12 เคล็ดลับสร้างข่าวสืบสวนสอบสวนให้เข้าถึงคนและสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในสังคม

ผู้บริหารของสำนักข่าว Daily Maverick เผย 12 เคล็ดลับที่ช่วยทำให้ข่าวสืบสวนสอบสวนสามารถเข้าถึงคนและสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในสังคม จากบทเรียนการทำข่าวเปิดโปงการทุจริตของ 'จูเลียส มาเลมา' หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 3 ของแอฟริกาใต้ที่ยักยอกเงินจากธนาคารชุมชนมาปรนเปรอความสุขของตัวเองด้วยการซื้อของใช้หรูหราฟุ่มเฟือย

วิดีโอความยาว 6 นาทีที่ออกแบบให้มีเลเยอร์ซ้อนกันเป็นชั้นๆ แสดงให้เห็นถึงขนาดและตำแหน่งของการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยชิ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์กระจายข่าวการคอร์รัปชันอย่างมีนวัตกรรมของสำนักข่าว Daily Maverick (ที่มา: สกรีนช็อต)
 

นักข่าวของ Daily Maverick สำนักข่าวในประเทศแอฟริกาใต้ตัดสินใจไม่ปล่อยข่าวการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ในปี 2019 แม้จะทราบดีว่าพวกเขามีสกู๊ปข่าวใหญ่อยู่ในมือ หลังจากนั้น ผลกระทบของข่าวนั้นก็หายไปหลังจากครบ 24 ชั่วโมงของวัฏจักรข่าว

แทนที่จะปล่อยข่าวอย่างรวดเร็ว สำนักข่าว Daily Maverick วางแผนการตลาด มัลติมีเดีย และแคมเปญเชิงข่าวที่รายล้อมสกู๊ปข่าวดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการสัมภาษณ์ทางวิทยุและโทรทัศน์ การโปรโมตโพสต์บนทวิตเตอร์ การสร้างวิดีโอภาพเคลื่อนไหวโดยใช้กูเกิลเอิร์ธสตูดิโอ (Google Earth Studio) และการเปิดตัวข่าวสืบสวนสอบสวนชิ้นนี้กับผู้สมัครเป็นสมาชิกของจดหมายข่าวก่อนที่จะนำเสนอข่าวสู่สายตาชาวโลก

“สิ่งที่เราทำต่างออกไปตรงนี้คือเราใช้เวลาวางแผน เพื่อให้มั่นใจว่าการตลาดโดยรอบของบทความนี้จะรับประกันว่าข่าวชิ้นนี้จะมีอายุยืนยาวบนแผงข่าว” – สไตลี ชาราแลมบูส์ จากสำนักข่าว Daily Maverick

ข่าวการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่ว่าคือการเปิดโปงผู้นำพรรคการเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศแอฟริกาใต้ว่าใช้เงินที่ยักยอกมาจากธนาคารชุมชนไปซื้อสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย สไตลี ชาราแลมบูส์ (Styli Charalambous) ประธานกรรมการบริหาร (CEO) ของสำนักข่าว Daily Maverick บอกว่าเรื่องราวหลักของข่าวชิ้นนี้ไม่เพียงแค่ดึงดูดผู้เยี่ยมชมกลุ่มใหม่และเพิ่มยอดการเข้าเยี่ยมชมเพจกว่าหลายแสนครั้ง แต่ข่าวดังกล่าวยังก่อให้เกิดข่าวชิ้นอื่นๆ ตามมาอีกหลายสิบข่าว ซึ่งสร้างยอดการเข้าชมส่วนใหญ่ไปอีก 1 เดือนเต็ม และถูกใช้เพื่อเพิ่มยอดการสมัครสมาชิกโดยตรงด้วย

*หมายเหตุจากผู้แปล: ข่าวดังกล่าวเกี่ยวข้องกับจูเลียส มาเลมา (Julius Malema) นักการเมืองแอฟริกาใต้ที่มีประวัติอื้อฉาวเรื่องการใช้จ่ายและการฟอกเงิน

