Skip to main content
sharethis

ญาติผู้ต้องหาเผยอาการติดเชื้อโควิด-19 ของ 'บอย' ชาติชาย แกดำ สมาชิกภาคี Saveบางกลอย ยังไม่ดีขึ้น มีอาการหอบ ไอมากขึ้น และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจบางเวลา พร้อมตั้งข้อสังเกตราชทัณฑ์แถลงข่าวอาการชาติชายไม่ครบ อ้างระดับค่าออกซิเจนปกติ แต่พอคนไข้ขอดูตัวเลข กลับถูกปฏิเสธ 

ธัชพงศ์ แกดำ สมาชิกภาคีSaveบางกลอย

สืบเนื่องจากวันนี้ (31 ส.ค.) สำนักข่าว ‘The Standard’ รายงานอ้างข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ต่อกรณีความคืบหน้าอาการของชาติชาย แกดำ หรือบอย สมาชิกภาคี Saveบางกลอย ซึ่งถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 ที่เรือนจำชั่วคราวรังสิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. โดยระบุว่า "ด้านชาติชายรู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีไข้ สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ ในส่วนการตรวจพบฝ้าที่ชายปอด แพทย์ได้ดูแลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยผู้ต้องขังทั้งหมดมีสัญญาณชีพและระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ"

นอกจากนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นของชาติชายที่กล่าวอ้างว่ามีอาการทรุดและแย่ลงนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากผู้ต้องขังทั้งสองคนมีสภาพร่างกาย สัญญาณชีพ และระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ

31 ส.ค. 64 เพื่อเช็กข้อมูล ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ภาวินี จันทร์เชื้อ หรือนุ่น ซึ่งเป็นญาติผู้ต้องหาของ 'บอย' ชาติชาย โดยเธอไปเยี่ยมและคุยกับบอยว้นนี้ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นุ่นเปิดเผยว่าข้อมูลที่เธอได้ฟังมาจากชาติชาย มีบางจุดไม่ตรงกับที่กรมราชทัณฑ์แถลงข่าว โดยเฉพาะเรื่องอาการเหนื่อยหอบ และกรมฯ อาจแจ้งข้อมูลยังไม่ครบถ้วนเท่าใด  

นุ่น ระบุว่า ขณะนี้เธอและทนายไม่สามารถคุยกับแพทย์เจ้าของไข้และขอข้อมูลอะไรได้เลย ซึ่งข้อมูลนี้มาจากการคุยกับบอย เธอกล่าวต่อว่า สำหรับอาการของบอยนั้นไม่ได้แย่ลงหรือดีขึ้นเลย มีอาการที่เพิ่มมาก็คือไอมากขึ้นกว่าเดิม และมีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งขณะนี้แพทย์จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้บอยแล้ว 

นุ่น กล่าวเพิ่มว่า ตอนนี้บอยยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในเวลานอน และสลับใส่เวลาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน อาทิ เวลาลุกขึ้นและเดินถ้ามีอาการเหนื่อยต้องกลับมาใส่เครื่องช่วยหายใจ และเวลาสูดหายใจลึก อากาศจะเข้าได้ไม่เต็มปอด เหมือนคนขาดอากาศหายใจ 

นอกจากนี้ บอย ยังมีภาวะความดันสูง เกล็ดเลือดต่ำ และต้องระมัดระวังไม่ให้หน้าอกกระแทกรุนแรง เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะภูมิคุ้มกันต่ำ ข้อมูลตรงนี้นุ่นเผยว่า กรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีแจ้งในตอนแถลงข่าว แต่เธอทราบเนื่องจากแพทย์เป็นคนแจ้งกับชาติชาย

จากการแถลงของกรมราชทัณฑ์ซึ่งระบุว่า "ประเด็นของชาติชายที่กล่าวอ้างว่ามีอาการทรุดและแย่ลงนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากผู้ต้องขังทั้งสองคนมีสภาพร่างกาย สัญญาณชีพ และระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ" 

เมื่อสอบถามเรื่องระดับออกซิเจนกับญาติผู้ต้องหาแล้ว เธอกล่าวว่า ทางกรมราชทัณฑ์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเรื่องนี้กับคนไข้

"ล่าสุด กวิ้น (ผู้สื่อข่าว - พริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งตอนนี้อยู่พักรักษาตัวที่เดียวกับบอย ชาติชาย แกดำ ที่ รพ.ราชทัณฑ์) เดินไปขอ เขาก็ไม่ได้ให้ตัวเลขตรงนี้ เราเลยไม่รู้ว่าตัวเลขปกติเท่าไรกันแน่" นุ่น กล่าว  

