Skip to main content
sharethis

‘ก้าวไกล ระยอง’ เผยวิบากกรรมหลังน้ำมันรั่ว ‘รัฐ-เอกชน’ ไม่ชัดเจนเยียวยา ทำเจรจาล้มเหลว 5 ครั้ง ซ้ำ เร่งผลักดันถมทะเล ‘มาบตาพุด เฟส 3’ ด้านประมงพื้นบ้านค้านเต็มที่ นัดรวมตัวแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์กลางทะเลกว่าร้อยลำ ด้าน 'สตาร์ ปิโตรเลียม' เคาะจ่ายเงินชดเชยแล้ว 36 ราย รายละ 45,000 บาท

1 มี.ค. 2565 เมื่อวานนี้ (28 ก.พ. 2565) ผู้ประกอบการประมงชายฝั่งหรือชาวประมงพื้นบ้านรวมตัวจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความเดือดร้อน หลังเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลอ่าวไทยผ่านมาแล้วนับเดือน โดยที่ภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนในการชดเชยเยียวยาความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและอาชีพของประชาชนในพื้นที่และไม่มีความชัดเจนในการเป็นตัวกลางเพื่อฟ้องร้องหาความรับผิดชอบจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ที่เป็นต้นเหตุของน้ำมันรั่ว แต่กลับจะเดินหน้าเริ่มการทิ้งหินก้อนแรกเพื่อถมทะเลในโครงการนิคมอุตสาหกรรมนิคมมาบตาพุดเฟส 3 ซึ่งกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ครั้งนี้ มีกฤช ศิลปชัย, สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์, ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ และนครชัย ขุนณรงค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดระยอง พรรคก้าวไกล ร่วมสังเกตการณ์และทำหน้าที่ช่วยประสานการเจรจาระหว่างประชาชนในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่รัฐและตัวแทนจาก SPRC

สว่างจิตต์ กล่าวว่า สาเหตุที่พี่น้องประชาชนได้นำเรือออกมาบริเวณพื้นที่ที่จะมีการถมทะเลเฟส 3 มาบตาพุด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการจะเดินทางมาเป็นประธานในการเปิดการก่อสร้างโครงการดังกล่าว แต่ได้ถูกยกเลิกการเดินทาง มาเป็นทำพิธีเปิดทางออนไลน์แทน จึงรวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชาวประมงจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากการถมทะเลที่จะทำให้สัตว์ทะเลในพื้นที่ทะเลระยองลดลงอย่างมาก เพราะจะมีผลกระทบให้ไม่สามารถขายอาหารทะเลจาก จ.ระยอง สู่จังหวัดอื่นได้ ส่วนการเคลื่อนไหวอีกจกหนึ่งคือการรวมตัวของพี่น้องชาวประมงและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วบริเวณหน้าโรงงาน SPRC เพื่อขอความชัดเจนในการช่วยเหลือ หลังจากที่การเจรจาล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง

 

ด้าน ชุติพงศ์ กล่าวว่า ตนออกเรือไปสังเกตการณ์พร้อมกับพี่น้องชาวประมงในทะเลที่มาทำกิจกรรมดังกล่าว จากการพูดคุยทำให้ทราบว่าตลอดเดือนที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์น้ำมันรั่ว มีเพียงการเสนอชดเชยเยียวยาจากทาง SPRC ต่อผู้ประกอบการในพื้นที่และชาวประมงเป็นเงินชดเชยเบื้องต้น ไม่มีเงื่อนไขรายละเอียดจำนวน 30,000 บาทเพียงก้อนเดียว ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะอยู่ดีๆ ก็ออกไปประกอบอาชีพไม่ได้ โดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ชาวประมงและผู้ประกอบกิจการร้านค้าเสียหายเป็นรายได้ที่สูงกว่านั้นมาก จึงเสนอให้ทางบริษัททบทวนมาตรการเยียวยามาหลายครั้ง จนถึงเมื่อวาน (28 ก.พ. 2565) เป็นการเจรจาครั้งที่ 5 แล้ว แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีข้อยุติ ทางบริษัททำเพียงรับเรื่องและบอกว่าจะนำไปพิจารณาเพิ่มงบประมาณในการเยียวยาโดยอิงจากคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทำให้ยังไม่มีการตกลงอย่างชัดเจน

“ในขณะที่ภาครัฐเองแม้พยายามทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจา แต่ก็ไม่สามารถสร้างการยอมรับในหมู่ประชาชนชาวระยองได้ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาหรือฟ้องร้องแต่อย่างใด ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยลำได้นัดกันรวมตัวไปจัดกิจกรรมแสดงพลังรอบอ่าวบริเวณพื้นที่ถมทะเลมาบตาพุดเฟส 3” ชุติพงศ์กล่าว

ชุติพงศ์ กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว บรรดาผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานจังหวัดของพรรคก้าวไกลจึงเกาะติดประเด็นปัญหานี้มาตั้งแต่วันแรกจนถึงเวลานี้เกินหนึ่งเดือนแล้ว สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุด คือ นี่ไม่ใช่เหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งแรกใน จ.ระยอง แต่เหมือนภาครัฐจะไม่เคยเรียนรู้การจัดการดูแลผู้ได้รับผลกระทบเลย ที่ผ่านมา ชาวประมงสะท้อนว่ากว่าทรัพยากรทางทะเลจะฟื้นฟูใช้เวลา 7-8 ปี ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งก่อนเพิ่งได้เริ่มตั้งต้นกันใหม่ก็มารั่วซ้ำอีกครั้ง และก็ยังไม่มีมาตรการของรัฐในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน ทางประชาชนผู้ได้รับผลกระทบยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการในการยกระดับการเรียกร้องไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแน่นอน

SPRC จ่ายเงินเยียวยาให้ชาวประมงรายละ 45,000 บาท

เฟซบุ๊กเพจ "ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ข่าวระยอง" รายงานเพิ่มเติมว่าวันนี้ (1 มี.ค. 2565) เจ้าหน้าที่บริษัท SPRC จ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนและกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านเรือเล็กเกาะเสม็ดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลใน จ.ระยอง โดยมีเสรี เรือนหล้า เจ้าหน้าที่ประมง จ.ระยอง และอนันต์ คำรอด ผู้แทนบริษัท SPRC เป็นสักขีพยาน โดยได้จ่ายเงินเยียวยาให้กลุ่มชาวประมงเกาะเสม็ดดังกล่าว จำนวน 36 ราย รายละ 45,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,620,000 บาท

เสรี กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้มาประสานงานการจ่ายเงินเยียวยาให้กลุ่มประมงเกาะเสม็ด ซึ่งทางบริษัท SPRC ได้รับข้อเสนอของกลุ่มประมง แต่ในขั้นต้นยังจะไม่เหมาะสมหากจะจ่ายเงินชดเชยเพียงรายละ 30,000 บาท จึงเพิ่มวงเงินเยียวยาเบื้องต้นเป็นรายละ 45,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ และชาวประมงทุกกลุ่มยอมรับเงินเยียวยาจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทรับปากว่าจะมีการพูดคุยเยียวยาต่อตามข้อเรียกร้องของกลุ่มประมงที่เสนอขอเยียวยากันก่อนหน้านี้ และจะทยอยจ่ายเยียวยาให้กลุ่มประมงทุกกลุ่มต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net