ในงานเสวนาผ่านเว็บไซต์เกี่ยวกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้รับข่าวสารที่จัดโดยเครือข่ายข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนสากล (Global Investigative Journalism Network: GIJN) และกองทุนการลงทุนเพื่อการพัฒนาสื่อ (Media Development Investment Fund) ชาราแลมบูส์ ร่วมกับยาสมิน นามีนี (Yasmin Namini) ที่ปรึกษาสื่อดิจิทัลของ GIJN และโรสซาลิน วอร์เรน (Rossalyn Warren) ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารดิจิทัลของ GIJN ได้แบ่งปันเคล็ดลับและทรัพยากรเกี่ยวกับวิธีสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้รับข่าวสารด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากข่าวให้สูงที่สุด

“หนึ่งในความกังวลใจของการทำงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนทุกวันนี้อาจเป็นการใช้เวลาหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือหลายปีไปกับการทำเรื่องสำคัญ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก หรือไม่เห็นผลกระทบที่ตามมาเท่าไรนัก” เอมิลี โกลีกอสกี (Emily Goligoski) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยกลุ่มผู้ฟังของนิตยสารข่าว The Atlantic กล่าวขณะเป็นพิธีกรให้กับงานเสวนา

นามินีสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาความกังวลใจดังกล่าวอย่างเป็นระด้วยความจริงที่รู้กันดีอยู่แล้ว โดยอ้างอิงถึงคำพูดของโจนาธาน เพเรลแมน (Jonathan Perelman) สมัยที่ยังทำงานอยู่ที่สำนักข่าว BuzzFeed ว่า “เนื้อหาคือราชา แต่การเผยแพร่คือราชินี และเธอเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจมากกว่า”

ก่อนหน้านี้ นามีนีเคยเป็นผู้ออกแบบธุรกิจการสร้างรายได้จากผู้บริโภคในแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับหนังสือพิมพ์ The New York Times เธอบอกว่าจดหมายข่าวที่น่าดึงดูดและใช้งานง่ายจะทำให้ผู้อ่านกลับมาเปิดเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้คือหัวใจของยุทธศาสตร์การสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รับข่าวสาร

“ยิ่งผู้อ่านของคุณมีปฏิสัมพันธ์[กับข่าว]มากขึ้น ปฏิสัมพันธ์เหล่านั้นก็จะยิ่งสอดคล้องอย่างมากกับยอดการสมัครสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ยิ่งมีสมาชิกมากขึ้น ก็ยิ่งมียอดบริจาคสูงขึ้น [การใช้เทคนิคนี้]ไม่เพียงแค่เปิดโอกาสให้คนรู้สึกคุ้นเคยกับการรับจดหมายข่าว แต่ยังทำให้คนคุ้นเคยกับการคลิกอ่านข่าวและมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาของคุณอย่างสม่ำเสมอด้วย อย่างไรก็ดี ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว การคิดว่าจดหมายของคุณกำลังจะทำอะไรเป็นสิ่งสำคัญกว่าการออกไปลงมือทำเพียงอย่างเดียว” นามีนีกล่าว

“จงคิดทุกวันว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมข่าวของเราทำมากขึ้นอีกแค่ 1 อย่าง เช่น คลิกเพิ่มอีก 1 หน้า หรืออ่านข่าวเพิ่มอีก 1 เรื่อง” ยาสมิน นามีนี ผู้ให้คำปรึกษาด้านสื่อดิจิทัล 

อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับที่สำคัญกว่าของนามีนีคือปฏิสัมพันธ์ของผู้รับข่าวสารควรเป็นส่วนหนึ่งในงานของทุกคนในองค์กรข่าว ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ผู้ออกแบบเว็บไซต์ บรรณาธิการต้นฉบับ หรือวิศวกรซอฟต์แวร์

