีสุวิทย์ สาสนพิจิตร์ เป็นผู้อำนวยการ โดยฝ่ายรายการจัดเวลาเพิ่มให้อีก 20 นาที เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนโลโก้ และเปลี่ยนรูปแบบเป็น outsource หมายถึงจ้างคนนอกหมด ตั้งแต่พิธีกร ทีมงาน ค่าใช้จ่าย เดินทาง ค่าเช่าตั้งแต่กล้องไปถึงสตูดิโอ คงมีเพียงโปรดิวเซอร์ หรือบรรณาธิการรายการ อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์ กับทีมงาน 2-3 คนยังเป็นพนักงาน TPBS พิธีกรก็เป็นภิญโญคนเดียว ดร.ณัฏฐาไม่ได้มา “ตอบโจทย์” อีก

นัยว่าการสังกัดอยู่ฝ่ายข่าว ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องไปแย่งกันใช้อุปกรณ์และห้องสตูดิโอ ฯลฯ

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้ใครบ้างไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ เมื่อ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ไปสัมภาษณ์จินตนา แก้วขาว แล้วเรตติ้งกระฉูด ก็เจอใครบางคนวีนใส่ เพราะคุณเธอถือว่า NGO เป็นลูกค้าส่วนตัว อย่ามาแย่งตลาด

และที่แน่ๆ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม อรพินได้ส่งอีเมล์ถึงคนในกองบรรณาธิการร่วม 80 คน โวยว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดเวร

 

“เรียน ทุกท่าน

ดิฉัน อรพิน ลิลิตวิศิษฎ์วงศ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้แจ้งคุณอำไพและคุณก่อเขตด้วยวาจาแล้วว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 56 ว่าวันเสาร์ติดเรียน ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และวันอาทิตย์ ติดเรียนภาษาเวียดนาม ไม่สามารถเข้าเวรบรรณาธิการได้ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จึงขอไม่เข้าเวร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ดังนั้น หากในตารางเวร บก.เดือนมีนาคม 56 มีชื่อดิฉันเป็น บก.ค่ำในวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.56 และ 24 มี.ค.56 จึงขอเรียนแจ้งอีกครั้งว่า ดิฉันไม่สามารถทำได้

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในช่วงที่ยังมีตำแหน่ง Chief Editor หากไม่ติดเรียน ...แม้จะไม่ได้มีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการกลุ่มอย่าง Chief Editor ทั่วไป ดิฉันก็มาทำหน้าที่เข้าเวร บก.อย่างเต็มใจ

ดังนั้น ดิฉันจึงขอเรียนอีกครั้งว่า

1.วันที่ 10 และ 24 มี.ค. 56 ดิฉันคงมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งบก.ค่ำไม่ได้เนื่องจากเหตุผลข้างต้น

2.การจัดตารางเวร บก.มีความไม่ยุติธรรมและไม่เคยยุติธรรมก่อนหน้านี้มาตลอด

หากตำแหน่งบรรณาธิการกลุ่ม เป็นตำแหน่งที่ทรงภูมิ และเป็นผู้กุมประเด็นและทิศทางของฝ่ายข่าว ผู้ที่เป็นบก.เวร ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะในช่วงข่าวค่ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ควรจะเป็นบรรณาธิการกลุ่ม และเมื่อมีการยุบ ตำแหน่ง Chief Editor กลับเห็น บก.กลุ่มมาทำหน้าที่เป็น บก.เวรน้อยลง

แล้วคำถามที่ตามมา บก.กลุ่ม ทำอะไร...?

โดยเฉพาะที่ผ่านมา ผู้ที่จัดตารางเวร ก็ไม่สามารถจัดการให้บก.กลุ่มทุกคนมาเข้าเวรได้อย่างยุติธรรม...กรุณาอย่าเลือกปฏิบัติค่ะ

อรพิน”

 

อรพินทำหน้าที่ บก.รายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” แล้วนะครับ เพียงแต่ตัวเธอยังสังกัดสำนักข่าว

บก.กลุ่มคนหนึ่งปรี๊ดแตก! เขียนอีเมล์โต้ทันที

 

