Skip to main content
sharethis

ไทยพบผู้ป่วยใหม่ 11,397 ราย (สถิติรายวันสูงสุด) ป่วยสะสม 403,386 ราย รักษาหาย 5,726 ราย หายสะสม 283,910 ราย เสียชีวิต 101 ราย เสียชีวิตสะสม 3,341 ราย - พบ 8 คลัสเตอร์ใหม่ในต่างจังหวัด โรงงานยังเสี่ยงสูง - กรมการแพทย์ประกาศฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อตั้งแต่ 19 ก.ค. เป็นต้นไป

18 ก.ค. 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 11,071 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 318 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 9 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 5,726 ราย กลับบ้านแล้ว 283,910 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 116,135 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 67,835 ราย และโรงพยาบาลสนาม 48,300 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 3,464 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 846 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 101 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,341 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 403,386 ราย ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 55 ของโลก

สำหรับผู้ติดเชื้อ 11,397 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,670 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 2,400 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 318 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย

ศบค. ยังรายงาน คลัสเตอร์ใหม่ทั่วประเทศ พบว่ามีทั้งหมด 8 แห่ง ประกอบด้วย

- สมุทรสาคร ที่โรงงานชิ้นส่วนจักรยานยนต์ อ.กระทุ่มแบน มีผู้ติดเชื้อ 27 ราย
- ชลบุรี ที่บริษัทเครื่องดื่ม อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 19 ราย และที่โรงงานจักรเย็บผ้า อ.ศรีราชา มีผู้ติดเชื้อ 13 ราย
- สมุทรปราการ ที่แคมป์ก่อสร้าง 2 แห่ง อ.บางพลี มีผู้ติดเชื้อ 101 ราย
- นนทบุรี ที่แคมป์ก่อสร้าง อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 42 ราย
- ฉะเชิงเทรา ที่บริษัทพลาสติกสำเร็จรูป อ.บางปะกง มีผู้ติดเชื้อ 26 ราย และโรงงานเสื้อผ้า อ.บางคล้า มีผู้ติดเชื้อ 55 ราย
- จันทบุรี สนามบอล อ.เมือง มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย

กรมการแพทย์ ประกาศฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขประกาศเปลี่ยนแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ผู้รับบริการที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เป็น Sinovac ไปแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ผู้รับบริการกลุ่มนี้จะได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 เป็น AstraZeneca ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป โดยจะปฏิบัติตามแนวทาง สำหรับหน่วยบริการต่างๆ รวมทั้งมีการติดตาม ประเมินผลการให้วัคซีนแบบสลับชนิดอย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเพื่อให้การรับวัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงสุด และให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วที่สุด ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานต่าง ๆ นอกสังกัดกรมการแพทย์ให้ติดต่อไปยังหน่วยงานที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อสอบถามรายละเอียดการรับวัคซีนต่อไป

คนจองวัคซีนซิโนฟาร์มเต็มอย่างรวดเร็ว

นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ Facebook ปิดระบบการจองวัคซีนซิโนฟาร์ม ในเวลา 09:30 น. โดยจะเปิดให้จองอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยมีข้อความว่า 

“อีกหนึ่งล้านมาถึงแล้วพร้อมๆ กับที่ได้รับรายงานว่า มีคนเข้าจองวัคซีน Sinopharm รายบุคคลได้บ้างไม่ได้บ้าง ขณะนี้ 09.30 คนผ่านลงทะเบียนเข้าไปได้ 60,000 ราย แล้วผมได้สั่งให้ปิดระบบก่อนนะครับ ต้องขอโทษคนที่จองไม่ได้ แต่ประมาณอีกหนึ่งอาทิตย์จะเปิดให้อีกครั้ง และจะไปขยายถนนระบบทางเข้าจองให้กว้างขึ้น จะได้สะดวกกันทุกฝ่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงไม่ได้พร้อมกันทั้งหมด เพราะจากรายงานก่อนเปิดระบบทราบว่ามีคนเกือบสี่แสนคนรอจ่อเข้าในการจอง” 

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป อาศัยอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 40,000 ราย

เงื่อนไขการจองสิทธิ์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม

1. อัตราการจอง 1,554 บาท รวมค่าประกันผลข้างเคียงแล้ว แต่ไม่รวมค่าบริการฉีดและค่าบริการทางการแพทย์ที่ผู้ฉีดจะต้องชำระ ณ โรงพยาบาลที่เข้ารับบริการโดยตรง

2. การจองวัคซีน 1 สิทธิ์ ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งานที่ระบุตามเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขที่หนังสือเดินทาง ทั้งนี้ ผู้จองสิทธิ์จะไม่สามารถโอนสิทธิ์การฉีดวัคซีนให้กับบุคคลอื่นได้ทุกกรณี

3. ผู้จองสิทธิ์รับวัคซีนซิโนฟาร์ม ยินดีและเต็มใจสละสิทธิ์การรับวัคซีนหลักพื้นฐานในภาวะฉุกเฉินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และเป็นบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาก่อน กรณีปกปิดข้อมูลการรับวัคซีน เพื่อให้ได้รับวัคซีนต่างชนิดหรือใช้วัคซีนเพื่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันก่อนเวลาที่เหมาะสม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะไม่รับผิดชอบผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม และการประกันอาจไม่คุ้มครองการรักษาพยาบาลที่เกิดจากอาการข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน

4. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไม่รับเปลี่ยนหรือคืนวัคซีนทุกกรณี ภายหลังจากที่ผู้จองสิทธิ์ได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว

 

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย [1] [2] | ไทยรัฐออนไลน์ 



 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net