มติ กกต.กำหนดเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม.เขต 9 หลักสี่ 30 ม.ค. เปิดรับสมัคร 6-10 ม.ค.นี้ ภายใต้มาตรการสาธารณสุขป้องกันโควิด-19 ขณะที่โฆษกรัฐบาลขอฝ่ายค้าน กลับมาใช้กลไกสภาฯ ถ่วงดุลแทนผสมโรงม็อบบนถนน  อ้างรัฐบาลพร้อมชี้แจง อภิปราย แจงใช้งบประมาณโดยนึกถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก

3 ม.ค.2565 ข่าวสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประชุมนัดพิเศษ ทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครเลือกตั้ง หลังมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างในเขตเลือกตั้งที่ 9 กทม. โดยที่ประชุมมีมติกำหนดวันออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง คือวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.นี้ เวลา 08.00-17.00 น. และให้เปิดรับสมัครรับเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 6 – 10 ม.ค. เวลา 8.30 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสถานที่รับสมัคร คือสำนักงานเขตหลักสี่

ทั้งนี้การส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งและกระบวนการสรรหาผู้สมัครจะต้อง เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดไว้ ผ่านกระบวนการสรรหาไพรมารีโหวต และหัวหน้าพรรคการเมืองต้องออกหนังสือรับรองผู้สมัคร ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง คำนวณค่าใช้จ่ายนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงจนถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1,500,000 บาท และจะต้องยื่นแจ้งบัญชีรายรับรายจ่ายให้ถูกต้องตามความเป็นจริงภายใน 90 วันนับแต่วันเลือกตั้ง

ทั้งนี้สำนักงาน กกต.แจ้งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง โดยสำนักงานฯ ได้มีมาตรการเพิ่มเติมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 และประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ต่อคน การเว้นระยะห่างระหว่างคน และการกำหนดจุดตรวจคัดกรองพร้อมแอลกอฮอล์เจล เช่น สถานที่และการรับสมัคร การกำหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง การรับมอบวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง การออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง การนับคะแนน และการส่งหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง เป็นต้น ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวข้างต้นไว้พร้อมแล้ว 

โฆษก รบ. ขอฝ่ายค้าน กลับมาใช้กลไกสภาฯ ถ่วงดุลแทนผสมโรงม็อบบนถนน 

ขณะที่เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า การเมืองปี 2565 ฝ่ายค้านจะทำงานในสภาฯ เข้มข้นขึ้นว่า รู้สึกยินดีที่ฝ่ายค้านจะกลับมาทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลในสภาฯ ให้มากขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาฝ่ายค้านออกแนวผสมโรงกับม็อบบนท้องถนนเสียส่วนใหญ่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรือแม้กระทั่งการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ก็ตาม

ส่วนกรณีที่สุทินระบุว่า ขณะนี้มีสัญญาณบ่งบอกว่ารัฐบาลกำลังบริหารจัดการงบประมาณไปในทิศทางเพื่อการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งดูได้จากการออกโปรโมชั่นเยอะมากนั้น ธนกร กล่าวว่า ยืนยันว่าการบริหารจัดการงบประมาณของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น เป็นการตัดสินใจใช้งบประมาณโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นความนิยมของรัฐบาลเหมือนรัฐบาลในอดีต โดยนายกฯ ประกาศชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นอย่างเด็ดขาด ดังนั้น ไม่อยากให้ฝ่ายค้านรีบตีโพยตีพาย เพียงเพราะเห็นนโยบายของรัฐบาลโดนใจประชาชน จึงกลัวว่าคะแนนนิยมของตัวเองจะตกไป