Skip to main content
sharethis

กรมราชทัณฑ์แถลงเหตุจลาจลเรือนจำกระบี่ พร้อมสั่งกรรมการสอบข้อเท็จจริง 31 แกนนำไปเขาบิน รวมทั้งผู้คุมเรือนจำ ปมอ้างปัญหาการจัดการ COVID-19 หรือมีการวางแผนก่อเหตุ


แฟ้มภาพสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

18 ธ.ค.2564 Thai PBS รายงานว่านายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีเหตุจลาจลเรือนจำกระบี่ โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เข้าสำรวจความเสียหายภายในเรือนจำกระบี่ พบว่าเรือนนอนไม้เก่าเสียหายทั้งหลัง และเอกสารของฝ่ายสวัสดิการถูกทำลายไป นอกจากนี้ยังมีโรงครัวที่ข้าวของเสียหาย และยังมีการนำอาวุธจากในครัวที่ประกอบอาหารไปใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ 

“เจ้าหน้าที่ยังพบของกลาง เช่น แกลอนน้ำมัน 3 ถัง มีดจำนวนหลายเล่ม มีทั้งเล่มเล็ก เล่มใหญ่ ตะหริว ค้อน เหล็กแหลม อีกนับไม่ถ้วน”

ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงผู้คุม-แกนนำปมจลาจล

เมื่อถามว่ามีการสอบสวนแกนนำ ถึงแรงจูงใจในการก่อจลาจลว่ามีแรงจูงใจที่อ้างการจัดการ COVID-19 ในเรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้สอบสวนแกนนำทั้ง 31 คนแต่ย้ายไปเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรีแล้ว พร้อมจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นเรื่องโควิดหรือมีการวางแผนโดยใช้ปัญหาโควิดมากล่าวอ้างหรือไม่

เมื่อถามว่าจะมีการสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำด้วยหรือไม่ เพราะมีการอ้างว่าไม่พอใจการแยกคนติดเชื้อ COVID-19 ออกจากคนไม่ติด อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จะมีการสอบเจ้าหนาที่เรือนจำด้วย  

“แกนนำที่ถูกนำไปที่เขาบิน จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด ส่วนความผิดในการเผาทำลายทรัพย์สินเรือนจำ เป็นเรืองของพนักงานสอบสวน”

มั่นใจจัดการ COVI-19 เรือนจำ-ฉีดวัคซีน 2 เข็ม 90%

นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มีมาตรการจัดการ COVID-19 ในเรือนจำ ดูแลผู้ต้องขัง มีการกักโรคด้านนอกเรือนจำและในเรือนจำ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่ระบาด หากมีการติดเชื้อจะได้รับการแจกยาฟาร์วิพิราเวียร์แล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมควบคุมโรคในการฉีดวัคซีนครบ 90% จำนวน 2 เข็มแล้วกว่า 500,000 กว่าคนมีทั้งคนเข้าใหม่ คนปล่อยตัวออกไปแล้วที่ได้รับวัคซีน

“ตอนนี้มีผู้ติดเชื้ออาการสีเขียวประมาณ 80% ของผู้ต้องขัง ยืนยันที่ผ่านมามีการปฎิบัติการตามสาธารณสุข แยกผู้ติดเชื้อ แม้ว่าผู้ต้องขังจะบอกว่าไม่มีการแยก แต่เพื่อหามูลเหตุต้องสอบสวนทั้งผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ยังเร่งรถขนย้ายผู้ต้องขังชุดสุดท้าย 400 กว่าคน ออกจากเรือนจำ ตอนนี้เคลื่อนย้ายไปไว้ที่ เรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย  เรือนจำจังหวัดภูเก็ต เรือนจำกลางสงขลา เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังไม่ทราบว่า แต่ละเรือนจำที่ไปมีจำนวนเท่าไหร่

ประมวลเหตุนักโทษเรือนจำกระบี่ก่อจลาจลเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2564

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ว่าตลอดทั้งวันที่ 17 ธ.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ทยอยนำตัวผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการอยู่ในระดับสีเขียว ออกจากเรือนจำ เพื่อนำตัวส่งเข้ารับการรักษาต่อในโรงพยาบาลสนาม​กระบี่ หลังจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาผู้ต้องขังในเรือนจำได้รวมตัวกันก่อจลาจล​ มีการทำลายทรัพย์สิน​ ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เข้าระงับเหตุ​ จนทำให้ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ต้องขอกำลังเสริมจากชุดปฏิบัติการพิเศษของเรือนจำในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งพังงา ภูเก็ต ตรัง และสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีการแยกตัวผู้ต้องขังหญิงจำนวน 268 คน ในเรือนจํากระบี่ออกไปควบคุมตัวชั่วคราวที่เรือนจำกระบี่น้อย เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าควบคุมสถานการณ์​ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ภายในเรือนจำยังคงบานปลาย และไม่สามารถควบคุมได้

กระทั่งเวลา 11.30 น. นายพุฒิพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ แถลงยืนยันเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเหตุความรุนแรงภายในเรือนจำได้แล้ว​ พร้อมปฏิเสธผู้ต้องขังไม่ได้มีการจุดไฟเผาเรือนนอนตามที่เป็นข่าว​ แต่ไม่ได้ระบุถึงความความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ​ ​ยืนยันพูดคุยและทำความเข้าใจกันได้แล้ว ขอให้ประชาชนรอบพื้นที่รอบเรือนจำมั่นใจความปลอดภัย เนื่องจากไม่มีผู้ต้องขังรายใดหลบหนีออกจากเรือนจำ ตามที่หลายคนวิตกกังวล

จากนั้น​เวลา 13.00 น. นายอายุตม์​ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บินด่วนถึงเรือนจำจังหวัดกระบี่​ เพื่อบัญชาการแก้ไขสถานการณ์​ ระบุ​ เบื้องต้นผู้ต้องขังรวมตัวกันก่อเหตุเพราะเกิดจากความกลัวว่าเพื่อนผู้ต้องขังที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จะแพร่กระจายเชื้อไปให้ผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากภายในเรือนจำกระบี่มีแดนคุมขังเพียงแดนเดียว​ โดยเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทรัพย์สินภายในเรือนจำบริเวณเรือนนอน ห้องครัว และร้านค้าสวัสดิการ ได้รับความเสียหาย​ มีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 14 ราย

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนผู้ต้องขังซึ่งเป็นแกนนำทั้ง 20 คน ที่เป็นผู้ชักชวนเพื่อนผู้ต้องขังรายอื่นให้ร่วมก่อเหตุ​ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ลงโทษเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่การดำเนินการกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ทางเรือนจำได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้ต้องขังทั้งหมดจำนวน 2,159 คน ที่อยู่ในเรือนจำ​ ขณะนี้ตรวจไปได้แล้วเพียง 600 คน​ และทำการคัดแยกผู้ต้องที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 ออกจากเรือนจำไปฝากขังยังเรือนจำจังหวัดภูเก็ตก่อน​

ส่วนผู้ต้องขังที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการไม่รุนแรงอยู่ในระดับสีเขียว ส่วนหนึ่งจะส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลสนาม และอีกส่วนจะรักษาในเรือนจำกระบี่ เพื่อลดความแออัด​

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้​ยังไม่พบผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง เนื่องจากทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 เข็ม

สำหรับที่ผ่านมา การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยพบผู้ต้องขังในเรือนจำต่างๆ ของประเทศติดเชื้อในหลายแห่ง บางแห่งมีผู้ติดเชื้อ จำนวนหลายพันคน​

อย่างไรก็ตาม การลุกขึ้นมาก่อจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ​โดยอ้างว่าเพื่อเรียกร้องให้มีการคัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ต้องขังทั่วไปนับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเรือนจำ​ ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวล โดยเฉพาะกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก​ เนื่องจากเรือนจำจังหวัดตั้งอยู่ใจกลางชุมชนเมืองของที่มีสถานศึกษารายรอบถึง 3 แห่ง​ เหตุจลาจลในครั้งนี้จึงนำไปสู่การตั้งคำถามของประชาชนกระบี่อีกครั้ง ถึงความเหมาะสมของที่ตั้งเรือนจำ​ หลังจากที่ผ่านมามีความพยายามเรียกร้องของประชาชนกระบี่มาแล้วในหลายครั้ง​ ให้มีการย้ายที่ตั้งของเรือนจำจังหวัดกระบี่ ออกจากย่านชุมชนเพื่อความปลอดภัย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net