Skip to main content
sharethis

รำลึก 6 ปี 'เด่น คำแหล้' นักสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกิน สูญหายตัว เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2559 ภายใต้บรรยากาศ คสช.มีคำสั่ง 'ทวงคืนผืนป่า' 

17 เม.ย. 2565 สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน รายงานว่าครบรอบ 6 ปี การสูญหายตัว ไปของนายเด่น คําแหล้ (ประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ) ที่ควรรำลึกถึงแกนนําชาวบ้านที่เป็นเพียงเกษตรกรชาวไร่ชาวนาคนธรรมดาในการต่อสู้เรียกร้องในสิทธิที่ดินทำกิน

การสูญหายตัวเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย. 2559 หลังจากพ่อเด่น เข้าไปหาเก็บเห็ด หน่อไม้ บริเวณสวนป่าโคกยาว ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนามและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทว่าในวันเดียวกันนั้นพ่อเด่น ยังไม่ได้กลับมาที่บ้าน เพื่อนำของที่หาได้ไปวางขายตลาดทุ่งลุยลายในช่วงเย็นตามปกติ และไม่ได้กลับมาอีกนับจากนั้น

การระดมค้นหาไปทั่วในผืนป่าใหญ่เกิดขึ้นนับจากวันที่ 18 เม.ย. 2559 ได้มีการประสานทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และทหาร ค้นหาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีผู้ใดพบ แม้แต่เงาก็ไม่ปรากฏ

กระทั่งพบวัตถุพยานชิ้นสำคัญในราวป่า เช่น หัวกะโหลก กระดูกฝ่าเท้า ที่พิสูจน์ได้ว่า เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ให้ความบ่งชัดต่อสังคมว่า ปมปริศนาการหายตัวและการเสียชีวิตเกิดขึ้นได้อย่วงไร และเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

“คืนวันที่หายไป”

ที่มาภาพสำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน

ขณะที่ชาวบ้านชุมชนโคกยาว กำลังเผชิญอยู่บนท่ามกลางการต่อสู้เรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินกับสถานการณ์ “ทวงคืนผืนป่า” เจ้าหน้าที่ทหาร และป่าไม้ รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้ามาในพื้นที่หลายครั้ง เช่น 25 ส.ค. 2557 เข้ามาปิดประกาศคำสั่ง คสช.64/57 ให้อพยพ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน และวันที่ 6 ก.พ. 2558 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 นาย โดยมีเป้าหมายคือ ต้องเอาชาวบ้านออกจากพื้นที่ให้ได้

ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อเด่น เป็นแกนนำ หลายครั้งที่ต้องเดินทางเข้าไปชุมนุมเรียกร้องสิทธิในสิทธิที่ดินทำกิน ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และเข้ายื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้รัฐบาลมีมาตรการแก้ไขปัญหาในระดับนโยบาย จนมีมติให้ชะลอการไล่รื้อจนกว่าจะมีกระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง

แต่ในอีกมุมหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทหารกลับสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งพยายามเกลี้ยกล่อม โดยอ้างว่าจะจัดสรรที่ดินให้ แต่จากประสบการณ์ความเจ็ยปวดที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่เชื่อลมปาก และยืนยันจะอยู่บนผืนดินเดิมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ผูกพันคุ้นเคยกับป่าแห่งนี้

กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในการสูญหายตัว และเป็นที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า นายเด่น ได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 พบกางเกง รองเท้า และ สิ่งของใช้ โดยนางสุภาพ คำแหล้ ภรรยาพ่อเด่น (ขณะนั้นยังมีชีวิต) ยืนยันว่า เป็นของพ่อเด่น ถัดมาอีกหนึ่งวัน ในวันที่ 25 มี.ค. 2560 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จึงลงตรวจสอบพื้นที่ในบริเวณจุดเดียวกัน ได้พบวัตถุพยานชิ้นสำคัญซึ่งวางอยู่ในพุ่มไม้ คือ หัวกะโหลก ซึ่งผลตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแจ้งว่า มีสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) เดียวกันกับน้องสาวของพ่อเด่น

ในวันที่ 6 ก.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ดีเอส ไอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง ได้พบวัตถุพยานเพิ่มเติม คือ กระดูกฝ่าเท้า จํานวน 8 ชิ้น ผลการตรวจพิสูจน์ตรวจสอบนั้นเป็นของ นายเด่น คำแหล้

ในวันนี้ครบรอบ 6 ปี การจากไป ที่ควรรำลึกถึงความทรงจําของนักต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน ที่ได้สร้างคุณค่าประโยชน์หลากหลาย เพราะที่ดินคือชีวิต อาทิเช่น แผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยชุมชน เพื่อให้ลูกหลานมีที่ดินทำกินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างมั่งคงสืบไป

แต่สิ่งที่สมาชิกชุมชนโคกยาว ร่วมติดตามสานต่อ กระทั่งได้ข้อสรุปร่วมกันกับหน่วยงานรัฐมีมติเห็นชอบกับการกันพื้นที่ 830 ไร่ ให้กับชุมชน 16 ครอบครัว โดยจำแนกเป็นพื้นที่ป่าชุมชน 500 ไร่ พื้นที่ทำกิน 330 ไร่ เป็นที่ทำกิน และแปลงรวม เพื่อให้กรมอุทยานฯ ส่งมอบพื้นที่ให้กรมป่าไม้ ดำเนินการ แต่มาถึงปัจจุบันยังมีความล่าช้า ไม่มีการส่งมอบแต่อย่างใด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net