ศาลอาญาออกหมายเรียก “แอนดรูว์ มาแชล” ไต่สวนหลังกระทรวงดิจิทัลฯ มีคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปิดเพจเฟซบุ๊กของแอนดรูว์ ทั้งนี้แอนดรูว์ยืนยันไม่มาตามคำสั่งศาล ปีที่ผ่านมาเฟซบุ๊กปิดกั้นเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ 1,947 รายการ

27 พ.ค.2564 เวลาประมาณ 8.00 น.(เวลาประเทศไทย) แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Andrew MacGregor Marshall' โพสต์ว่าคนได้รับหมายนัดไต่สวนคำร้องระงับการเผยแพร่เนื้อหาและปิดบัญชีผู้ใช้จากศาลอาญา ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นผู้ร้องว่ามีเนื้อหาบนเพจของแอนดรูว์ที่ผิดกฎหมายจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาล โดยผู้ส่งให้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Prasert Suppo”

ในหมายระบุว่าศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 27 พ.ค.2564 เวลา 9.00 น. โดยมีผู้พิพากษาสุวัจน์ ฉนานุกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามตามเบอร์โทรศัพท์ท้ายหมาย 02-5412176 ซึ่งเป็นเบอร์ของงานรับฟ้อง ศาลอาญาทางเจ้าหน้าศาลให้ข้อมูลว่าทางศาลออกหมายถึงแอนดรูว์จริง และทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าในช่วงที่ผ่านมาศาลเห็นว่าควรมีการออกหมายนัดไต่สวนคำร้องเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกขอให้ระงับได้ชี้แจงจึงมีการออกหมายนัดไต่สวนและส่งไปตามช่องทางที่พบการกระทำความผิด

ทั้งนี้แอนดรูว์ระบุไว้ในโพสต์ว่าตนจะไม่เดินทางกลับมาประเทศไทยมาขึ้นศาลตามหมายเรียก

แอนดรูว์อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทยมีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและสถาบันกษัตริย์ จนทำให้เขาต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่แม้ว่าจะลี้ภัยไปแล้วครอบครัวของเขาที่อยู่ในไทยก็ยังถูกคุกคามโดยตำรวจกว่า 20 นาย บุกไปที่บ้านของภรรยาคือ นพวรรณ บรรลือศิลป์ ที่กรุงเทพฯ โดยนำตัวเธอไปที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อ 22 ก.ค. 2559 จนต้องลี้ภัยด้วยเช่นกัน และปีถัดมาก็ยังมีตำรวจไปหาที่บ้านแม่ยายอีก เพื่อหวังให้แอนดรูว์หยุดวิจาณณ์สถาบันกษัตริย์

นอกจากนั้นเมษายน 2560 กระทรวงดิจิทัลฯ ยังออกประกาศเรื่องการงดเว้นการติดต่อกับบุคคลบนสื่ออินเทอร์เน็ต โดยระบุว่า ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันไม่เหมาะสม ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จึงขอให้ประชาชนโดยทั่วไป งดการติดตาม ติดต่อ เผยแพร่ หรือกระทำการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการเผยแพร่ เนื้อหา ข้อมูล ของแอนดรูว์(พร้อมกับ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลและปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์) ด้วย

ทั้งนี้ตามรายงานความโปร่งใสของเฟซบุ๊กในประเด็นการปิดกั้นเนื้อหาของปีที่ผ่านมาทั้งช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีทางบริษัทได้รับคำร้องจากกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งทางเฟซบุ๊กได้ปิดกั้นตามคำร้องรวมทั้งหมด 1,948 รายการ โดยแบ่งเป็นโพสต์ 1,939 รายการ เป็นแฟนเพจและกลุ่ม 12 รายการ เป็นโปรไฟล์ 5 รายการ

ในรายงานยังระบุอีกว่าจำนวนทั้งหมดที่เฟซบุ๊กดำเนินการปิดกั้นทางกระทรวงฯ ระบุว่าเป็นการละเมิดกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์เกือบทั้งหมดคือ 1,947 รายการ มีเพียง 1 รายการที่ทางบริษัทระบุว่าเป็นการละเมิดกฎหมายท้องถิ่นที่เกี่ยวกับการใช้เฮทสปีช

นอกจากการปิดกั้นเนื้อหาแล้วเฟซบุ๊กรายงานถึงประเด็นการขอข้อมูลผู้ใช้โดยรัฐบาล ด้วยโดยในช่วงมกราคม – มิถุนายน 2563 เฟซบุ๊กมีการให้ข้อมูลตามคำร้อง 74% จากคำร้องทั้งหมด 164 คำร้อง และในช่วงกรกฎาคม – ธันวาคม 2563 เฟซบุ๊กมีการให้ข้อมูลตามคำร้อง 69% จากคำร้องทั้งหมด 103 คำร้อง

ในรายงานระบุถึงประเภทข้อมูลที่ทางเฟซบุ๊กจะส่งให้ตามคำร้อง (ดูที่หัวข้อ Our data disclosure process) มีตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานอย่างเช่น ชื่อ ระยะเวลาการใช้งาน ข้อมูลการจ่ายเงิน อีเมลแอดเดรส และไอพีแอดเดรสการล็อกอิน-ล็อกเอาท์บัญชีครั้งล่าสุด ส่วนข้อมูลที่บันทึกเกี่ยวกับกิจกรรมของบัญชี(Records pertaining to account activity) เช่น หัวข้อความและไอพีแอดเดรส และยังมีข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ในบัญชี เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ไทม์ไลน์โพสต์ และข้อมูลที่ตั้ง(Location)