ครม.อนุมัติเพิ่มเงิน-ยืดเวลาโครงการ "เราชนะ-คนละครึ่ง-ม.33 เรารักกัน" พร้อมผุดโครงการใหม่ "ยิ่งใช้ยิ่งดี" แจก E-Voucher คนละ 7,000 บาท ใช้จ่ายช่วง ส.ค.-ธ.ค. นี้

5 พ.ค. 2564 สำนักข่าวข่าวสดออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจ และประชาชาติธุรกิจ รายงานตรงกันว่า วันนี้ (5 พ.ค. 2564) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ด้วยการขยายระยะเวลาการใช้จ่ายในโครงการ "เราชนะ" และ "ม.33 เรารักกัน" ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564 จากเดิมที่สามารถใช้จ่ายได้ถึง 31 พ.ค. 2564 และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือให้ผู้ร่วมโครงการนี้อีกคนละ 2,000 บาท แบ่งจ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยกรอบวงเงินที่ ครม. อนุมัติเพิ่มในโครงการ "เราชนะ" อยู่ที่ 67,000 ล้านบาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจำนวน 32.9 ล้านคน ส่วนโครงการ "ม.33 เรารักกัน" อยู่ที่ 18,500 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายจำนวน 9.27 ล้านคน ตามลำดับ ทั้งยังอนุมัติโครงการ "คนละครึ่ง เฟส 3" ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน 31 ล้านคน โดยมอบวงเงินเพิ่มเติมอีกคนละ 3,000 บาท และสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 150 บาท ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2564 รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 93,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม. ยังอนุมัติโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งดี" กระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยประชาชนกลุ่มเป้าหมายกว่า 31 ล้านคน จะได้รับ E-Voucher สำหรับการใช้จ่ายสำหรับซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จำนวน 7,000 บาทต่อคนในช่วงเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 5,000 บาท/วัน/คน และสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค. 2564

นอกจากนี้ สำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม. ขยายระยะเวลาโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวน 13.65 ล้านคน และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มเปราะบาง) จำนวน 2.5 ล้านคน ด้วยการช่วยเหลือเงินเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท ตั้งแต่ ก.ค.-ธ.ค. 2564 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน

ในขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม. มีมติให้เลื่อนโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" และ "ทัวร์เที่ยวไทย" ออกไปก่อนเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย. ซึ่งมีที่มาจากคลัสเตอร์ผับทองหล่อ ยังไม่คลี่คลาย และจะนำทั้ง 2 โครงการกลับเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้งในอนาคต