2 ส.ส.เพื่อไทยด้านเศรษฐกิจชี้มาตรการของรัฐในการจัดการโควิด-19 "วรสิทธิ์" ติงตัวเลขคนป่วยต้องเป็นไปตามจริงเพื่อวางมาตรการป้องกันเต็มรูปแบบไปพร้อมกับการเปิดประเทศ ทุกวันนี้คนตายมากเพราะ "ฟาวิฯ" และการรักษาไปไม่ทั่วถึง "จักรพล" ชี้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ป้องกันโรคไม่ได้ถ้าจะยกเลิก Test&Go ก็ยกเลิกไปพร้อมกัน

วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์(ขวา) และ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม(ซ้าย)

26 เม.ย.2565 ทีมสื่อเพื่อไทยรายงานว่า วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธ์ใหม่ในประเทศไทย ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาคสังคมและภาคเศรษฐกิจประเทศไทย ในโอกาสที่รัฐบาลจะเปิดประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ดีเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วย แต่หากจะให้ดีรัฐปลดล็อกธุรกิจในประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขับเคลื่อนธุรกิจรองรับการเปิดประเทศของรัฐบาลด้วย

นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐต้องรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อตรงตามความจริงเพื่อวางมาตรการป้องกันได้เต็มรูปแบบ แต่ที่ผ่านมา รัฐไม่เคยพูดความจริงกับประชาชน ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อหลักหมื่นต่อวัน อาจไม่ใช่จำนวนที่แท้จริง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจทุกจุด หากนับจำนวนตามจริงคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศต่อวันน่าจะเกิน 100,000 คน ต่อวันอย่างแน่นอน

วรสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เพราะในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 3,000 รายต่อวัน แต่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานเพียง 300 คน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจเพียงจุดเดียวแล้วรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา ดังนั้นตัวเลขที่ประกาศออกมาจึงไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง การปกปิดตัวเลขส่งผลให้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข ทำให้ทุกวันนี้ ส.ส.และผู้นำท้องถิ่นต้องหาสิ่งของบรรเทาทุกข์บรรจุในถุงยังชีพไปช่วยเหลือให้ผู้ติดเชื้อตามพื้นที่ต่างๆ เพราะผู้ติด เชื้อจำนวนมากไม่มียารักษา

“ทุกวันนี้การดูแลผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของ ส.ส.และผู้นำท้องถิ่นไม่ไช่หน้าที่ของรัฐบาลแล้วหรือ แต่ละวันมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดมากกว่า 100 คนต่อวัน รัฐบาลไม่สงสารประชาชน หรือ สาเหตุที่เขาตายคือเขาไม่ได้รับยาฟาวิฟิราเวียร์ ผู้ติดเชื้อไปขอรับโรงพยาบาลบอกหมดแล้ว รัฐไม่แจกจ่ายให้แล้ว ดีที่สุดคือ ยาแก้ปวดหัวกับยาแก้ไอ ดังนั้นผู้ติดเชื้อจึงเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เร่งแก้ปัญหา จากตายวันล่ะ100 จะเพิ่มเป็นหลาย 100 คนต่อวันอย่างแน่นอน” วรสิทธิ์กล่าว

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ช่วยป้องกันโควิดก็ยกเลิกไป

นอกจากนั้นทางทีมสื่อของพรรคยังรายงานถึงความเห็นของ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวทางจะยกเลิกระบบ Test & Go ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามา เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้องและควรจะทำนานแล้ว เหมือนที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เสนอและได้แนะนำไว้แต่แรก โดยได้ยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้และประเทศสิงคโปร์ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้เร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวและขจัดปัญหาความไม่สะดวกของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาทั้งหมดรวมถึงยกเลิกการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินด้วย

ทั้งนี้ เมื่อยกเลิกระบบ Test & Go และประเทศเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็ควรจะต้องยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉินได้แล้ว เพราะตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไม่ได้ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเลย แต่กลับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในการควบคุมและกำจัดผู้เห็นต่างเท่านั้น ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ปกติและไม่มีความจำเป็นแล้ว จึงควรต้องยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พร้อมกันไปทีเดียว อย่าคิดแค่ว่าจะเก็บไว้เป็นเครื่องมือป้องกันรัฐบาลประยุทธ์ เท่านั้น เพราะจะเสียภาพลักษณ์ที่ดีว่าประเทศไทยยังมีปัญหาถึงต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้

นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ จะต้องหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการการท่องเที่ยวโดยเฉพาะด้านโรงแรมให้กลับมาทำธุรกิจได้ และจะช่วยให้ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานที่ยังเป็นปัญหาอย่างมาก โดยควรจะต้องออกซอฟท์โลน รวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น ยืดการชำระหนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ไม่ใช่หนี้ท่วมท้นทำอย่างไรก็ใช้หนี้ไม่ได้ก็คงจะไม่ไหว ซึ่งคงต้องพิจารณาเป็นรายๆ ตามหลักเกณฑ์ที่จะกำหนด อีกทั้ง ปัจจุบันผู้ประกอบการโรงแรมจำนวนมากนอกจากจะไม่มีรายได้เพียงพอแล้ว ยังต้องถูกเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบมหาโหด เพิ่มจากเดิมถึง 10 เท่า ทำให้ลำบากกันอย่างมาก ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้พิจารณาผ่อนผันลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปีเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถหารายได้เข้ามาเพียงพอเพื่อประคองธุรกิจและจ่ายภาษีนี้

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลขายฝันว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้ 10 ล้านคนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายและน่าจะเป็นเรื่องที่ยากมาก การทำการตลาดเชิงรุกจึงมีความจำเป็นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ศึกษาและหาแนวทางในการทำการตลาดเชิงรุกทางด้านท่องเที่ยวนี้ โดยพรรคเพื่อไทยได้เตรียมแผนงานไว้แล้วและจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยถึงปีละ 80 ล้านคน ภายใน 4 ปี

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นว่าการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นเรื่องที่ยากมากจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซามาตลอด 8 ปี ซึ่งต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากและต้องทำได้หลายๆ ทางพร้อมกัน การท่องเที่ยวจะเป็นแนวทางสำคัญที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะรายได้จะเข้ามาเร็วและมีการกระจายรายได้สูง ดังนั้นการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยต้องให้ความสะดวกสบาย และ ลดปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวให้มากที่สุดเพื่อจะนำรายได้กลับเข้ามาในประเทศโดยเร็ว