“ไม่ว่าคุณจะมีบทบาทใด จงคิดทุกวันว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมของเราทำมากขึ้นอีกแค่ 1 อย่าง เช่น คลิกเพิ่มอีก 1 หน้า อ่านข่าวเพิ่มอีก 1 เรื่อง หรือฟังพอดแคสต์เพิ่มขึ้นอีก 1 ครั้ง” นามีนีกล่าว ก่อนจะเสริมว่า “ถ้าคุณเป็นวิศวกร คุณอาจถามว่า ‘เอาล่ะ ฉันทำอะไรได้บ้างเพื่อทำยุทธศาสตร์ +1 นี้’ ซึ่งคำตอบหนึ่งที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วคือเวลาในการโหลดหน้าเว็บเพจ เพราะถ้าเว็บเพจของคุณโหลดช้าบนสมาร์ทโฟน คนอ่านก็จะกระโดดหนีไป”

กลยุทธ์สำหรับยุทธศาสตร์ “+1” เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง (ที่มา: ขอบคุณภาพจากยาสมิน นามีนี)

 

แนวปฏิบัติที่ดีสำหรับยุทธศาสตร์ปฏิสัมพันธ์ “+1”

  • จดหมายข่าว
  • แจ้งเตือนข่าว
  • บันทึกและแชร์บทความ
  • ลงทะเบียนจดหมายข่าวและอีเมล
  • การออกแบบให้สามารถค้นหาบทความได้ง่าย
  • แนะนำข่าว
  • ลิงก์ภายในบทความ
  • การตอบรับจากผู้อ่าน
  • สร้างชุมชนและอีเวนต์เสมือนจริง

เคล็ดลับอื่นๆ ของนามีนี ได้แก่

  • วัดระดับการปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มผู้รับข่าวสาร วัดการปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มผู้รับข่าวสารของคุณโดยดูจากความเป็นปัจจุบัน ความถี่ และปริมาณการเยี่ยมชมเว็บไซต์ “แต่ถ้าคุณไม่สามารถวัดทั้ง 3 อย่างได้ ก็ให้เลือก 1 อย่างที่คุณสามารถวัดได้” นามีนีกล่าว “ปกติแล้ว ที่เลือกวัดกันคือปริมาณ แล้วค่อยๆ พยายามพัฒนาขึ้นไปทีละขั้นเมื่อเวลาผ่านไป”
  • เพิ่มความแหลมคมให้กับจดหมายข่าว พัฒนายุทธศาสตร์จดหมายข่าวและการออกแบบของคุณด้วยการสมัครใช้คู่มือ “ไม่ใช่จดหมายข่าว” โดยแดน โอชินสกี (Dan Oshinsky) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายจดหมายข่าวของสำนักข่าว The New Yorker และ Buzzfeed “ทรัพยากรอีกอันที่ยอดเยี่ยมมากคือ newsletterguide.org มีทรัพยากรชั้นเยี่ยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแม่แบบจดหมายข่าวโอเพนซอร์สที่ทำให้คุณสามารถเริ่มส่งจดหมายข่าวได้ง่ายมากๆ ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่มทำ” เธอกล่าว  
  • ใช้ยุทธศาสตร์บวกหนึ่ง ยุทธศาสตร์การปฏิสัมพันธ์ “บวกหนึ่ง” ที่ถูกออกแบมาให้ผู้อ่านแต่ละคนทำอะไรเพิ่มอีกหนึ่งอย่างบนเว็บไซต์ อาจรวมถึงจดหมายข่าวที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เช่น การแจ้งเตือนข่าวด่วน โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนใหม่ๆ ตลอดจนกระบวนสมัครจดหมายข่าวที่ใช้งานง่าย กล่องลิสต์รายการ และช่องทางรับฟังความเห็นสำหรับผู้อ่าน และการเพิ่มลิงก์บทความเก่าเข้าไปในบทความปัจจุบัน
  • อย่าแบ่งปันลิสต์อีเมลของคุณให้คนอื่น อย่าทำลายความเชื่อใจด้วยการแบ่งปันหรือเปิดเผยลิสต์อีเมลจดหมายข่าวของคุณใหกับบุคคลที่สาม “ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ได้มาอย่างยากลำบาก และสูญเสียไปได้อย่างง่ายดาย” เธอกล่าว “มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่เมื่อเราขอให้ประชาชนสมัครจดหมายข่าวของเรา เราจะต้องไม่ขายลิสต์หรือใช้ลิสต์นั้นในทางที่ไม่ได้เจตนา
  • การทดลอง ทดลองไอเดียและทางเลือกต่างๆ เพื่อการปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น “เมื่อคุณมีไอเดียหรือความคิดบางอย่างที่อาจพัฒนายอดการมีปฏิสัมพันธ์ได้ ลองนึกถึงมันว่าเป็นสมมติฐานและนำมาวางไว้ในรูปแบบนี้ คือ เพราะเราเฝ้าดู A อยู่ การเปลี่ยน B จะส่งผลต่อ C และเราคาดว่าจะเกิดผลลัพธ์ D ขึ้น” เธอกล่าว “เริ่มจากการทดสอบง่ายๆ อย่าง ‘พาดหัวข่าวแบบไหนที่เพิ่มยอดการเข้าชม’ คุณอาจจะทดสอบชื่อหัวเรื่องในจดหมายข่าวและอีเมลของคุณได้ นอกจากนี้ วันของสัปดาห์และช่วงเวลาของวันที่คุณส่งจดหมายข่าวสร้างความแตกต่างอย่างมาก” นามีนีกล่าวอีกว่าแม้แต่สี การจัดวาง และการใช้คำสำหรับปุ่ม “เรียกร้องให้ดำเนินการ” หรือปุ่ม “คลิกที่นี่เพื่อบริจาคหรือสมัครสมาชิก” รูปแบบต่างๆ  ก็สร้างความแตกต่างได้และสามารถทดลองได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน
  • ใช้การทดสอบ A/B เริ่มการทดสอบ A/B ด้วยเครื่องมือโอเพนซอร์สแบบฟรีเช่น Google Analytics และ Google Optimize สำหรับการทดสอบ A/B ขั้นสูง รวมถึงการทดสอบพาดหัวข่าวแบบเรียลไทม์ หรือลองพิจารณาเครื่องมือที่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ เช่น Chartbeat
ที่มา: สกรีนช็อต
 

กฎ 5 ข้อเพื่อการสร้างอีเมลให้ผู้อ่านของคุณรัก
โดย แดน โอชินสกี - “กูรู” ด้านอีเมลและจดหมายข่าว

  • กฎข้อที่ 1 เนื้อหาคือราชา แต่การเผยแพร่คือราชินี (และเธอเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจมากกว่า)
  • กฎข้อที่ 2 สร้างนิสัยและกิจวัตร
  • กฎข้อที่ 3 เริ่มจากพื้นฐาน
    - อัตลักษณ์
    - บริการ
    - อรรถประโยชน์
    - บุคลิกภาพ
  • กฎข้อที่ 4 ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ได้มาอย่างยากลำบาก และสูญเสียไปได้อย่างง่ายดาย
  • กฎข้อที่ 5 ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว

ชาราแลมบูส์บอกว่าข่าวการคอร์รัปชันที่สำนักข่าว Daily Maverick นำเสนอนั้น ทำให้เกิดหนึ่งในเดือนที่ดีที่สุดขององค์กรในด้านการเปลี่ยนผู้อ่านและผู้บริจาคให้กลายมาเป็นสมาชิก

“สิ่งที่เราทำต่างออกไปตรงนี้คือเราใช้เวลาวางแผน” เขากล่าว “วางแผนว่าเราจะทำให้งานนี้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าการตลาดโดยรอบของบทความนี้จะรับประกันข่าวชิ้นนี้จะมีอายุยืนยาวบนแผงข่าว และจะเป็นข่าวใหญ่ในวัฏจักรข่าวมากกว่า 1 วัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต” เขากล่าว

“โปรพับบลิกา (ProPublica) ทำได้ดีมากในการโพสต์ทวิตเตอร์เกี่ยวกับงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน และแชร์ข่าวบนช่องทางที่แตกต่างกัน” – สไตลี ชาราแลมบูส์ จากสำนักข่าว Daily Maverick

ชาราแลมบูส์กล่าวว่าสำนักข่าว Daily Maverick กำหนดเป้าหมายรองลงมาเพื่อเสริมเป้าหมายหลัก ซึ่งจะเพิ่มผลกระทบจากข่าวทำนองนี้ให้ได้มากที่สุด เขานิยามว่านี่คือ “การปกป้องความจริงและความรับผิดชอบ” เป้าหมายเพิ่มเติมเหล่านี้เป็นเรื่องการใช้ข่าวเพื่อสร้างชื่อเสียงทางธุรกิจ (Brand Awareness) ทำให้ชื่อของสำนักข่าวเป็นที่รู้จักในบรรดาผู้รับข่าวสารกลุ่มใหม่ๆ การเพิ่มยอดสมาชิก เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ฟัง และการส่งข่าวด้วยวิธีการต่างๆ

ยุทธศาสตร์ของสำนักข่าว Daily Maverick สำหรับการทำการตลาดให้กับข่าว ได้แก่

  • ส่งข่าวให้กับผู้สมัครสมาชิกทุกคน พวกเขาส่งข่าวฉบับสมบูรณ์ให้กับผู้สมัครเป็นสมาชิกจดหมายข่าวทั้งหมด โดยเป็นแจ้งเตือนที่พวกเขาเรียกว่า “สกู๊ปแมงป่อง” ประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะเผยแพร่ในโลกออนไลน์ “การทำแบบนี้ช่วยให้เกิดความสนใจเกี่ยวกับข่าวเพิ่มขึ้น รวมถึงนักข่าวและสื่อ (ภายนอก) ก็อยู่ในลิสต์ดังกล่าวด้วย” เขาระบุ “และยังถือเป็นการเอาใจฐานผู้อ่านจดหมายข่าวนิดหน่อยด้วย เพราะพวกเขาได้รับเนื้อหาก่อนคนอื่นๆ”
  • ตั้งแคมเปญรณรงค์ที่พุ่งเป้าไปยังสื่อกระแสหลัก สำนักข่าว Daily Maverick วางแผนการประชาสัมพันธ์แบบกำหนดเป้าหมาย รวมถึงเตรียมการสัมภาษณ์ทางวิทยุและโทรทัศน์ให้กับผู้สื่อข่าวพอลี วาน วิค (Pauli van Wyk) ด้วย
  • เรียกกระแสข่าวในทวิตเตอร์ “ตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่งเลยก็คือโปรพับบลิกา (ProPublica) ทำได้ดีมากในการโพสต์ทวิตเตอร์เกี่ยวกับงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน และแชร์ข่าวบนช่องทางที่แตกต่างกันๆ” ชาราแลมบูส์กล่าวเสริม
  • ใช้ SEO สำหรับการค้นหาและโซเชียลมีเดีย ”พวกเขาใช้พาดหัวข่าวที่ได้รับการปรับแต่งจากโปรแกรมค้นหา หรือที่เรียกว่า SEO (Search Engine Optimization) อย่างระมัดระวัง เพื่อช่วยให้คนเจอข่าวได้ง่ายขึ้นจากช่องค้นหาและในโซเชียลมีเดีย”พวกเขาหลายคนใช้ WordPress และปลั๊กอินต่างๆ เช่น Yoast เพื่อเพิ่มประโยชน์จาก SEO ให้ได้มากที่สุด เพราะบ่อยครั้งพาดหัวที่ใช้กับข่าวอาจไม่พอดีกับวิดเจ็ตหรือพื้นที่ที่มีในส่วนพรีวิวต่างๆ
  • ตามเรื่องต่อหลังจากเผยแพร่ข่าว ทีมวางแผนที่จะทำข่าวติดตามผลและบทความคิดเห็นทั้งหมด 11 ชิ้นบนเว็บไซต์ในเดือนถัดไป
  • ใช้กูเกิลเอิร์ธสตูดิโอ บริการนี้ทำให้สามารถผลิตภาพเคลื่อนไหวจากดาวเทียมได้ “นั่นเป็นครั้งแรกที่เราทดลองใช้กูเกิลเอิร์ธสตูดิโอ และเพิ่มมิติที่รุ่มรวยอย่างมากเข้าไปในข่าว” เขาอธิบาย

ในบทวิเคราะห์ชิ้นหนึ่งที่น่าตกใจ ทีมข่าวพบว่าข่าวหลายสิบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวกลายเป็นปัจจัยที่สร้างยอดการปฏิสัมพันธ์ส่วนใหญ่ของกลุ่มผู้รับข่าวสารทั้ง 3 ส่วนเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนเต็ม โดยเฉพาะในกลุ่มที่มี “การปฏิสัมพันธ์สูงสุด” ซึ่งเป็นตัวแทนของข่าว 12 เรื่องจาก 16 เรื่องที่มีการอ่านมากที่สุดบนเว็บไซต์ ทั้งหมดนี้อยู่ในหนังสือพิมพ์ออนไลน์รายวันที่รายงานข่าวทั่วไป ข่าวพิเศษ บทความคิดเห็น และข่าวกีฬา

ระดับปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของสำนักข่าว Daily Maverick แสดงให้เห็นว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนการคอร์รัปชันที่พวกเขาทำการตลาดไว้ ซึ่งเน้นอยู่ในกรอบสีแดง เป็นยอดการเข้าชมส่วนใหญ่ของเว็บไซต์ในกลุ่มผู้รับข่าวสารทั้ง 3 ส่วนตลอดทั้งเดือนหลังจากการเผยแพร่ข่าว โดยเฉพาะในกลุ่ม “ผู้รักแบรนด์” ที่มีการปฏิสัมพันธ์สูงสุด (ที่มา: ขอบคุณภาพจาก Daily Maverick)
 

ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โรสซาลิน วอร์เรน จาก GIJN ชี้ไปยังเอกสารแนะนำที่เธอเขียนขึ้นมาอย่างละเอียดเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากโซเชียลมีเดียในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้รับข่าวสารก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม 2021

เธอมอบคำเตือนพิเศษให้แก่องค์กรสื่อต่างๆ ที่มักกระโจนเข้าหาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่เข้ามา

“ในแง่ของแพลตฟอร์ม คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ทุกที่และแผ่ตัวออกไปจนทำให้ตัวคุณเองบางลง” เธอกล่าว “อย่าวิ่งตามแพลตฟอร์ม คุณไม่จำต้องวิ่งไล่ตามของเล่นใหม่แวววาว บางทีอาจเป็นไปได้ว่าแค่การมีช่องเทเลแกรมและเว็บไซต์ก็เพียงพอแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหนในโลก” เคล็ดลับสำคัญของเธอคือ “ขั้นตอนแรกเป็นการหาคำตอบว่ากลุ่มผู้รับข่าวสารของคุณคือใครและพวกเขาอยู่ที่ไหนในโลกออนไลน์”

