Skip to main content
sharethis

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย (17 เม.ย. 65) ผู้ป่วยใหม่ 17,775 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ ATK 13,617 ราย รักษาหาย 24,545 ราย เสียชีวิต 128 ราย - แผนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกลุ่ม 12-17 ปี เริ่ม พ.ค.นี้

17 เม.ย. 2565 ระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์ "โควิด-19" ประจำวันเบื้องต้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 17 เมษายน 2565 มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 17,775 ราย จำแนกเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศ 17,693 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 82 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,806,524 ราย

สำหรับ จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,079 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 27 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 26.5 ขณะที่ ผู้หายป่วยกลับบ้าน 24,545 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) จำนวน 1,620,029 ราย กำลังรักษา 214,554 ราย และมีผู้เสียชีวิต 128 ราย

แผนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกลุ่ม 12-17 ปี เริ่ม พ.ค.นี้

สำนักข่าวไทย รายงานว่านายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 2/2565 แนะนำให้เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็มแล้ว ให้เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 และต้องมีระยะห่างจากเข็มที่สอง 4-6 เดือนขึ้นไป เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แม้ว่าเด็กที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ ในกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6) ที่มีสุขภาพแข็งแรง เป็นการฉีดเข็มกระตุ้นผ่านระบบการศึกษา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเทอมภาคการศึกษาที่ 1/2565 โดยบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันดี มีผลข้างเคียงน้อยลง และเป็นวัคซีนที่พร้อมใช้งานได้ทันทีไม่ต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีด สามารถเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นานขึ้นเป็น 10 สัปดาห์ หลังเปิดใช้แล้วต้องฉีดให้หมดภายใน 2-6 ชั่วโมง ซึ่งสูตรการฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี จะฉีดคนละ 15 ไมโครกรัมต่อโดส โดยจะเริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มนักเรียนนอกระบบการศึกษา เช่น Home School การจัดการเรียนการสอนที่บ้าน กลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค 1.โรคอ้วน 2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 3.หัวใจและหลอดเลือด 4.ไตวายเรื้อรัง 5.มะเร็งและภูมิคุ้มกันต่ำ 6.เบาหวาน 7.โรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการช้า ให้เข้ารับการบริการฉีดวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาล

ทั้งนี้ หากผู้เข้ารับวัคซีนกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปีมีเงื่อนไขเฉพาะ หรือมีข้อจำกัดในการรับวัคซีนตามแนวทางการฉีดวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำผ่านระบบการศึกษา ให้กลุ่มดังกล่าวเข้ารับวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาล โดยให้หน่วยบริการฉีดสามารถพิจารณาฉีดวัคซีนตามดุลพินิจของแพทย์ ภายใต้หลักวิชาการ คำแนะนำจากบริษัทผู้ผลิต ความสมัครใจของผู้ปกครองและผู้รับวัคซีน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net