“เรียนเพื่อนร่วมงานทุกท่าน

ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกท่านที่เมล์นี้อาจจะรบกวนหลายท่านที่ไม่ทราบ ว่าตัวเองเกี่ยวข้องอย่างไร แต่เพราะว่าท่านถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องโดยรับทราบข้อร้องเรียนและอารมณ์ของอี เมล์ก่อนหน้านี้ ดิฉันจึงคิดว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลประกอบในด้านอื่นบ้าง

ดิฉันหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมคุณอรพินจึงเลือกใช้วิธีเขียนอีเมล์ส่งถึงคนทั้งในสำนักและนอกสำนักข่าวมากถึงเกือบ 80 คน แต่ถ้าหากเป็นไปอย่างที่สงสัยในใจก็จะสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีเลยในหมู่เพื่อนร่วมงาน ทั้งที่ปัญหาของคุณอรพินนั้นแก้ไขได้โดยไม่ยากเลย หากคุยกันแบบมิตร จริงจังในการแก้ไขปัญหา รับฟังและให้โอกาส แม้กระทั่งโอกาสที่คุณอรพิน จะต้องรับผิดชอบกับเรื่องส่วนตัวคือการเรียนเพิ่มเติมความรู้ของตัวเอง

เหตุผลที่ดิฉันต้องตอบเมล์มายังเพื่อนๆ ครั้งนี้ เป็นเพราะไม่อยากให้สิ่งที่สงสัยอยู่ในใจถูกละเลยให้คนบางคน กระทำบางสิ่งบางอย่างทำลายผู้อื่นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองอยู่ร่ำไป โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะถ้าผู้มีอำนาจบริหารฟังข้อมูล input ที่ผิดพลาดนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็จะเสียหายไปถึงผู้ใหญ่ท่านนั้นด้วย ดังเช่น การบริหารจัดการรายการตอบโจทย์ในเวลานี้ ที่ยังไม่มีคำอธิบายว่า การตัดสินใจจ้างคนนอกผลิตรายงานด้วยการเสนอราคาในช่วง 3 เดือน กว่าสิบล้านบาทนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ยังไม่รวมถึงการตัดขาดรายการตอบโจทย์ซึ่งเป็นรายการข่าวออกจากความรับรู้ของ กองบรรณาธิการข่าว และการจ้างคนจำนวนมากเข้ามาเป็นพนักงานโดยไม่มีโครงการรองรับ ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอน สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้มิใช่หรือที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือกปฏิบัติ โดยที่ไม่แคร์คนส่วนใหญ่

ดิฉันเพียงแต่สงสัยว่า การป้อนข้อมูลที่จริงไม่หมด ทำให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจเช่นนั้น โดยไร้การปรึกษาหารือ ตรวจสอบข้อมูล ปรับปรุง พัฒนางานด้วยกัน ตามวิธีการที่พึงกระทำ ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่งที่การพูดกันเพียงข้อมูลซ้ำๆ กล่าวร้ายเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ อาทิ “ฝ่ายข่าวเฮงซวย” “บก.ห่วยแตก” “คนในฝ่ายข่าวเป็นพวกเดทวู้ด” “โปรดักชั่นไม่เวิร์ค” ทำให้เกิดปรากฏการณ์ละทิ้งคนส่วนใหญ่ อุ้มชูคนที่ดูเหมือนเป็นฮีโร่ เปิดทางใช้งบประมาณในยามที่บอกว่ายากลำบาก และไม่ไว้วางใจคนทำงานทั้งหมดเพราะคำพูดในลักษณะนั้นของคนเพียงไม่กี่คน

สำหรับครั้งนี้ ข้อมูล และอารมณ์ของคุณอรพิน คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การแก้ปัญหารายการตอบโจทย์อีกครั้ง และคนที่มีรายชื่อในเมล์นี้เกือบ 80 รายชื่อ ก็คงไม่ทราบข้อมูลที่เป็นจริง ว่ามีเหตุผลใดบ้าง และมีปัญหาจริงๆ ใดบ้าง จึงเสี่ยงเกินไปสำหรับองค์กรที่ผู้เกี่ยวข้องจะเพิกเฉยต่อกรณีนี้อีกครั้ง