เธอกล่าวว่า จาก “เสียงอึกทึก” และปริมาณของเนื้อหาในอินเทอร์เน็ตทั้งหมด สำนักข่าวจำเป็นต้องตื่นตัวในการหาวิธีเข้าถึงปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มผู้รับข่าวสาร รวมถึงต้องคิดอย่างระมัดระวังและสร้างสรรค์เกี่ยวกับพาดหัวข่าว ภาพขนาดย่อ (thumbnail) และข้อความแชร์ของการเผยแพร่ข่าวในโซเชียลมีเดีย

“ฉันชอบนึกถึงการเปิดตัวข่าวใหม่ราวกับว่ามันเป็นการเปิดตัวหนังสือ คิดเชิงยุทธศาสตร์ว่าทำอย่างไรจึงจะเผยแพร่งานของคุณได้ดีที่สุด”  – โรสซาลิน วอร์เรน จาก GIJN

ตัวอย่างเช่น วอร์เรนเตือนองค์กรต่างๆ ให้หลีกเลี่ยงการใช้พาดหัวซ้ำในโพสต์ที่เป็นข้อความแชร์ “มันเปลืองพื้นที่ คุณมีโอกาสเพิ่มบริบทหรือข้อมูลในข้อความแชร์ ทำไมถึงเขียนพาดหัวซ้ำ” เธอกล่าว

วอร์เรนกล่าวว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์คือการคิดว่าแพลตฟอร์มเป็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยสิ่งที่แพลตฟอร์มมอบให้ ได้แก่ การสื่อสารทางเดียว เช่น จดหมายข่าวหรือการถ่ายทอดผ่าน WhatsApp แพลตฟอร์มการสนทนาทางเดียวกับความเห็นของผู้ฟัง เช่น Youtube หรือการสนทนาสองทางบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น ไลฟ์สดบนอินสตาแกรม ซึ่งจำเป็นต้องมีสมาชิกพนักงานตอบสนองอย่างรวดเร็ว

“ฉันชอบนึกถึงการเปิดตัวข่าวใหม่ราวกับว่ามันเป็นการเปิดตัวหนังสือ ใช้ความพยายามกับการเปิดตัวแต่ละครั้งและคิดเชิงยุทธศาสตร์ว่าทำอย่างไรจึงจะเผยแพร่งานของคุณได้ดีที่สุด” เธอกล่าว

วอร์เรนยังสนับสนุนให้มองแพลตฟอร์มจากสิ่งที่มันสามารถทำได้จริง มากกว่าที่จะมองสิ่งที่ทำให้มันเป็นที่รู้จักด้วย

“แค่เพียงเพราะทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการแชร์ลิงก์ทีละมากๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณใช้ทวิตเตอร์เป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องไม่ได้ หรือตัวอย่างเช่น เพียงแค่เพราะอินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มที่เล่นกับการมองเห็น ไม่ได้หมายความว่าคุณใช้มันเพื่อเล่นกับเสียงไม่ได้ ที่จริงแล้วมันมีประสิทธิภาพมากสำหรับการลงคลิปเสียง กล่าวโดยสรุปคือคุณจะทำอย่างไรให้มั่นใจว่างานของคุณจะทำให้คนหยุดดู ไม่เลื่อนหน้าจอผ่านไป เราพูดล้อเล่นกันเสมอว่า ‘คนเราอ่านแต่พาดหัว’ เอาล่ะ บางทีนั่นก็เป็นประเด็น และพาดหัวก็เป็นส่วนที่สำคัญต่อวิธีการบริโภคข้อมูลของคนในยุคสมัยใหม่” เธอกล่าว

ที่มา:

โรแวน ฟิลป์ (Rowan Philp) เป็นนักข่าวของ GIJN และเป็นอดีตหัวหน้านักข่าวให้กับสำนักข่าวซันเดย์ไทมส์ของประเทศแอฟริกาใต้ ในฐานะผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เขาเคยรายงานเกี่ยวกับข่าว การเมือง การทุจริต และความขัดแย้งจากประเทศต่างๆ เกือบ 30 ประเทศทั่วโลก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท