Skip to main content
sharethis

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 3,132 ราย สะสม 2,188,629 ราย รักษาหาย 3,278 ราย สะสม 2,123,969 ราย เสียชีวิต 28 ราย สะสม 21,355 ราย ฉีดวัคซีน (17 ธ.ค. 2564) สะสม 98,058,844 โดส - สธ.เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ประชาชนทุกพื้นที่

18 ธ.ค. 2564 ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 3,132 ราย สะสม 2,188,629 ราย รักษาหาย 3,278 ราย สะสม 2,123,969 ราย เสียชีวิต 28 ราย สะสม 21,355 ราย ฉีดวัคซีน (17 ธ.ค. 2564) สะสม 98,058,844 โดส

สำหรับผู้ติดเชื้อ 3,132 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,974 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 35 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 93 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 30 ราย

ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายจังหวัดมากที่สุด 5 จังหวัดประจำวันนี้ คือ กรุงเทพมหานคร 550 ราย รองลงมา นครศรีธรรมราช 184 ราย ชลบุรี 160 ราย สมุทรปราการ 119 ราย และสงขลา 114 ราย

ในส่วนของผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 1-17 ธ.ค. 2564 มียอดสะสม 134,574 ราย โดยมีผู้ที่เดินทางเข้ามาใหม่วันนี้ 12,215 ราย ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 30 ราย

สธ.เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ประชาชนทุกพื้นที่

สำนักข่าวไทย รายงานว่ารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา กำชับรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ยืนยันวัคซีนมีเพียงพอและจัดส่งให้แต่ละพื้นที่ตามจำนวนประชากร พร้อมย้ำ อสม.ในพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ครบ ภายใน 15 ม.ค. 2565 เพื่อความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพชาวบ้าน

วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่ จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และ นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 ติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 และเยี่ยมเสริมพลังบุคลากรสาธารณสุข และกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับ อสม.อย่างมาก ได้ฝากความปรารถนาดี และชื่นชมการทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานดูแลสุขภาพประชาชนในช่วงโควิด-19 จนสถานการณ์ดีขึ้น ช่วยเสริมความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย และเมื่อมีการฉีดวัคซีนยังช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในการคัดกรองประชาชนที่มาฉีดวัคซีนด้วย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ในช่วงการรณรงค์การกระตุ้นฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภูมิภาค ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ในช่วงรับวัคซีนเข็มที่ 3 ได้แก่ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันครบ 2 เข็ม ทั้งแอสตราเซเนกา และซิโนแวค ตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงเดือนกันยายน ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญได้ปรับระยะเวลาให้เร็วขึ้นจากเดิม 6 เดือน เป็น 3 เดือน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน และขอความร่วมมือให้ อสม.ในจังหวัดนครราชสีมา เข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ภายในวันที่ 15 มกราคม 2565 เพื่อความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพชาวบ้าน

“การฉีดวัคซีนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลและสร้างความปลอดภัยทางสุขภาพให้กับประชาชน ซึ่งคาดว่าเราจะสามารถฉีดได้เกิน 100 ล้านโดส ในเร็วๆ นี้ แต่จะเดินหน้าฉีดต่อเนื่อง ทั้งเข็มที่ 1, 2 และ 3 เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับความปลอดภัย ยืนยันว่า วัคซีนมีเพียงพอฉีดให้กับประชาชนทุกคน และจะจัดสรรลงพื้นที่ต่างๆ ตามจำนวนประชากรอย่างเท่าเทียม และแม้การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ แต่ขอให้ประชาชนยังคงป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด โอกาสติดเชื้อจะได้น้อยลง” นายอนุทิน กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net