ดิฉันเสนอว่า ผู้รับผิดชอบ ควรรีบพูดคุยและพิจารณาแก้ปัญหานี้ให้กับคุณอรพินอย่างจริงจัง โดยกองบรรณาธิการข่าวต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อที่จะได้สามารถแสดงจุดยืนที่สมควรในยามที่มีสถานการณ์อ่อนไหวต่างๆ เข้ามาท้าทาย เช่นการถูกโจมตีจากสังคม, การใช้งบฯผลิตรายการข่าวที่สูงเกินไป หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจยกเลิกข่าวเที่ยงวันอาทิตย์ เป็นต้น

ท้ายที่สุดนี้ ดิฉันขอบอกเล่าประสบการณ์จากการทำงานเลือกตั้งร่วมกับเพื่อนๆ หลายคนว่า ปัญหามีอยู่จริง แต่ก็เป็นธรรมดาของผู้คนที่หลากหลาย ท่ามกลางปัญหาเหล่านั้นมีความงดงามมากมายของคนไทยพีบีเอส ทั้งฝ่ายข่าว ฝ่ายผลิต ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายประชาสังคม และทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้บางคนจะมีปัญหาส่วนตัวกันบ้างแต่เป้าหมายที่มีอยู่ร่วมกัน และการทำหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ทำให้หลังงานเลือกตั้งเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า “ไทยพีบีเอส มีต้นทุนที่มีคุณค่าอยู่ในความเป็นทีม” งานใหญ่ครั้งนั้นสร้างผลลัพธ์และความรู้ใหม่ๆ ให้เราโดยไม่ต้องจ้างคนนอกเพราะดูถูกคนใน อย่างไร้เหตุผล

ก่อนที่งานเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นด้วยความสำเร็จ ดิฉันแอบคิดว่า แม้ว่าจะล้มแต่เราก็ยังมีเพื่อนล้มด้วยกันมากมาย ในฐานะกัลยาณมิตร

.............. / บก.กลุ่มข่าวที่ไม่ได้ทรงภูมิ เพียงแต่ทำงานไม่เคยมีวันหยุด

หมายเหตุ(สำคัญ)โปรดอย่านำจดหมายฉบับนี้ไปขยายความขัดแย้งสู่นอกองค์กร”

 

ขออภัยที่หมายเหตุตอนท้ายไม่สามารถเป็นไปได้ ฮิฮิ แต่อ่านเอาเองแล้วกันว่าความรู้สึกของคนในฝ่ายข่าวเป็นอย่างไร ต่อการแยกรายการตอบโจทย์ออกไป อรพินเธอโวยเรื่องจัดเวร บก.ไม่ยุติธรรม แต่โดนสวนเรื่องรายการตอบโจทย์เป็นชุด

3 เดือน 10 ล้านบาท ฟังเหมือนแพง แต่จัดทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ เดือนละ 22 วัน หารคร่าวๆ ตอนละ 1.5 แสนบาท จะแพงไปไหมก็ต้องไปเทียบมาตรฐานที่ TPBS จ้างคนนอกทำรายการอื่น แต่เท่าที่จำได้ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ก็ยกทีมลงไปทำรายการ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยาวนาน 10 วัน ซึ่งเขาจ่ายเองทั้งหมด

ไม่เป็นไร ตอนนี้ภิญโญไปแล้ว “ตอบโจทย์” ก็จะกลับไปอยู่กับฝ่ายข่าว แต่ตอนแรกๆ คนที่อยากทำจะโดดมาทำเองก็น่าเกลียด ได้ยินว่าจะบังคับปวีณมัย บ่ายคล้อย ให้มาทำรายการตอนค่ำคล้อย รับหน้าแทนไปก่อน หลังจากนั้นสักพัก “ตัวจริง” จึงจะโผล่มาเสียบแทนปวีณมัย

 

กว่าจะตอบสมศักดิ์

การเอา “เสด็จพ่อสมศักดิ์ เจียมฯ” ออกจากเฟซบุคมาขึ้นจอทีวีสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะกล้าทำโดยพลการ

ก็รู้กันอยู่จะสร้างความขัดแย้งแค่ไหน แต่เนื่องจากสมศักดิ์ท้ายิกๆ ให้เอาตัวเองไปออก TPBS บ้างสิ           ทีมงาน “ตอบโจทย์ประเทศไทย” จึงเสนอไปยังผู้บริหาร ซึ่งก็ได้ไฟเขียว โดยในการถ่ายทำก็ยังเพลย์เซฟสุดขีด คือเอาสุรเกียรติ์ เสถียรไทย มาปะหน้า เอา พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร มาปะหลัง เทปสมศักดิ์ถ่ายทำไว้เป็นเดือนแล้ว ถ่ายสมศักดิ์ก่อน แล้วเอาประเด็นที่สมศักดิ์พูดมาให้ พล.ต.อ.วสิษฐหักล้าง พูดจริงๆทำอย่างนี้ไม่ค่อยเป็นกลางนะครับ แต่อย่างว่า เรื่องคอขาดบาดตาย เป็นใครก็เพลย์เซฟไว้ก่อน....

อ่านฉบับเต็มที่ Media Inside Out

 

หมายเหตุจากประชาไท ล่าสุด ใบตองแห้ง ได้เขียนสเตตัสชี้แจงเพิ่มเติมสำหรับบทรายงานฉบับนี้ว่า

 

"มีประเด็นที่ผมตกไป หลายคนอาจยังคาใจ ว่า "ตอบโจทย์ประเทศไทย" ที่กลายเป็น outsource ตามที่คุณ บก.เขียนในอีเมล์ว่า 3 เดือน 10 ล้านบาทจริงไหม เพราะบางคนอาจบอกว่า โห 3 เืดือน 10 ล้านกับรายการนั่งคุยอย่างเดียวเนี่ยนะ
 
ผมเพิ่งสอบถามคนที่เกี่ยวข้องและได้ัรับรู้ว่า นั่นเป็นเพียงข้อเสนอ โดยเป็นข้อเสนอเมื่อทำรายการเต็มรูปแบบ คือจะมีทีมข่าวออกไปทำสกู๊ปข้างนอก 3-4 ชิ้น แล้วจึงเข้ารายการทอล์ค ซึ่งจะลดเหลือ 25 นาที โดยต้องจ้างทีมข่าวและเช่าอุปกรณ์เองหมด
 
แต่ที่ผ่านมา 2 เดือนครึ่ง ทางสถานีให้ทำไปก่อน โดยใช้รูปแบบทอล์คอย่างเดียว โดยยังไม่ได้ทำสัญญาอะไรเลย ยังไม่ได้ตกลงกันว่า ในช่วงที่ทำไปก่อนนี้ จะคิดตอนละเท่าไหร่ และยังไม่ได้จ่ายเงินสักสตางค์เดียว คือตลอด 2 เดือนครึ่่ง ภิญโญกับทีมงานยังไม่ได้เงินซักบาท ระหว่างนี้ ทางทีมงานก็เตรียมระดมคนที่จะเข้ามาทำสกู๊ปแล้ว นักข่าวมือดีๆ ทั้งนั้น บางคนก็ซวย เพราะเพิ่งลาออกจากที่เดิมแล้วมาเจอเรื่องนี้พอดี
 
เพียงแต่ข้อเสนอโปรเจกท์นี้ รู้ไปถึง บก.บางคนในฝ่ายข่าว (ไม่ใช่คนที่เขียนอีเมล์) แล้วก็เอาไปกระพือสร้างความไม่พอใจ โดยพูดไม่หมดว่า 3 เดือน 10 ล้านนี้รูปแบบเป็นอย่างไร และนี่เป็นแค่ข้อเสนอ ซึ่งทางสถา่นีก็ยังไม่ได้ตอบตกลง เพราะต้องเอาไปเทียบมาตรฐานการจ้างผลิตรายการอื่นๆ (แบบเทียบราคากลาง) แล้วจึงจะทำสัญญา
 
อันที่จริงถ้าพูดอีกด้าน ทีมงานตอบโจทย์ก็แฟร์ด้วยซ้ำเพราะทำให้ก่อน โดยยังไม่ได้ตังค์ และยังไม่รู้เลยว่าระหว่างที่ทำไปนี้จะได้ตอนละเท่าไหร่"
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท