วานนี้(10ก.ค.64) ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์หรือ ศชอ. ส่งหลักฐานให้ ปอท.ดำเนินดคี ม.112 เพิ่มอีก 1,275 รายชื่อจนล่าสุดทาง ศชอ.ระบุว่ารวมยอดทั้งหมดที่ผ่านมามีกว่า 1,400 รายชื่อแล้วและทางกลุ่มก็ยังยืนยันที่จะทำต่อไป

ในช่วงที่ผ่านมา ศชอ.ปรากฏในหน้าสื่อจากการไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์กับผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองทั้งบุคคลทั่วไปจนถึงแกนนำผู้ชุมนุมที่ปราศรัยบนเวที แต่นอกจากบทบาทดังกล่าว ศชอ.ยังให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่มาขอความช่วยเหลือเพื่อดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้ที่เข้าไปด่าทอ ซึ่งตามที่ปรากฏบนหน้าแฟนเพจของ ศชอ.ก็พบว่ามีทั้งดาราและบุคคลทั่วไปที่ไปขอให้ทาง ศชอ.ช่วยเหลือ

ประชาไทได้ขอสัมภาษณ์ แน่งน้อย อัศวกิตติกร ในฐานะที่เป็นประธาน ศชอ. เพื่อทำความรู้จัก ศชอ.ให้มากขึ้น ทำไมต้องแจ้งความคนเป็นพัน การบุลลี่สำหรับ ศชอ.คืออะไรนับรวมอะไรบ้าง

แน่งน้อย อัศวกิตติกร (เสื้อฟ้า) และนพดล พรหมภาสิต(แจ็กเก็ตดำ)

ศชอ.ตั้งขึ้นมาเมื่อไหร่ดำเนินการอะไรไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา

ตั้งขึ้นมาเมื่อกันยายนปีที่แล้ว(2563) ยังไม่ครบปีเลย ครั้งแรกเพราะถูก “บุลลี่” เองทั้งพี่ทั้งนพดล(พรหมภาสิต เลขาธิการ ศชอ.) ก็ไม่ไหวแล้วเพราะปกติพี่ก็ทำงานจิตอาสาอยู่ในพิษณุโลก มีตำแหน่งเยอะคนพิการเรียกพี่ว่าแม่ ตัวพี่เองโดนบุลลี่เพราะว่ามีความเห็นต่างทางด้านการเมืองก็ตกใจว่าเราโพสต์เราคุยของเราเองในเพจทำไมต้องด่าเรา เอารูปเราไปด่า

เราก็ เฮ้ย เรามีชื่อเสียงในสังคมของฉัน ทำไมคุณทำกันอย่างนี้ ก็เลยคุยกับนพดลตั้งเพจ ศชอ.ขึ้นมาเพื่อจัดการการบุลลี่คนในสังคมโซเชียล จุดเริ่มต้นอยู่ตรงนี้ แรกๆ เลยมีคนทำงานอยู่ 5 คน พวกเราทำงานกันที่กรุงเทพหมดมีพี่คนเดียวอยู่พิษณุโลกพี่ก็จะใช้มือถือทำงานกัน เราก็พอจะเป็นในโลกโซเชียลพอมีคนมาบุลลี่เรา เราก็เข้าไปขุดเข้าไปค้นจนเจอก็เกิดการแจ้งความกันขึ้น

จุดประสงค์ที่อยากจะทำเพราะพี่ไม่อยากเห็นการด่าทอกัน ใช้เฮทสปีชกันในสังคมออนไลน์ คนไม่รู้จักกัน คุณไม่รู้ด้วยซ้ำถึงตัวตนของคนที่คุณไปด่าเขาคือใครแล้วทำไมคุณจะต้องไปด่าเขาเพราะแค่มีความเห็นต่างทางการเมือง พี่เองก็มีเพื่อนที่เป็นอีกฝั่งหนึ่งเยอะแต่เวลาทำงานจิตอาสาเราก็ไปด้วยกันได้ตลอด เพียงแต่ว่าถ้าเราจะคุยเรื่องการเมืองเราต่างก็มีเหตุมีผลกัน ก็ไม่เคยทะเลาะกันไม่เคยตีกัน

ศชอ.ให้นิยามและขอบเขตการกระทำอะไรที่ถือว่าเป็นการ “บุลลี่”?

ก็คือการกระทำที่เหมือนกับการด่าทอในโซเชียลมีเดียเป็นประเด็นที่ทำให้ตั้ง ศชอ.ขึ้นมา คือไม่รู้จักกันแต่มาด่ากัน หลังจากนั้นมาก็เริ่มเห็นว่าทำไมสถาบันพระมหากษัตริย์โดนขนาดนั้น เราก็เลยไปตั้งต้นกันที่มาตรา 112 พวกเราผ่านการอบรมการใช้มาตรา 112 กันมาแล้วด้วยมีตำราด้วยเพราะฉะนั้นเรามั่นใจว่าแต่ละข้อความแต่ละคนนี่เราเข้ามาแจ้งความก็คือ 100%

แล้วถ้าแบ่งออกมาอย่างวงเสวนาวิชาการที่มีการพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ก็ไม่อยู่ในขอบข่าย?

ถ้าเป็นการวิจารณ์พี่ว่าทำได้ในแง่ที่เป็นข้อเท็จจริง ถ้าหากมีการบิดเบือนอันนั้นก็เป็นเฟคนิวส์ เจอพ.ร.บ.คอมฯ มันก็อยู่ที่ว่าคุณวิจารณ์ในสิ่งที่ถูกที่ควรในเรื่องที่จริง ถ้าไม่จริงคุณก็ต้องโดน แต่พี่ไม่ค่อยอะไรกับการวิจารณ์นะเพราะว่าบางคนวิจารณ์เพื่อจะให้ดีขึ้นพี่เข้าใจ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าจะมีคนวิจารณ์แต่ถ้าวิจารณ์ในแง่ที่ลบแล้วก็เสียหายอันนี้พี่ก็รับไม่ได้ ก็โดน พ.ร.บ.คอมฯ ก็แล้วกัน

ถ้ายกตัวอย่างกรณีเรื่องงบสถาบันฯ ที่ก็มีทั้งการพูดในสภาหรือแม้กระทั่งอย่างที่ประชาไทก็เอามาลง

พูดได้นะคะ พูดได้แต่สังเกตดูหลายๆ สำนักข่าวดังๆ หลายๆ สำนักซึ่งไปสนับสนุนอีกฝั่งหนึ่งเขาไม่ได้พูดเรื่องจริงทั้งหมดเท่าไหร่ ถูกใช้ไปเท่าไหร่ แต่เพจต่างๆ มุ่งไปเหยียบย่ำ ย่ำยีว่างบสถาบันฯ เนี่ยเอาไปใช้ในเรื่องส่วนพระองค์มากกว่าซึ่งมันไม่จริงอันนี้ก็ถือว่าเป็นเฟคนิวส์

ในกรณีแบบนี้การนำข้อมูลโยนลงไปอินเตอร์เนตให้มันมีข้อมูลพอทั้งสองด้านจะเป็นวิธีการที่ดีกว่าการไปใช้พ.ร.บ.คอมฯ หรือให้เป็นเรื่องเฟคนิวส์ไปหรือไม่?

ถามว่าดีกว่าไหม ตอบไม่ได้ดีหรือไม่ดี เพราะคนสมัยนี้เด็กหรือคนทั่วไปอ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัดซึ่งเป็นเรื่องจริง เขาจะอ่านแต่พาดหัวข่าวแล้วก็แชร์เลย คือถ้าหากว่ารัฐบาลลงเรื่องจริง เพจต่างๆ สำนักข่าวต่างๆ ลงเรื่องเฟค(ไม่จริง) จริงๆ แล้วน่าจะเอามาประกบคู่กันแล้วก็ลงให้คนดูเขาอ่านเองให้คนดูวินิจฉัยเองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ

แต่มันไม่ใช่แบบนั้นก็คือสำนักข่าวอีกสำนักข่าวหนึ่งก็จงใจที่จะบิดเบือนข้อมูลมากกว่าแม้กระทั่งเรื่องที่หมอบุญ (นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พูดเรื่องวัคซีนกับคุณอนุทิน (ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พี่อยากให้ 2 คนนี้มานั่งดีเบตกันว่าอันไหนจริงอันไหนไม่จริง ทุกวันนี้พี่ยังหาความจริงไม่ได้เลยหมอบุญพูดอย่างหนึ่ง อนุทินพูดอีกอย่างหนึ่ง อันนี้พี่ก็ต้องขอตำหนิรัฐบาลเรื่องการประชาสัมพันธ์การใช้สื่อด้อยมากจนทำให้ประชาชนแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย จนทำประชาชนไม่กล้าไปฉีดวัคซีนมันถึงมีคนตายคนติดเยอะขนาดนี้

นอกจากการแจ้งความดำเนินคดีทาง ศชอ.มีการไปติดตามถึงที่บ้านของคนที่ ศชอ.จะแจ้งความด้วยหรือไม่?

ไม่มี เราไม่ใช้กฎแบบนั้น เราต้องการใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์เพราะว่าทำแบบนั้นพี่ก็ไม่เห็นด้วยนะที่ว่าเอาคนไปที่บ้านแบบที่มีคนอื่นทำไปขู่อะไรเขาแบบนี้ ไม่ใช่แนวทางของ ศชอ.เลย ศชอ.ต้องการใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์มากกว่า ถ้าไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่ต้องกลัว

การแจ้งความดำเนินคดีมากๆ แบบนี้จะทำให้การเปิดเวทีพูดคุยสาธารณะมันยากขึ้นหรือไม่ อย่างกรณีจอมขวัญ หลาวเพชร์ อดีตพิธีกรรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” ทวีตถึงกรอบจำกัดการพูดของผู้ชุมนุมที่มีมากกว่าหลังรายการสดที่รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุลออกคู่กับอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เมื่อปีก่อน

มีคนทักพี่มาทางหลังบ้าน(อินบ๊อกซ์) คนหนึ่งเขาบอกว่าเขาอยากมา Call out กับพี่แล้วก็คุณเอ มินเนี่ยน(อดิสรณ์ โสภา) แล้วก็ดร.อานนท์ 3 คน พี่ก็เลยถามทั้งสองคนว่าอยากคุยด้วยไหมพวกเขาก็บอกว่ามันเป็นการเสียเวลามากกว่าที่จะไปคุยกับคนพวกนั้น

แต่ถ้าถามตัวพี่เองพี่ว่าทำไมเราคนไทยด้วยกันเรานั่งคุยกันแบบพี่น้องไม่ได้เหรอ เราคุยกันได้นะ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของพี่ เพราะว่าพี่เป็นคนที่ตรงมากอะไรดีพี่ก็ว่าดี อะไรที่ว่าไม่ดีพี่ก็ว่าไม่ดี รัฐบาลพูดหรือทำอะไรที่ไม่ดีพี่ก็ด่า พี่ไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์ใคร พี่ตำหนิรัฐบาลเรื่องวัคซีนหลายเรื่องมาก

พี่เป็นคนใจอ่อนบางเคสที่ ศชอ.ทำพี่ก็ให้อภัยเขาคือพี่ก็โดนประณามเยอะว่าทำไมพี่ไปให้อภัยเขา พี่บอกว่าคุณไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ด้วยคุณไม่รู้หรอกว่าพี่เจอกับอะไรบ้าง พี่เองยังโดนเอารูปลูกสาวกับลูกชายซึ่งพวกเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

ลูกสาวพี่ก็เป็นสามกีบด้วยแต่ว่าเราคุยกันได้คุยกันรู้เรื่อง นี่เป็นประชาธิปไตยแบบที่พี่ต้องการเราเห็นต่างทางด้านการเมืองก็จริง เราคุยกันไม่ได้เหรอทำไมต้องตีกันต้องมาฆ่ากันต้องมาด่ากัน มันไม่ใช่คนเรามันจะอยู่กันได้กี่ปี

แต่การใช้กฎหมายมันจะยิ่งทำให้มาเจอกันไม่ได้หรือไม่?

ทำไมสื่อไม่เอาเรื่องจริงไปลงบ้าง ทำไมสื่อถึงจะเอาข่าวของสามกีบไปลงตลอด ทำไม่เอาข้อเท็จจริง(Fact) ไปลงบ้าง คือสื่อทั้งหลายแหล่มีอำนาจอยู่ในมือทำไม่วิ่งไปหาต้นตอว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ที่พี่เห็นก็คือสื่อเอาเฟคนิวส์มาลงร้อยละ 80 ทำไมสื่อไม่เข้าไปถามจริงๆ อย่างเรื่องหมอบุญกับอนุทิน ไปหาอนุทินเลยบอกว่าท่านครับขอความจริงหน่อยได้ไหมครับว่าเรื่องจริงๆ มันเป็นอย่างไรกันแน่ ตัวพี่เองถ้าพี่มีอำนาจพี่อยากจะเชิญสองคนนี้มานั่งคุยกันแล้วไลฟ์เลยให้ประชาชนได้รู้ว่าเรื่องจริงคืออะไร ทุกวันนี้คนไทยไม่กล้าฉีดวัคซีนเพราะอะไร ซิโนแวคไม่ดี โมเดอร์นาดี ไฟเซอร์ดี แอสตราฯ ดี คือวุ่นวายไปหมด พี่ฉีดซิโนแวคครบแล้ว 2 เข็ม

มองข้อเรียกร้องของของกลุ่มผู้ชุมนุม นักเรียนนักศึกษาประชาชนอีกฝั่งหนึ่งอย่างไร หรือสำหรับคุณแน่งน้อยแล้วไม่มีเรื่องไหนเป็นข้อเท็จจริงเลย?

มันก็มีเป็นบางเรื่องที่พี่ว่ามันก็ปรับได้นิดหน่อย แต่อำนาจในการทำแบบนั้นมันไม่ใช่อำนาจของประชาชนทั่วไป มันเป็นอำนาจของ ส.ส.ในสภา ทำไมคุณไม่ใช้สภาให้เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการข้อเรียกร้องของคุณ ใช้สิ จะเอาม็อบออกมาทำไม

พี่แน่งเป็นหัวหน้าม็อบของจังหวัดเลย ยันเป็นเลขาฯ กปปส. พิษณุโลก แต่ทุกเรื่องที่พี่แน่งทำตอนนั้นมันไม่ไหวแล้วไง

แต่เวลามีประเด็นเรื่องสถาบันกษัตริย์ขึ้นมาในกระบวนการในสภาก็มักจะถูกขัด

พี่มีไอเดียแบบนี้ให้ส.ส.ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลมาตั้งกลุ่ม แล้วไม่ต้องเอา ส.ว.เพราะพี่ก็ไม่ชอบการเลือกตั้ง ส.ว.มาแต่ไหนแต่ไรไม่เห็นด้วย ก็ให้ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลมานั่งคุยกันหาข้อสรุปหาข้อตกลงเพื่อที่จะส่งให้ประธานสภา เรื่องบางเรื่องมันพูดไม่ได้ไงทั้งที่ๆ อยากจะพูดอยากจะทำ แต่กฎหมายบ้านเราบางอย่างมันทำไม่ได้มันต้องอาศัยการแก้กฎหมายที่รัฐสภา อย่าไปม็อบเลยเหนื่อยเปล่า

ถ้าให้ยกตัวอย่างข้อเรียกร้องของม็อบที่เห็นด้วยอย่างเรื่องอะไรบ้าง?

ก็อย่างการทำกิจกรรมของสถาบันในเรื่องที่ดี อย่างเรื่องงบของสถาบันฯ ที่ออกมาแล้วมีเฟคนิวส์ก็ให้อธิบายให้ชัดเจนว่าทำอะไรบ้าง เท่าที่เห็นสื่อเสนอออกมาก็ไม่เห็นว่ามีเรื่องไหนที่ชัดเจน

แต่เวลาร่างงบประมาณประจำปีออกมามันก็ไม่ได้ลงรายละเอียด คิดว่าอย่างน้อยควรจะต้องลงรายละเอียดเรื่องงบสถาบันฯ?

ใช่ค่ะ อย่างน้อยก็จะได้ลดแรงเสียดทาน

ถ้าคิดว่าในบางเรื่องก็น่าจะพูดได้ แล้วมองเห็นปัญหาของการใช้มาตรา 112 หรือไม่ว่าจะทำให้เรื่องพวกนี้ก็พูดได้ยากขึ้นกับคนที่ต้องการจะตรวจสอบ หรือหน่วยงานรัฐเองก็มองว่าข้อมูลพวกนี้ก็เป็นเรื่องของความมั่นคงก็ไม่เปิดแทน?

มันต้องโยงแบบนี้ค่ะว่าประเทศไทยมีมาตรา 112 มาตั้งแต่ปี พ.ศ.ไหน ทำไมถึงต้องมีมาตรา 112 พี่อายุ 64 ปีแล้ว ต้องดูรากเหง้าของประเทศไทยว่ามาจากอะไร เรามีประเทศไทยเรามีแผ่นดินยืนอยู่นี่เพราะอะไร คือถ้าเปรียบเหมือนบ้าน ไม่มีกำนัน ไม่มีผู้ใหญ่บ้านแล้วใครจะควบคุมได้

วิธีการพูดกับวิธีการด่าแบบหยาบคาย เสียดสี ให้ร้ายประทุษร้าย มันไม่เหมือนกัน เราพูดแบบดีๆ กันก็ได้ แต่เท่าที่พี่เห็น ที่ ศชอ.เห็นมันไม่ใช่คำพูดมันเป็นคำด่า แล้วทำไมฝั่งนั้นถึงพูดดีๆ ไม่ได้ไม่เข้าใจเหมือนกัน คุณอยากรู้อะไรคุณใช้คำถามดีๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมคุณต้องไปด่าท่าน เหน็บแนมท่าน

ถามว่าการใช้กฎหมายอย่างมาตรา 112 นี้มีใช้ทั่วโลก ไม่ใช่ว่ามีเฉพาะประเทศไทย เพื่อคุ้มครองประมุขของประเทศก็เหมือนเรามีพ่อมีแม่มีคนมาด่าใครจะยอม เป็นเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน วิธีวิจารณ์ วิธีการพูด ก็พูดกันดีๆ หรือทำหนังสือส่งไปดีๆ ให้ฝ่ายรัฐหรือให้ฝ่ายการเมืองของอีกฝั่งหนึ่งก็มีตั้งเยอะแยะทำถึงสำนักพระราชวังก็ได้

แต่ที่เท่าที่ผ่านมามันไม่ได้เป็นไปในทำนองนั้น แต่เป็นเรื่องขอให้ยกเลิกระบอบพระมหากษัตริย์ใช่ไหม อย่ามาอ้างเรื่องข้อเรียกร้อง 3 ข้อมันเป็นแค่นัยยะเท่านั้นเอง แต่ความต้องการจริงๆ คือล้มล้างระบบสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ให้มีอยู่ในประเทศไทยเลย

แต่ทางผู้ชุมนุมก็ยืนยันเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ยกเลิก 112

พี่ก็แนะนำว่าให้ทำหนังสือไป พูดคุยกันดีๆ ถามกันดีๆ ในเมื่อมีสภาทำไมไม่ใช้สภาให้เป็นประโยชน์ ใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์สิ

แต่ละประเทศก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ทำไมในเมือคนไทยมีสถาบันกษัตริย์มาตั้งกี่สิบกี่ร้อยปีมาแล้ว แล้วทำไมอยู่ๆ คุณจะต้องการเลิก ถามหน่อยว่าเพราะอะไร เพราะคุณอ้างว่าพระมหากษัตริย์เนี่ยเอานู่นนี่ไปใช้เอาภาษีเก็บภาษีประชาชน ซึ่งมันไม่จริงเลยมันเฟคนิวส์ทั้งนั้น เราถึงต้องใช้ 112

ถ้าถามว่าการเอา 112 มาใช้จะทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียไหม พี่ว่าไม่นะคะเพราะประชากรประเทศไทยกี่ล้านคน วันนี้เราทำแค่พันกว่าคนพวกเขาเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น เราต้องการทำเพื่อปราม ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่มีความผิดก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย

แล้วคิดว่าจากที่ทำอยู่ทั้งจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีหรือกรณีที่ผู้กองปูเค็มทำแผนที่ระบุตำแหน่งคนที่ถูกกล่าวหาว่ามีการหมิ่นประมาทกษัตริย์ขึ้นมา มันยิ่งทำให้เห็นหรือไม่ว่ามีคนที่เห็นด้วยไม่พอใจสถาบันกษัตริย์มากขึ้น?

ไม่คิดแบบนั้นนะ เราคิดว่าที่ผู้กองปูเค็มเขาลงไว้ในแผนที่มันเป็นแค่หนึ่งในไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยล้านคน พี่ถึงพูดว่าประชากรของคนไทยกี่คนกับพวกคนที่โดน 112 มีเท่าไหร่ มันแตกต่างกันเยอะนะระหว่างคนที่ปกป้องสถาบันกับคนที่ต้องการล้มล้างสถาบัน ก็บอกแล้วไงว่าเป็นชนกลุ่มน้อยไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่

แต่จากที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีคนที่ออกมาแสดงออกมากขึ้น

ก็ต้องดูที่เยอะขึ้นเป็นคนอายุเท่าไหร่ ที่ออกมาแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่น คนที่มีอายุสัก 40-50 ขึ้นไปไม่มีนะ หายากมาก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็เพราะว่าเด็กถูกปั่นสมองดูตามเพจต่างๆ โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย ในสถาบันการศึกษาเยอะมากที่อาจารย์ไปปั่นหัวเด็กแบบนี้ ยัดเยียดสมองให้เด็กแบบนี้ แล้วเด็กพวกนี้เขาเกิดไม่ทันรัชกาลที่ผ่านๆ มาทำอะไรให้กับประเทศไทยบ้างคิดอย่างนั้นมากกว่า

แล้วการใช้มาตรา 112 มันจะทำให้คนยิ่งไม่พอใจมากขึ้นหรือไม่ เพราะในอดีต 10 กว่าปีที่ผ่านมาอย่างในแวดวงวิชาการก็มีการพูดเรื่องสถาบันกษัตริย์แต่การใช้มาตรา 112 ก็ไม่มากเท่าทุกวันนี้

เพราะว่าเมื่อก่อนในวงวิชาการไม่มีใครกล้าพูดแรงๆ แบบทุกวันนี้ เพราะไม่มีการใช้มาตรา 112 แบบเด็ดขาดเหมือนทุกวันนี้แบบที่กองทัพมินเนี่ยนทำ ก็เลยปล่อยเลยตามก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาการที่กองทัพมินเนี่ยนกับ ศชอ.ทำเรื่องนี้ก็เพื่อปราม ไม่อยากให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น

ท่านอยู่ของท่านมีชีวิตของท่าน ทำไมจะต้องไปด่าไปว่าท่านแบบนั้นไม่เข้าใจเหมือนกัน มีใครมาด่าพ่อแม่คุณ คุณยอมไหมละ

ก็อาจจะแล้วแต่เรื่อง

ไม่แล้วแต่เรื่อง ถึงพ่อแม่จะยังไงเขาก็คือพ่อแม่ของเรา ต่างคนต่างมีชีวิตไม่เหมือนกัน คุณก็มีชีวิตไม่เหมือนพี่ พี่ก็มีชีวิตไม่เหมือนคุณ ฉะนั้นต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างดำเนินชีวิตกันต่อไป คนไทยด้วยกันได้ ทำไมจะต้องเอาประเด็นมาฟาดฟัน มาฆ่าฟันกัน ถ้าคุณไม่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไม่มีใครใช้ม.112 ที่ผ่านๆ มาไม่มีใครด่าไม่มีใครจาบจ้วงขนาดนี้ แต่ทุกวันนี้แรงมากเราก็ต้องใช้มาตรานี้มาจัดการพวกที่จาบจ้วงและลบหลู่สถาบันฯ เพราะถามว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังรักสถาบันฯ และยังต้องการสถาบันฯ อยู่ คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ต้องการสถาบันฯ