Skip to main content
sharethis

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เร่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงยี่ห้อและแหล่งผลิตไส้กรอกพิษ เพื่อเป็นข้อมูลเลือกซื้อสินค้าให้ปลอดภัย หลัง อย.จับกุม 2 โรงงานผลิตไส้กรอกไม่ได้มาตรฐาน จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 3-4 ก.พ. 65 แต่ยังไม่เปิดเผยกับผู้บริโภค หวั่นสร้างผลกระทบวงกว้าง

 

10 ก.พ. 65 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานวันนี้ (10 ก.พ.) ระบุ จากข่าวพบไส้กรอกผลิตไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เด็กที่รับประทานเข้าไปได้รับอันตรายต่อร่างกาย ดังที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อปลาย ม.ค. 65 และก่อนหน้านี้ กองระบาดวิทยา แจ้งว่าผู้ป่วยที่ จ.เชียงใหม่ กินไส้กรอกไก่ที่มีแหล่งผลิตจากอยุธยา ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 65 มอญนิวส์เอเยนซี (Mon News Agency) สื่อท้องถิ่นในรัฐมอญ ประเทศเมียนมา รายงานว่า เด็กในเมืองพญาตองซู เขตเมืองจ่ออินเซกจี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ถูกนำส่งโรงพยาบาลรวมทั้งหมด 16 ราย เสียชีวิต 1 ราย หลังกินไส้กรอกที่ผลิตในประเทศไทย บนถุงไส้กรอกมีฉลากเป็นภาษาไทย ระบุแหล่งผลิตที่ จ.ชลบุรี ประเทศไทย

อีกทั้งผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 65 เภสัชกร เทพศักดิ์ อังคณาวิศัลย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (รอง.นพ.สสจ.พระนครศรีอยุธยา) พร้อมด้วย หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ สาธารณสุขอำเภอบางปะอิน เจ้าหน้าที่เทศบาลพระอินทร์ราชา เจ้าหน้าที่เทศบาลเชียงรากน้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ร่วมกันลงตรวจสอบสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหาร ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ได้แก่ ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ แหนม ผลิตโดย บริษัท พีเอเอ็น ฟู๊ด มาเก็ตติ่ง จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการผลิตและจำหน่ายอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.อาหาร ได้ทำการตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ และ อายัดสถานที่ผลิตอาหาร ได้แก่ เครื่องจักร 10 รายการ และของกลาง ได้แก่ ไส้กรอก หมูยอ และลูกชิ้น รวมจำนวน 1,352 กิโลกรัม (กก.) รวมมูลค่า 806,080 บาท สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์/กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ต่อมา ในวันที่ 4 ก.พ. 65 ยังมีรายงานแจ้งถึงการจับโรงงานไส้กรอกไก่ที่มีแหล่งผลิตจากอยุธยาอีกแห่ง หลังพบว่าผู้ป่วยรายหนึ่งจากจังหวัดเชียงใหม่ กินไส้กรอกจากแหล่งผลิตดังกล่าวว่า นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ภก. เทพศักดิ์ อังคณาวิศัลย์ รอง.นพ.สสจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ เภสัชกรกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคฯ สาธารณสุขอำเภอบางปะอิน เจ้าหน้าที่เทศบาลเชียงรากน้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ร่วมกันลงตรวจสอบสถานที่ผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ได้แก่ ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ ณ บ้านเลขที่ 59/2 หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต และแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.อาหาร ได้ทำการตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ จำนวน 3 รายการ และอายัดสถานที่ผลิตอาหาร ได้แก่ เครื่องจักร 24 รายการ รวม 439 แรงม้า และของกลาง ได้แก่ ไส้กรอก และหมูยอ รวมจำนวน 2090 กก. วัตถุดิบ 23,073 กก. รวมมูลค่า ประมาณ 3.5 ล้านบาท สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ดำเนินการลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว และจะแจ้งความร้องทุกข์/กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ล่าสุด วันนี้ (10 ก.พ. 65) นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาไส้กรอกที่ไม่มีคุณภาพจากโรงงานผลิตไม่ได้มาตรฐาน หากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการตรวจสอบแล้ว อยากให้ อย.ในฐานะหน่วยงานกำกับและดูแลในเรื่องความปลอดภัยของอาหาร ควรออกมาเปิดเผยหรือแถลงข่าวให้เร็วที่สุด ถึงยี่ห้อหรือแหล่งผลิตของไส้กรอกที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากรับทราบข้อมูลว่า อย.เคยลงไปตรวจสอบโรงงาน เมื่อ 3-4 ก.พ. 65 ที่ จ.อยุธยา แล้วพบโรงงานผลิตไส้กรอกไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยหรือแถลงข่าว เนื่องจากปัจจุบันพบผู้เสียชีวิตจากไส้กรอกอันตราย การที่ไม่รีบออกมาแจ้งให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันยิ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมากขึ้น และเป็นการสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เพราะยังไม่มีระบบกวาดสินค้าคืน เวลาที่โรงงานผลิตที่ไม่มีคุณภาพในลักษณะนี้ขายไปแล้ว จะไม่มีข้อมูลของบริษัทที่ขายสินค้าไป ต่างจากการซื้อในระบบบริษัทที่จะมีต้นตอของสินค้าว่าส่งไปให้ที่ใดบ้าง การที่ไม่รู้ว่าไส้กรอกอันตรายถูกขายไปที่ไหนบ้าง ทำให้ผู้บริโภคยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น

การแถลงข่าวของ อย.เรื่องยี่ห้อและแหล่งผลิตของไส้กรอกที่มีอันตรายต่อสุขภาพ เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคมาก ทำให้ประชาชนมีข้อมูลไปตรวจสอบและเลือกซื้อสินค้าที่ปลอดภัยได้ รวมทั้งให้ข้อมูลแม่ค้าพ่อค้าที่ขายไส้กรอกไม่ให้เอายี่ห้อนั้นๆ มาขายให้ลูกค้า แล้วยังสามารถทำให้ผู้บริโภคตระหนักและเฝ้าระวังการซื้อสินค้าได้มากขึ้น โดยให้ อย. เป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้บริโภคที่พบปัญหารายงานสถานที่ขายไส้กรอกที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ ปัญหาผู้ป่วยจากการรับประทานไส้กรอกพบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2550 เกิดเหตุการณ์เด็กนักเรียนที่จังหวัดอยุธยาจำนวนหลายรายเจ็บป่วย เนื่องจากพิษไนไตรท์ ภายหลังจากรับประทานไส้กรอก โดยผู้ป่วยมีอาหารหน้าซีด เหนื่อย ปากซีดเขียว อาเจียน ถ่ายเหลวเป็นน้ำ แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากภาวะเมธฮีโมโกลบินนีเมีย (methemoglobinemia) ภาวะกระแสเลือดมีความเข้มข้นของเมธฮีโมโกลบินมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อและอวัยวะภายเกิดภาวะขาดออกซิเจน จนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อาการที่สงสัย คือ ไส้กรอกจากการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการของสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร พบปริมาณไนไตรท์ 3,137.25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงเกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2547) ถึง 25 เท่า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net