Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาแผนคดีเลือกตั้งยกคำร้อง กกต. คดีสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ถูกตัดสิทธิเพราะใส่ซองทำบุญพระ ทนายความติตดามความชัดเจนจาก กกต.จะทำอย่างไรกับคะแนนกว่า 5 หมื่นที่สุรพลได้รับ และเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 70 ล้านบาท

29 ก.ย.2563 เดลินิวส์รายงานว่า ที่รัฐสภา สุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำพิพากษายกคำร้องของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบส้ม หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของสุรพลไว้เป็นการชั่วคราว 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.2562

คดีนี้เริ่มจาก กกต.กล่าวหาว่าการใส่ซองทำบุญให้กับพระสงฆ์ จำนวน 2,000 บาท มีมูลความผิดตาม พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (2) ฐานให้เงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ว่าตนได้ยื่นคัดค้าน กกต.ไปแล้วก่อนหน้านี้จนกระทั่งศาลได้พิพากษาคืนความยุติธรรมให้ โดยได้ยกคำร้องข้อกล่าวหาดังกล่าว เนื่องจากศาลเห็นว่าเงินดังกล่าวเป็นค่าเทียนสะเดาะเคราะห์ และในวันที่ไปทำบุญนั้นตนไม่ได้พูดหาเสียง เพียงแต่ทักทายกับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ฝากเนื้อฝากตัวกับชาวบ้าน จึงยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่าเป็นการบริจาคเงินทำบุญให้กับวัดเพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตนเอง และไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อมตามคำร้อง

สุรพลกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีแรกที่ ส.ส.ฟ้อง กกต.ได้รับชัยชนะ และใช้เวลาต่อสู้มา 1 ปี 5 เดือน 5 วัน ตนถือว่าเป็นการยัดเยียดความผิดให้ วันนี้จึงเป็นวันที่ภาคภูมิใจในเกียรติยศ ที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลฎีกาและได้คืนสิทธิและอำนาจในคะแนนจากประชาชนที่ได้ลงคะแนนให้ตนกว่า 5 หมื่นคะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ จึงอยากให้ประชาชนเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับทราบว่า ทุกคนได้คืนศักดิ์ศรีเกียรติยศและตนได้รับความเป็นธรรมทุกอย่างถูกต้องไม่มีความผิด

ปกป้อง กลับวิเศษ ทนายความ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายสุรพล ถือว่าเป็น ส.ส.โดยพฤตินัย เมื่อได้ทราบผลคะแนนชนะการเลือกตั้งแล้ว แต่ กกต.ได้มอบใบส้มให้นายสุรพล ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวในการเพิกถอนสิทธิ 1 ปี แต่หลังจากนั้น กกต. ได้นำข้อกล่าวหาดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเมื่อศาลไต่สวนวินิจฉัยตามข้อเท็จจริง ซึ่งไม่มีมูลแล้ว จึงยกคำร้อง ดังนั้น ทีมทนายจะติดตามความชัดเจนจาก กกต.ว่าจะทำอย่างไรต่อคะแนนการเลือกตั้งกว่า 50,000 คะแนน ที่สุรพลได้รับเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ และศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อมจะยังมีสถานะหรือไม่ หรือจะให้นายสุรพล กลับมาเป็น ส.ส.ตามคะแนนที่ได้รับโดยชอบ

ปกป้อง กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นทีมทนายได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้ทำหน้าที่ ส.ส.จาก กกต.แล้วจำนวน 70 ล้านบาท ฐานให้ใบส้มโดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่โดยละเมิด แต่ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งหาก กกต. ยังไม่คืนสิทธิก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ทั้งนี้จากที่ กกต.ให้ใบส้มกับสุรพล ส่งผลให้ในเขตเลือกตั้งที่ 8 จังหวัดเชียงใหม่ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมขึ้นในวันที่ 26 พ.ค.2562 และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 75,891 คะแนน จนได้เข้ามาทำหน้าที่ ส.ส. คือ ศรีนวล บุญลือ จากพรรคอนาคตใหม่ ณ เวลานั้นแต่ภายหลังพรรคอนาคตใหม่มีมติขับศรีนวลออกจากพรรคเนื่องจากมีการโหวตสวนมติพรรคและเธอเลือกย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแทน

แต่ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งเดียวกันนี้ยังทำให้พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.เพิ่มพรรคละ 1 ที่นั่งคือ วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 19 พลังประชารัฐ และจิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 จากประชาธิปัตย์ ซึ่งได้เข้ามาในสภาเพราะการคำนวนคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ จนทำให้พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคไทรักธรรมหลุดจากการเป็น ส.ส.ไปแทน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net