Skip to main content
sharethis

ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินให้มีการยับยั้งเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายรัฐแอละแบมา ที่มีการกีดกันเยาวชนคนข้ามเพศไม่ให้พวกเขาเข้าถึงบริการทางการแพทย์เพื่อการข้ามเพศได้ โดยสั่งให้ยกเลิกเนื้อหาตรงส่วนนี้แล้วอนุญาตให้พ่อแม่ให้ความช่วยเหลือเด็กในเรื่องการข้ามเพศได้โดยไม่นับเป็นความผิดทางอาญา

15 พ.ค. 2565 นับเป็นชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ ของเยาวชนคนข้ามเพศในรัฐแอละแบมา เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินยับยั้งไม่ให้มีการบังคับใช้ส่วนหนึ่งของกฎหมายกีดกันเยาวชนคนข้ามเพศของรัฐนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการผ่านร่างกฎหมายดังดกล่าวนี้โดย ส.ส. พรรครีพับลิกัน ในแอละแบมา

กฎหมายกีดกันคนข้ามเพศที่เป็นเยาวชนดังกล่าวนี้มีชื่อว่า SB 184 เนื้อหาของกฎหมายมีการสั่งห้ามไม่ให้มีการจ่ายยาที่ช่วยในการข้ามเพศและห้ามการบำบัดข้ามเพศด้วยฮอร์โมนแก่ผู้เยาว์ที่ต้องการข้ามเพศ ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

ถึงแม้ว่าผู้พิพากษาศาลแขวง ไลส์ ซี เบิร์ก จะไม่ได้สั่งห้ามกฎหมายฉบับนี้โดยทั้งหมดแต่ก็มีการสั่งให้มีการยังยั้งเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายฉบับนี้ คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการบำบัดเพื่อช่วยเหลือคนข้ามเพศในการแปลงเพศ เบิร์กระบุว่ากฎหมายที่สั่งห้ามการบำบัดเช่นนี้ถือเป็น "สิ่งที่น่าจะขัดกับหลักรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ" คือจะไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานที่พ่อแม่ในการที่จะคอยดูแลช่วยเหลือให้ลูกๆ ของพวกเขาสามารถแปลงเพศได้โดยเป็นไปตามขั้นตอนมาตรฐานทางการแพทย์ เบิร์กบอกอีกว่าการจำกัดไม่ให้เด็กที่ต้องการข้ามเพศได้รับการดูแลช่วยเหลือในเรื่องนี้นั้นถือเป็น "การกีดกันเลือกปฏิบัติบนฐานของเรื่องเพศ"

เบิร์กกล่าวอีกว่า การที่ทางการรัฐแอละแบมาอ้างว่าการดูแลช่วยเหลือให้เยาวชนคนข้ามเพศสามารุถข้ามเพศได้นับเป็น "วิทยาศาสตร์ที่ยังไม่มีข้อตกลง" ถือเป็นข้ออ้างที่ไม่เพียงพอจะทำให้เชื่อตามได้

เพราะในความเป็นจริงแล้วหน่วยงานวิทยาศาสตร์การแพทย์จำนวนมากสนับสนุนให้เยาวชนสามารถข้ามเพศได้ถ้าหากพวกเขาต้องการ ทั้งสถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกา (AAP) และสมาคมต่อมไร้ท่อเด็กและวัยรุ่นสหรัฐฯ ต่างก็ส่งเสริมให้มีการดูแลช่วยเหลือในการข้ามเพศของเด็กและเยาวชน ทั้งในรัฐแอละแบมาและในรัฐอื่นๆ มีองค์กรการแพทย์และองค์กรด้านสุขภาพจิตมากกว่า 20 องค์กรที่เรียกร้องให้เบิร์กยับยั้งกฎหมายกีดกันเยาวชนคนข้ามเพศของรัฐแอละแบมา

ถึงแม้ว่าอนาคตของกฎหมายฉบับนี้จะยังไม่แน่นอนและการต่อสู้ทางกฎหมายจะยังคงดำเนินต่อไป กลุ่มปกป้องสิทธิของเยาวชนคนข้ามเพศต่างก็ยินดีต่อเรื่องที่มีการยับยั้งบางส่วนของกฎหมายฉบับนี้

เจนนิเฟอร์ ลีไว ผู้อำนวยการโครงการสิทธิคนข้ามเพศขององค์กร GLAAD ที่เป็นหนึ่งในโจทก์ยื่นฟ้องต่อต้านกฎหมายนี้ ได้แสดงความยินดีต่อการที่ผู้พิพากษายับยั้งบางส่วนของกฎหมาย

"คำตัดสินในครั้งนี้หมายความว่าพ่อแม่ของเยาวชนคนข้ามเพศในแอละแบมาจะยังคงสามารถตัดสินใจในเรื่องสุขภาวะว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของพวกเขา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ชวนให้โล่งอกเป็นอย่างยิ่ง พ่อแม่ไม่ควรจะถูกลงโทษเพราะต้องการทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ ของพวกเขา" ลีไวกล่าว

เจมส์ โซอี พ่อของเยาวชนอายุ 13 ปี ชื่อ แซคารี จากเมืองเบอร์มิงแฮมของแอละแบมา เป็นหนึ่งในโจทก์ที่ฟ้องร้องต่อต้านกฎหมายนี้ เขาแสดงความปลื้มปิติหลังจากที่ได้รับทราบคำตัดสินของผู้พิพากษา

"คำตัดสินนี้หมายความว่าพวกเขาจะยังคงสามารถให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาวะต่อลูกๆ ของพวกเขาต่อไปได้ตามที่ลูกของพวกเขาต้องการ และจะไม่มีอะไรที่สำคัญมากไปกว่านี้หรือน่าโล่งอกมากไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับครอบครัวเรา แอละแบมาเป็นบ้านของพวกเรา พวกเราหวังว่ากฎหมายที่โหดร้ายเช่นนี้จะไม่บีบบังคับให้พวกเราต้องออกจากบ้านของตัวเอง พวกเรากำลังต่อสู้เพื่อลูกของพวกเราและจะต่อสู้ต่อไปเพื่อที่เขา(แซคารี) และเยาวชนคนข้ามเพศทุกคนในแอละแบมาจะยังคงสามารถได้รับการดูแลช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเหมาะสมได้" เจมส์ โซอี กล่าว


เรียบเรียงจาก
'Extraordinary Relief': Advocates Celebrate Partial Block of Alabama Law Targeting Trans Youth, Common Dreams, 14-05-2022

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net