วัส ติงสมิตร ประณามคนร้ายก่อเหตุระเบิดบิ๊กซีปัตตานี ขาดความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 'อังคณา' ซัดไม่มีประเทศใดใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือต่อรอง 'ฮิวแมนไรท์วอทช์-มูลนิธิผสานวัฒนธรรม' ชี้อาจถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
10 พ.ค. 2560 จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในห้างบิ๊กซี อ.เมือง จ.ปัตตานี วานนี้ (9 พ.ค.60) ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
วันนี้ (10 พ.ค.60) วัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ ประณามคนร้ายก่อเหตุดังกล่าว โดยระบุว่า เหตุการดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก แสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุกระทำการเพื่อประสงค์ให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงแบบไม่เลือกเป้าหมาย จึงได้วางระเบิดในบริเวณห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมากมายทุกเพศทุกวัยไปใช้บริการ
"ขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างอุกอาจและร้ายแรงในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุขาดความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงกระทำการด้วยความโหดร้าย ทารุณ ไร้ซึ่งมนุษยธรรม" วัส แถลง
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว และขอส่งความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนชาวปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียงตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
ประธานกรรมการสิทธิฯ แถลงอีกว่า ยังคงยืนยันว่า “มนุษย์เกิดมาเท่าเทียมกัน ควรปฏิบัติต่อกันฉันพี่น้อง” ดังนั้นการใช้ความรุนแรงคุกคามต่อชีวิตและร่างกายเพื่อนมนุษย์นอกจากเป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงแล้วยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่อาจยอมรับได้ และขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการนำสันติสุขกลับคืนสู่ชุมชนจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
อังคณาซัดไม่มีประเทศใดใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือต่อรอง
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว ว่ารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวมากเพราะส่วนตัวเพิ่งเดินทางกลับจาก จ.ปัตตานี อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุเป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ผู้ก่อเหตุมีความประสงค์ต่อชีวิตของผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก และต้องการทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ไม่เชื่อมั่นในอำนาจรัฐว่ารัฐจะปกป้องประชาชนได้ เพราะฉะนั้นรัฐต้องรีบเร่งสร้างความมั่นใจว่ารัฐจะดูแลความปลอดภัยกับประชาชนได้ ส่วนตัวอยากให้ทุกฝ่ายแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ควรต้องเร่งหาพยานหลักฐาน หาผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรและต่อไปจะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชนอย่างไร
“ช่วงนี้คนเริ่มเยอะเพราะกำลังจะเข้าเดือนรอมฎอน ชาวบ้านก็จะออกมาซื้อของกัน ดังนั้นไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นใคร ต้องขอประณาม เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครรับได้ ไม่ควรใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องมือในการต่อรองเจรจาพูดคุยกับรัฐ ถือเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม เพราะไม่มีประเทศใดในโลกนี้ที่มีความขัดแย้งแล้วเขาทำกัน” อังคณา กล่าว
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ชี้อาจถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. BRN ออกแถลงการณ์คัดค้านการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอิทธิพลอะไรแล้วเป็นเครือข่ายหลวม ๆ ของกลุ่มมาราปัตตานี (Majlis Syura Patani) โดยเป็นการเจรจาที่มีมาเลเซียเป็นตัวกลาง
กฎหมายสงคราม หรือที่เรียกว่า กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ห้ามการโจมตีต่อพลเรือน หรือการโจมตีที่ไม่แยกแยะระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารกับพลเรือน ข้ออ้างของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ว่า การโจมตีต่อพลเรือนชอบด้วยกฎหมาย เพราะพลเรือนเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของรัฐพุทธไทย หรือเป็นเพราะกฎหมายอิสลามที่พวกเขาตีความ อนุญาตให้กระทำการโจมตีดังกล่าวได้ ข้ออ้างเช่นนี้ไม่ชอบธรรมตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายสงครามยังห้ามการโจมตีเพื่อแก้แค้นและการสังหารแบบรวบรัดต่อพลเรือนและกองกำลังที่ถูกจับกุมตัวได้ ห้ามการทำลายซากศพ และห้ามการโจมตีที่พุ่งเป้าต่ออาคารสถานที่ของพลเรือน รวมทั้งโรงเรียน
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติครอบคลุมถึงความผิดอาญาบางประเภท ซึ่งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางหรือเป็นระบบ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “การโจมตีต่อประชากรที่เป็นพลเรือน” กล่าวคือต้องเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นจากการวางแผนหรือการมีนโยบายให้กระทำเช่นนั้นในระดับหนึ่ง การกระทำเช่นนั้นรวมถึงการสังหารและ “การกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมที่มีพฤติการณ์แบบเดียวกัน โดยมุ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างใหญ่หลวง หรือการบาดเจ็บสาหัสต่อร่างกาย หรือต่อสุขภาพทางใจหรือทางกาย” กฎหมายระหว่างประเทศคุ้มครองประชากรที่เป็นพลเรือน “ทุกกลุ่ม” จากการโจมตีเช่นนี้ โดยไม่คำนึงว่าประชากรที่ตกเป็นเหยื่อนั้น จะมีส่วนเชื่อมโยงกับคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการขัดกันด้วยอาวุธหรือไม่ก็ตาม ความรับผิดต่อการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ไม่จำกัดอยู่เฉพาะผู้ซึ่งกระทำการดังกล่าวเท่านั้น หากยังครอบคลุมถึงผู้สั่งการ ช่วยเหลือ หรือมีส่วนร่วมในทางใดทางหนึ่งต่อการกระทำผิดนั้น ตามหลักความรับผิดชอบของการบังคับบัญชา ผู้นำรัฐบาลหรือผู้นำกลุ่มติดอาวุธก็อาจต้องรับผิดทางอาญาต่อการกระทำที่เกิดขึ้นโดยผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา กรณีที่ผู้นำเหล่านั้นรู้ หรือควรรู้ว่าจะมีการก่อความผิดดังกล่าวขึ้น แต่กลับไม่ดำเนินมาตรการที่ชอบด้วยเหตุผลเพื่อหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว
แม้ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องประสบกับความเสียหายครั้งใหญ่จากการโจมตีกวาดล้างของกองกำลังฝ่ายรัฐบาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่คนกลุ่มนี้ยังคงกระจายอยู่ในหมู่บ้านชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูหลายร้อยแห่ง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมักอ้างถึงยุทธวิธีที่มิชอบและรุนแรงของกองกำลังของรัฐบาล เพื่อจูงใจให้มีบุคคลเข้าร่วมกลุ่มของตนเพิ่มขึ้น และเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำที่รุนแรงของตน
ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังคงกังวลอย่างยิ่งกับการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และกฎหมายสงคราม ทั้งของฝ่ายกองกำลังของรัฐบาลไทยและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ การสังหาร การบังคับบุคคลให้สูญหาย และการทรมาน ไม่อาจถือว่าเป็นการตอบโต้ที่ชอบธรรมต่อการโจมตีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ต่อพลเรือนชาวพุทธไทยและต่อกองกำลังของรัฐบาล สถานการณ์นี้เลวร้ายยิ่งขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดที่หยั่งรากลึก หลังการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัดชายแดนใต้ จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลยังไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รายใดที่ปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบได้เลย
“รัฐบาลไทยต้องตอบโต้กับการโจมตีที่โหดร้ายนี้ด้วยการยึดมั่นตามหลักนิติธรรม ด้วยการยุติการปฏิบัติมิชอบในบรรดากองกำลังของรัฐบาลเอง และแก้ปัญหาความอึดอัดคับข้องใจที่มีมาอย่างยาวนาน ในบรรดาชุมชนมุสลิมเชื้อสายมลายู” อดัมส์กล่าว พร้อมกล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลยังคงปกป้องไม่ให้กองกำลังของตนต้องรับผิดทางอาญาต่อไป ก็จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความรุนแรงของกลุ่มที่สุดโต่ง
ผสานวัฒนธรรม ประณาม พร้อมชี้อาจเข้าข่ายอาชญกรรมต่อมนุษยชาติ
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ ประณามระเบิดที่ห้างสรรพสินค้
แถลงการณ์ของ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุด้วยว่า แม้ว่าจะไม่มีผู้เสียชีวิ
เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็
ทั้งนี้ในกรอบกฎหมายในประเทศรั
มูลนิธิผสานวั
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเรียกร้
1. กลุ่มติดอาวุธไม่ว่าฝ่ายใดต้
2. รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อต้
3. รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อต้
4. รัฐต้องประสานงานภาคประชาสั
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)