ผู้ว่าฯ ฟลอริดาลงนามรับรองกม.ห้ามสอนเรื่อง LGBTQ+ ท่ามกลางกระแสต้านหลายทิศ

รอน เดอ ซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกันเซ็นรับรองกฎหมายห้ามพูดถึงผู้มีความหลากหลายทางเพศในการสอนเพศศึกษาในห้องเรียน ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งและผู้ที่ต่อต้านกฎหมายนี้บอกว่ามันจะเป็นอันตรายต่อเด็ก และเป็นการลบเลือนประวัติศาสตร์และลบเลือนตัวตนของนักเรียน LGBTQ+ นอกจากนี้รัฐบาล โจ ไบเดน กับบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ ยังแถลงต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ด้วย

รอน เดอ ซานติส ขณะแถลงหลังลงนามรับรองกฎหมาย "สิทธิของผู้ปกครองในการศึกษา" ภาพจากวิดีโอในทวิตเตอร์ของ Ron DeSantis

หลังจากที่มีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับกฎหมายห้ามสอนเพศศึกษาในห้องเรียนในช่วงเดือน มี.ค. ในที่สุดเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา รอน เดอ ซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกันได้ลงนามรับรองกฎหมายฉบับนี้แล้ว ซึ่งกฎหมายนี้มีชื่อเต็มว่า "สิทธิของผู้ปกครองในการศึกษา"

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าชื่อกฎหมายและเนื้อความดูเหมือนจะเอาใจพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่ก็มีข้อวิจารณ์ในเรื่องผลที่จะเกิดกับการศึกษาและข้อวิจารณ์เรื่องที่ว่าอาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กได้ โดยที่ผู้ต่อต้านกฎหมายนี้เรียกมันว่าเป็นกฎหมาย "ห้ามพูดว่าเกย์" (Don't Say Gay) เมื่อลงนามรับรองแล้วกฎหมายดังกล่าวนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. 2565

กฎหมายใหม่ของฟลอริดาระบุว่า "ไม่อนุญาตให้เขตการศึกษาส่งเสริมการอภิปรายในห้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องเพศวิถีหรือเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศในระดับประถมศึกษา" กลุ่มคนที่สนับสนุนกฎหมายนี้บอกว่ามันจะอนุญาตให้พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะพูดถึงประเด้นเรื่องความหลากหลายทางเพศกับเด็กอย่างไรและให้อำนาจในการฟ้องร้องเอาผิดกับเขตการศึกษาที่ให้ความรู้เด็กในเรื่องความหลากหลายทางเพศ

อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในระดับนานาชาติ โดยระบุว่ามันเป็นการลบเลือนชีวิตของชาว LGBTQ+ ทิ้งไป และทำให้เด็กที่มีความหลากหลายทางเพศอยู่ภายใต้ความเสี่ยง

อามิต พาเลย์ ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหารของ เดอะ เทรเวอร์ โปรเจกต์ ที่เป็นหน่วยงานด้านสุขภาพจิตของ LGBTQ+ และการป้องกันการฆ่าตัวตาย บอกว่า เยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในฟลอริดาควรจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ พวกเขาสมควรได้รับรู้ประวัติศาสตร์ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ รับรู้เกี่ยวกับครอบครัวหรือชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศของพวกเขา และสมควรที่ตัวตนของพวกเขาจะได้รับการสะท้อนในห้องเรียน

เทรเวอร์โปรเจกต์ระบุอ้างอิงจากงานวิจัยว่าเด็กกลุ่ม LGBTQ+ มีความเสี่ยงมากกว่าในเรื่องสุขภาพและการฆ่าตัวตายเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ใช่ LGBTQ+ ถ้าหากเด็กชาว LGBTQ+ สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ยอมรับตัวตนของพวกเขาได้ก็จะสามารถลดระดับการฆ่าตัวตายของเด็กได้ แต่กฎหมายใหม่ในฟลอริดาอาจจะทำให้เด็กไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้ในโรงเรียน จึงกลายเป็นกฎหมายที่ก่ออันตรายต่อเด็ก

เทรเวอร์โปรเจกต์ระบุอีกว่ากฎหมายฉบับนี้จะลบเลือน "ตัวตน, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของ LGBTQ+ และรวมถึงลบเลือนการมีอยู่ของนักเรียน LGBTQ+ เอง"

นอกจากนี้เทรเวอร์โปรเจกต์ยังวิจารณ์กฎหมายในเรื่องการบังคับให้ต้องแจ้งเตือนผู้ปกครองก่อนถ้าหากมีการให้บริการทางสุขภาพหรือการช่วยเหลือเด็กผู้มีความหลากหลายทางเพศในโรงเรียน เรื่องนี้มีโอกาสทำให้เด็กอาจจะถูกตัดความช่วยเหลือหรือบริการสุขภาพได้โดยน้ำมือของผู้ปกครอง

พาเลย์บอกอีกว่า ในขณะที่เขารู้สึกเศร้าใจที่กฎหมายที่เป็นอันตรายต่อเด็กแบบนี้ถูกลงนามออกบังคับใข้ แต่เขาก็รู้สึกมีพลังใจจากการที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ดารา และเพื่อนๆ ของนักเรียนชาว LGBTQ+ แสดงการสนับสนุนชาว LGBTQ+ พาเลย์มองว่าการสนับสนุนทางสังคมเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันการฆ่าตัวตาย และเขาต้องการย้ำเตือนให้เยาวชนชาว LGBTQ+ ในฟลอริดาว่าพวกเขาไม่ได้เดียวดาย

เดอ ซานติสแถลงข่าวก่อนการลงนามอนุมัติกฎหมายกีดกัน LGBTQ+ ฉบับนี้ บอกว่าการสอนให้เด็กระดับชั้นอนุบาลว่า "พวกเขาจะเป็นอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากจะเป็น" นั้น "ไม่เหมาะสม"สำหรับเด็ก

นอกจากนี้เดอ ซานติส ยังวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายต่อต้านกฎหมายนี้ว่าเป็น "พวกดีแต่ใช้คำขวัญ" และอ้างว่าการให้การศึกษาแก่นักเรียนในเรื่องความหลากหลายทางเพศนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ "อุดมการณ์เพศสภาพของพวกตาสว่าง" ซึ่งเป็นคำที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมในสหรัฐฯ มักจะนำมาใช้เป็นชุดคำสำเร็จรูปวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายก้าวหน้าทางสังคม

นอกจากกลุ่ม LGBTQ+ แล้ว ผู้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายนี้คือประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับรัฐบาลภายใต้การนำของเขา ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาไบเดนกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมอยากให้สมาชิกชุมชนชาว LGBTQ+ ทุกคนโดยเฉพาะเด็กๆ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังนี้ได้รับรู้ว่า พวกเขาเป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็น" ไบเดนกล่าวอีกว่า "ผมสนับสนุนพวกคุณ (ชาว LGBTQ+) และรัฐบาลของผมก็จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไปเพื่อให้มีการคุ้มครองและมีความปลอดภัยอย่างที่พวกคุณสมควรได้รับ"

เมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มิเกล คาร์โดนา รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ และ ราเชล เลอวีน ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขที่เป็นหญิงข้ามเพศคนแรกที่ได้รับตำแหน่งในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แถลงผ่านทางการประชุมออนไลน์ว่าพวกเขาให้สัญญาจะช่วยเหลือสนับสนุนเด็ก LGBTQ+ ในฟลอริดาและครอบครัวของเด็กเหล่านี้

คาร์โดนากล่าวว่า "กฎหมายจากทั่วประเทศ เช่นในรัฐฟลอริดา ได้ตั้งเป้าโจมตีและพยายามข่มเหงรังแกกลุ่มนักเรียนที่มีความเสี่ยงถูกละเมิดสิทธิมากที่สุดกลุ่มหนึ่งกับครอบครัวของพวกเขา และสร้างความแตกแยกในโรงเรียนของพวกเรา ... สารของผมที่มีต่อพวกคุณคือรัฐบาลนี้จะไม่ยอมทนต่อการข่มเหงรังแกหรือการกีดกันเลือกปฏิบัติรูปแบบใดก็ตาม และจะใช้อำนาจรัฐบาลของพวกเราในการคุ้มครอง, ส่งเสริม และให้โอกาสแต่นักเรียนที่เป็น LGBTQ+ และนักเรียนทุกคน"

บริษัท วอลต์ดิสนีย์ ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่วิจารณ์ต่อต้านกฎหมายนี้ด้วย โฆษกของดิสนีย์แถลงเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า พวกเขาหวังว่ากฎหมายนี้จะถูกสั่งยกเลิกในชั้นศาลซึ่งพวกเขาสนับสนุนองค์กรต่างๆ ที่จะผลักดันให้มีกระบวนการยกเลิกกฎหมายนี้ โฆษกดิสนีย์ระบุอีกว่ากฎหมาย "ห้ามพูดว่าเกย์" นี้ไม่ควรจะผ่านร่างและไม่ควรจะมีการลงนามรับรองมาตั้งแต่แรกแล้ว

นอกจากนี้ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมายังมีการเล่นมุกตลกล้อเลียนกฎหมายกีดกัน LGBTQ+ ของฟลอริดาฉบับนี้ด้วย

 

เรียบเรียงจาก

Florida's governor signs controversial law opponents dubbed 'Don't Say Gay', NPR, 28-03-2022

Florida governor Ron DeSantis signs reviled ‘Don’t Say Gay’ bill into law surrounded by school kids, Pink News, 28-03-2022

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท