13 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) งานนโยบาย สโมสรนักศึกษา มช. ทำโพลสำรวจความคิดเห็นพี่บัณฑิตรอบ มช. เรื่อง “คุณอยากรับปริญญากับใคร ?” พ่อแม่ เพื่อน แฟน อาจารย์ หรือราชวงศ์ พร้อมทั้งมีการแจกใบปลิวรณรงค์ “ปฏิเสธและหยุดผลิตซ้ำพิธีกรรมศักดินา” ให้แก่ประชาชนที่สนใจ
ทั้งนี้ระหว่างทำกิจกรรมได้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยมาจับตาดูและถ่ายรูปนักศึกษาทั้งหมด พร้อมทั้งมีการขอรับใบปลิวจากนักศึกษาไปตรวจสอบอีกด้วย
สำหรับใบปลิวมีข้อความดังนี้
ปฏิเสธและหยุดผลิตซ้ำพิธีกรรมศักดินา
รับปริญญากับคนที่เรารัก รับปริญญากับคนที่สอนและให้ความรู้เรา รับปริญญากับเพื่อนและมิตรสหาย รับปริญญากับเหล่าคนที่บ่มเพาะเราให้กลายเป็นบัณฑิตอย่างสมภูมิ
ภายในหอประชุมขนาดใหญ่ พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เคร่งขรึมกำลังเริ่มต้นขึ้น เชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์กำลังย่างกรายขึ้นประทับกลางโถงอาคารประหนึ่งพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถ ผู้เข้าร่วมถูกจับแต่งหน้าทำผมและใส่ชุดครุยประจำพิธีกรรม ลูกชาวบ้านตาสีตาสากำลังเปลี่ยนไปสู่สถานะของบัณฑิตผู้ทรงเกียรติ เป็นภาพที่ดูราวคล้ายกับนาคในอุโบสถที่กำลังจะถูกอุปสมบทเป็นบรรพชิต
ความสำคัญของพิธีกรรมนี้ไม่ได้อยู่ที่การแสดงความยินดีกับบัณฑิตที่เรียนจบ แต่กลับอยู่ที่การได้ถ่ายรูปเพียงไม่กี่วินาทีกับเจ้าศักดินาเหล่านั้น ก่อนจะเข้ารับผู้เข้าร่วมต้องรับฟังโอวาทคำสั่งสอนจากผู้สูงศักดิ์ ใบปริญญาที่ใช้แสดงวุฒิความสามารถถูกทำให้เป็นสิ่งประทานจากชนชั้นสูง ประหนึ่งว่าการที่ร่ำเรียนจนจบมาได้นั้นเป็นเพราะคุณูปการของเชื้อพระวงศ์ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมได้บงการร่างกายผู้เข้าร่วมให้แข็งทื่อไร้ความรู้สึก ผู้เข้าร่วมที่ผ่านการซ้อมเดินแถวมาอย่างดีก้าวเดินต่อเนื่องไม่ต่างจากการลำเลียงสิ่งของผ่านสายพาน ผู้สูงศักดิ์กำลังยื่นใบปริญญาไปแปะที่สิ่งของแต่ละชิ้นบนสายพานนั้น ผู้รับถูกห้ามไม่ให้แสดงอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ยิ้ม หรือยินดีใดๆในขณะรับ พื้นหลังของงานบรรเลงเสียงพระสวดมนต์ด้วยภาษาที่แปลไม่ออก พิธีกรรมศักดินาเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งซะกว่าความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา
ผู้ที่มีบุญคุณต่อบัณฑิตอย่างแท้จริงถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมพิธีกรรมนี้ พ่อแม่ อาจารย์ คนรัก ผู้สนับสนุน ถูกบังคับให้รออยู่นอกศาสนสถานหรือหอประชุม นี่เป็นพิธีกรรมส่วนตัวระหว่างเจ้าและบัณฑิตเท่านั้น การเอาผู้มีบุญคุณที่แท้จริงออกไปทำให้บัณฑิตที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอันเข้มขลังรู้สึกอินกับบุญคุณของเจ้าได้มากขึ้น ทั้งหมดนี้จะแทรกซึมไปเป็นความทรงจำที่สำคัญของชีวิต เจ้าจะมีบุญคุณในฐานะผู้มอบปริญญาเสมอ แม้จะไม่รู้ว่าเขามีบุญคุณอย่างไรก็ตาม
การไม่เข้ารับปริญญาเป็นการตัดวงจรศักดินาให้ขาดลง พิธีกรรมที่ถูกทำให้สำคัญได้เผยให้เห็นว่าตัวมันไร้ความสำคัญขนาดไหน และยิ่งขณะที่ปัจจุบันยังมีคนอีกมากในประเทศต้องถูกจองจำอย่างอยุติธรรมด้วยอำนาจดิบเถื่อนของศักดินาจากการที่พวกเขาพยายามออกมาเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยเจตนาอันดี ยังมีเหตุผลใดอีกที่เราจะต้องเข้ารับปริญญาอันเป็นการยอมรับอำนาจศักดินาอย่างย้อนแย้งโดยไม่เห็นหัวเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเผชิญกับความอยุติธรรม ผู้ที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดในงานรับปริญญาคือบัณฑิตและผู้ที่คอยสนับสนุนบัณฑิตเหล่านั้น หาใช่ผู้สูงศักดิ์หรือผู้ทรงอิทธิพลในสังคมคนใดไม่ งานรับปริญญาคืองานที่ทรงคุณค่าในตัวเองโดยไม่ต้องถูกวัฒนธรรมศักดินามาครอบงำให้ศักดิ์สิทธิ์ งานรับปริญญาปีนี้ รับปริญญาจากคนที่คุณรัก หยุดผลิตซ้ำวัฒนธรรมศักดินา
ก่อนหน้านี้งานนโยบาย สโมสรนักศึกษา มช. ประกาศแสดงจุดยืนผ่าน Facebook เพจ “งานนโยบาย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ CMU Student Union's Policy Team” ว่าจะไม่ส่งตัวแทนร่วมรับเสด็จในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครั้งที่ 55 ในวันศุกร์ที่ 14 ม.ค.ที่จะถึงนี้ นี้ โดยระบุว่า 1.เป็นการสนับสนุนระบบศักดินา 2.เป็นรูปแบบหนึ่งของการกดขี่ให้คนไม่เท่ากัน
สำหรับประเด็นการรณรงค์ไม่รับปริญญานั้น 2 ปีที่ผ่านมามีการพูดถึงกันมากขึ้น โดย 31 ต.ค. 63 กลุ่มบัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฎร ซึ่งเป็นกลุ่มเฉพาะกิจรณรงค์งดเข้าหอประชุม ไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ท่ามกลางการตรวจเข้มของตำรวจทั้งตรวจบัตรประชาชนและขวางบัณฑิตที่รณรงค์ไม่ได้ซ้อมรับปริญญาเข้ามหาวิทยาลัย
กลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ปรากฏบัณฑิตและนักศึกษากลุ่มหนึ่งจัดกิจกรรมด้วยการชูป้าย "ยกเลิก112" และ "ปล่อยเพื่อนเรา" ในงานรับปริญญา ของ มข. รวมทั้งเผาชุดครุยเชิงสัญลักษณ์เนื่องจากเขามองว่าเป็นชุดที่รัฐสร้างขึ้นเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ และประกาศว่าการจบปริญญาต้องเป็นบัณฑิตของประชาชนนั้น แต่ต่อมายังถูกเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาดังกล่าวโดยมิชอบ และนำไปล่าเเม่มดด้วย
ประมวลภาพบรรยากาศ :
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)