6 พรรคฝ่ายค้านร่วมหารือ ก่อนยืนยันไม่แก้ไขญัตติที่เสนอขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยืนยันไม่พบข้อบกพร่อง เชื่อไม่กระทบต่อสถาบันฯ ย้ำเนื้อหาระหว่างการอภิปรายเป็นหน้าที่ของประธานในที่ประชุมตรวจสอบ หากพบการอภิปรายผิดข้อบังคับ ประธานแจ้งให้สมาชิกผู้พูดถอนคำพูดได้

28 ม.ค.2564 จากกรณีที่ สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ยื่นคัดค้านการบรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน โดยอ้างว่าไม่ตัดเรื่องสถาบันออก ต่อ ศุภชัย โพธิสุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะผู้บรรจุญัตติ พร้อมถามอ้างว่าหากมีการยื่นญัตติตามข้อความและนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาแบ่งแยกประชาชน คนร่างญัตติ ถือเป็นบ่อนทำลาย และขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือหัว ซึ่งตามประเพณี ที่เคยมีสภาผู้แทนราษฎร ไม่เคยมีการร่างญัตติที่ล่วงเกินสถาบันได้ขนาดนี้ ไม่มีการดึงสถาบันลงมา นั้น

วันเดียวกัน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน แถลงภายหลังประชุมร่วมกับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค เพื่อทบทบทวนญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 10 คน ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสังเกตมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ว่าที่ประชุมได้ทบทวนญัตติดังกล่าวและยืนยันร่วมกันว่าไม่มีเนื้อหาส่วนใดที่ต้องแก้ไข ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านยังคงยืนยันญัตติตามที่ได้ยื่นเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา  เพราะมองว่าญัตติมีความถูกต้อง ไม่มีกระทบต่อสถาบัน และพร้อมจะกำชับ ส.ส.ฝ่ายค้านระมัดระวังการอภิปรายที่จะกระทบสิ่งที่ไม่ควร ส่วนกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านเห็นว่ากรอบเวลาอภิปราย 5 วัน และลงมติ 1 วัน มีความเหมาะสม

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า สำหรับเนื้อหาระหว่างการอภิปรายเป็นหน้าที่ของประธานในที่ประชุม ที่ต้องตรวจสอบ หากพบการอภิปรายผิดข้อบังคับ ประธานในที่ประชุม สามารถแจ้งให้สมาชิกผู้พูดถอนคำพูดได้

(ที่มา สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา และสำนักข่าวไทย)

โดยวานนี้ (27 ม.ค.64) ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงต่อสื่อมวลชน กรณีที่ วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ( วิปรัฐบาล ) ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับญัตติของฝ่ายค้านที่เสนอสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยขอเรียกร้องต่อ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พรรคร่วมฝ่ายค้านดำเนินการเเก้ไข และนำเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันออกนั้น

ชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีความเห็นว่า พฤติการณ์ของรัฐบาลที่ได้ถูกกล่าวถึงของพรรคฝ่ายค้าน ยืนยันว่าไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ยืนยันว่าเป็นการอภิปรายรัฐบาลไม่ได้อภิปรายสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด หรือจงใจพาดพิง ก้าวล่วง หรือส่งผลเสียต่อสถาบัน ทั้งนี้ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ตรวจสอบรัฐบาลในการบริหารราชการเเผ่นดินล้มเหลว ละเมิดหลักนิติรัฐ นิตธรรม รวมถึงทำลายสถาบันอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ประการที่2 ในการอภิปรายไม่มีเนื้อหาใดที่ขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ยังคงจะให้ฝ่ายค้านแก้ไข ต้องมาการชี้เเจงมาให้ชัดเจนว่า มีข้อความส่วนใดในญัติดังกล่าว ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและประธานสภาควรปฏิบัติตัวเป็นกลาง ในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ประการสุดท้ายยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่อภิปรายรัฐบาลอย่างดีที่สุดเเละมีวุฒิภาวะ รัฐบาลเองนั้นก็ควรหยุดการนำเรื่องของสถาบันมาโจมตีฝ่ายค้าน เพื่อปิดบังการบริหารราชการเเผ่นดินที่ล้มเหลว ซึ่งการนำสถาบันมาโจมตีฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดปัญหาในการเอาพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องแบ่งเเยก ละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม เเละรวมทั้งทำลายความเป็นอันดีระหว่างพระมหากษัตริย์เเละประชาชน ขอให้รัฐบาลอย่าใช้เรื่องนี้มาตีรวนในสภา ขอให้รัฐบาลฟังเนื้อหาให้จบว่าเราอภิปรายรัฐบาลโดยไม่มีประเด็นเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่กังวลหากเกิดกรณีพรรคร่วมรัฐบาลประท้วงจนไม่สามารถประชุมต่อไปได้ เนื่องจากการประท้วงของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น โดยเราจะกล่าวถึงพระมหากษัตริย์เท่าที่จำเป็น ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาการอภิปรายเท่านั้น เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาลเท่านั้น