นุ่นตั้งข้อสังเกตต่อการแถลงของกรมราชทัณฑ์เพิ่มว่า ก่อนหน้านี้มีการกระทำคล้ายต้องการปกปิดอาการป่วยของผู้ต้องหาทางการเมืองให้ทางญาติได้รับทราบอีกด้วย 

นุ่น กล่าวต่อว่า เนื่องจากตอนย้ายตัวชาติชาย แกดำ มาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 24 ส.ค. มีการตรวจคนไข้ด้วยวิธีการเอ็กซ์เรย์ปอด และผลตรวจออกมาวันที่ 25 ส.ค. พอญาติไปเยี่ยมผู้ต้องหา ทางแพทย์กล่าวว่า ผลตรวจของบอย ชาติชาย ยังปกติ อยู่ในกลุ่ม ‘สีเขียว’ แต่ในวันเดียวกันเธอไปเยี่ยมบอย เมื่อเวลา 13.00 น. เขากลับบอกว่า มีแพทย์มาแจ้งว่าเชื้อโควิด-19 ลงปอดแล้ว ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น นุ่นมีการถามย้ำเพื่อเช็กข้อมูลว่า แน่ใจหรือไม่ เพราะว่าแพทย์บอกกับญาติว่าปกติ แต่บอยยืนยันหนักแน่นว่า แพทย์พูดอย่างนั้นจริง และประเด็นนี้กรมราชทัณฑ์เพิ่งมาแถลงข่าวว่าเชื้อลงปอดบอยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผ่านมา 4 วันหลังญาติทราบอาการ แทนที่จะแจ้งตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค.   

นุ่น กล่าวว่า อาการของบอยตอนนี้ยังค่อนข้างน่าเป็นกังวล เนื่องจากอาการเขายังไม่ดีขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ขณะที่ปัญหาเรื่องการสื่อสารของกรมราชทัณฑ์ ญาติผู้ต้องหามีการหารือและรวมตัวกันเพื่อตอบโต้ราชทัณฑ์ที่ให้ข้อมูลและสื่อสารคลาดเคลื่อนต่อไป  

สุดท้าย นุ่นสะท้อนปัญหาว่า เวลาขอข้อมูลทางการแพทย์ ทางการค่อนข้างดำเนินการล่าช้าเกินกว่าปกติ จนอาจเรียกได้ว่า ‘ไม่ชอบมาพากล’ ไม่ว่าจะเป็น การขอเวชระเบียน และใบรับรองแพทย์ ซึ่งต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์ เธอตั้งข้อสังเกตว่าขั้นตอนเหล่านี้น่าจะทำได้อย่างรวดเร็ว แต่เหตุใดถึงใช้เวลานาน  

สำหรับ 'บอย' ชาติชาย แกดำ นักกิจกรรมการเมืองจากภาคี Saveบางกลอย ถูกฝากขังเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 ที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ข้อหามั่วสุมเกิน 10 ขึ้นไป พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) และใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งสิ้น 4 ข้อหา จากกรณีประท้วงเรียกร้องปล่อยตัวทีมทะลุฟ้า ที่หน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 (บก.ตชด. ภาค 1) จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 

ม็อบ2สิงหา สาดสีหน้า ตชด.ภาค 1 เรียกร้องปล่อยตัวทะลุฟ้า

ก่อนที่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ แจ้งว่า ‘บอย’ ชาติชาย แกดำ ติดไวรัสโควิด-19 จากในเรือนจำ และขณะนี้มีการส่งตัวบอย ชาติชาย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว 

อีก 4 วันถัดมา หรือ 29 ส.ค. 64 ธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า บอยหายใจปกติ แต่มีอาการแน่นหน้าอก แพทย์ตรวจอาการระดับออกซิเจนปกติ พิจารณา ‘เอ็กซ์-เรย์’ (X-Ray) ที่ปอดซ้ำ พบว่ามีฝ้าที่ชายปอด (แต่ในวันที่ 24 ส.ค. ระบุว่ายังไม่พบฝ้าที่ปอด) จึงทำการย้ายจากโรงพยาบาลสนาม มาหอผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
 

หมายเหตุ มีแก้ไขย่อหน้าที่ 13 คำว่าเลขระเบียน เป็นคำว่า 'เวชระเบียน' และใส่ลิงก์ในข่าว The Standard เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 เวลา 17.32 น. 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net