ศาลขอนแก่น รอการกำหนดโทษ 2 ปี 3 จำเลยเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 

ศูนย์ทนายฯ รายงาน ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษา รอการกำหนดโทษ 2 ปี 3 จำเลยเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ อีกรายขอเวลา 3 เดือน ชำระค่าเสียหายให้ครบ

 

27 เม.ย.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นอ่านคำพิพากษาคดีวางเพลิงซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ริมบายพาสขอนแก่น เมื่อ 10-11 มี.ค. 2564, หน้า รพ.ศรีนครินทร์ เมื่อ 13 ก.ย. 2564 และหน้าวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น เมื่อ 18 ก.ย. 2564 รวม 3 คดี

โดย คดีแรกมี “บอส” อิศเรษฐ์ เจริญคง นักกิจกรรมและพ่อค้าขายดอกไม้วัย 23 ปี ถูกดำเนินคดีข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ทําให้ทรัพย์ที่ใช้มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหาย และทําให้เสียทรัพย์ โดย อบจ.ขอนแก่น ผู้เสียหาย เรียกค่าเสียหายจากการที่รูปเป็นรอยโหว่ขนาดเล็ก 2 แห่ง เป็นเงิน 4,500 บาท

ชั้นพิจารณาคดีของศาล อิศเรษฐ์ให้การรับสารภาพ และชำระค่าเสียหายจำนวน 4,500 บาท

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และทำให้ทรัพย์สินที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 และ 360 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ อันเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด

พิจารณาจากรายงานการสืบเสาะ ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีประวัติต้องโทษจำคุก จำเลยรู้สึกถึงความผิด และพยายามบรรเทาผลร้าย โดยชำระค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายจนครบ จำเลยอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงแก้ไขความประพฤติ จึงให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี

พิพากษาให้รอการกำหนดโทษ 2 ปี รายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติปีละ 3 ครั้ง ให้ละเว้นการประพฤติที่จะเป็นความผิดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก และให้ทำงานสาธารณประโยชน์ 24 ชม.

คดีที่ 2 “เจมส์” (นามสมมติ) และ “บอส” (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น โดยคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้เสียหาย เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 149,800 บาท

ในชั้นศาล เจมส์และบอสให้การรับสารภาพ และร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 150,000 บาท

ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217

พิจารณาจากรายงานการสืบเสาะ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีประวัติต้องโทษจำคุก จำเลยรู้สึกถึงความผิด และพยายามบรรเทาผลร้าย โดยชำระค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายจนครบ จำเลยทั้งสองอยู่ในวิสัยที่จะปรับปรุงแก้ไขความประพฤติ จึงให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี

พิพากษาให้รอการกำหนดโทษคนละ 2 ปี รายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติปีละ 3 ครั้ง ให้ละเว้นการประพฤติที่จะเป็นความผิดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก และให้ทำงานสาธารณประโยชน์คนละ 24 ชม.

คดีที่ 3 เทพ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช.ชั้นที่ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ถูกดำเนินคดีในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และทําให้เสียทรัพย์ โดยวิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น ผู้เสียหาย เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 85,120 บาท

เทพให้การรับสารภาพในนัดคุ้มครองสิทธิและถามคำให้การ จากนั้นได้นำเงิน 50,000 บาท มาวางเป็นค่าเสียหายต่อศาล

ในวันนี้ซึ่งศาลนัดติดตามผลการชำระค่าเสียหายและฟังคำพิพากษา เทพแถลงว่า ขอเวลาอีก 3 เดือน เพื่อนำเงินค่าเสียหายอีก 35,120 บาท มาชำระให้ครบ ผอ.วิทยาลัยเทคนิค ผู้เสียหาย ไม่คัดค้าน ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลย นัดติดตามผลการชำระค่าเสียหาย และเลื่อนฟังคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 27 ก.ค. 2565

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุด้วยว่า ทั้ง 3 คดี พนักงานสอบสวนและอัยการไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เหมือนเช่นคดีที่มีการแสดงออกต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือว่า เป็นการตีความมาตรา 112 โดยไม่ขยายขอบเขตให้เกินกว่าตัวบท

ที่เป็นเช่นนี้คาดว่ามีบรรทัดฐานมาจากคดีวางเพลิงซุ้มฯ เช่นเดียวกันนี้ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ในปี 2560 ซึ่งอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลในฐานความผิดตามมาตรา 112 ด้วย โดยศาลชั้นต้นพิพากษาว่า 6 จำเลยวัยรุ่นมีความผิดฐานดังกล่าว และลงโทษจำคุก แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องข้อหาตามมาตรา 112 คงลงโทษจำคุกจำเลยเฉพาะฐานวางเพลิงและทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากเห็นว่า จำเลยเจตนาก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเท่านั้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท