Skip to main content
sharethis

เทศกิจมาหาประชาชนที่กางเต็นท์ปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เรียกร้องสิทธิการประกันตัวผู้ถูกคุมขังทางการเมือง เผยอีก 2-3 วันจะมารื้อออก เหตุกีดขวางจราจร ด้านกลุ่มปกป้องสถาบัน ‘ศปปส.’ ยื่นถอนประกันตัว ‘ไบร์ท ชินวัตร’ จากกิจกรรม ‘ยืนบอกเจ้าว่า เราโดนรังแก’ เมื่อ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา จี้ บช.น.จัดการการชุมนุมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้

 

30 ก.ค. 2565 สุรเมธ น้อยอุบล ผู้สื่อข่าวพิเศษ ถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ‘Friends Talk’ วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.43 น. ติดตามสถานการณ์ประชาชนปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังเพจเฟซบุ๊ก ‘อานนท์ นำภา’ โพสต์ข้อความเผยว่า ‘เทศกิจกำลังรื้อเต็นท์ 112 หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้’

อย่างไรก็ตาม จากภาพไลฟ์ถ่ายทอดสดของ Friends Talk พบว่าเต็นท์ของประชาชนหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ยังอยู่ แต่เมื่อช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาหาที่เต็นท์เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. และบอกว่าจะดำเนินการรื้อถอน ประมาณอีก 2-3 วันข้างหน้า

แผน หนึ่งในประชาชนที่ตั้งเต็นท์ปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ และผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่เทศกิจเดินทางมาหา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวพิเศษ เผยว่าเมื่อเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) มีเจ้าหน้าที่เทศกิจมาคุยกับประชาชนที่หน้าศาลฯ ว่าจะให้ประชาชนรื้อเต็นท์หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้  เนื่องจากการตั้งเต็นท์และการใช้เสียงโดยไม่รับอนุญาตมีความผิดตามกฏหมาย กีดขวางทางเท้า ทำให้ผู้สัญจรไปมาเดือดร้อน แต่ทางประชาชนปฏิเสธ ทางเทศกิจจึงบอกว่าทางเจ้าหน้าที่จะทำหนังสือมา และจะรื้อเต็นท์ โดยคาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วันต่อจากนี้ 

แผน มองว่า การเคลื่อนย้าย หรือขยับเต็นท์ ที่กีดขวางเส้นทางจราจร ไม่จำเป็นต้องมารื้อ หากมีการเจรจาอย่างจริงใจ อยากให้ประชาชนเคลื่อนย้าย หรือหลบ ประชาชนยินดีเปิดทางให้ประชาชนเดิน 

“ขอให้เขามาคุยเถอะ เราหลีกให้เดินได้ และมันก็มีคนเดิน… แต่เราเต็มใจอยู่แล้ว เอามาดิ ที่จะคุยกันได้ด้วยเหตุด้วยผล เราลดให้ได้ เราถอยให้ได้อยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ที่มีความจริงใจรึเปล่าเท่านั้นเอง” แผน กล่าว 

มาณี หนึ่งในผู้ที่ปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ระบุว่า การคุกคามจากเจ้าหน้าที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนอิสระทำกิจกรรม “ยืนบอกเจ้า ว่าเราโดนรังแก” มานี ระบุต่อว่า หลังทำกิจกรรมในวันนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนเดินมาหาที่เต็นท์ และขอประชาชนว่าไม่ให้ทำกิจกรรมหน้าศาลฯ ได้หรือไม่ เพราะไม่อยากดำเนินคดีกับประชาชน ขณะที่มาณี ก็ยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น แต่ไม่ได้พูดอะไร 

บรรยากาศหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ วันที่ 30 ก.ค. 2565 (ที่มา: เพจเฟซบุ๊ก Friends Talk)

กระทั่งเมื่อ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาอีกครั้ง โดยมาบอกว่าให้ประชาชนอยู่แต่ในเต็นท์เท่านั้น อย่าไปทำกิจกรรมหน้าป้ายศาลฯ ตรงใต้พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 มาณี จึงตอบเจ้าหน้าที่กลับไปว่า ถ้าไม่ทำตาม ตำรวจจะทำยังไงต่อ ตำรวจก็ไม่ว่าอะไร และก็เอาแผงเหล็กมากั้นด้านหน้าศาลฯ และขอไม่ให้ประชาชนทำกิจกรรมบริเวณรั้วศาลฯ ใกล้กับพระบรมฉายาลักษณ์ฯ 

มาณี กล่าวต่อว่า ในวันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่มาหาที่เต็นท์อีกครั้งรอบที่ 3 และบอกว่า “นายสั่ง” ไม่ให้ไปทำกิจกรรมบริเวณรั้วศาลฯ ใกล้กับพระบรมฉายาลักษณ์ฯ พอทางประชาชนถามว่า 'นาย' เป็นใคร ตำรวจบอกเพียงว่าไม่ใช่นายจากสถานีตำรวจ หรือศาล แต่ใหญ่กว่านั้น

มาณี มองว่า ที่ตำรวจมาที่เต็นท์หน้าศาลฯ บ่อยๆ และต้องการมารื้อเต็นท์ น่าจะถูกกดดันจากการกลุ่มประชาชนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ‘ไบร์ท’ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมอิสระ ที่ทำกิจกรรมเมื่อ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

แผน เห็นด้วยว่า หลังกิจกรรมวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงให้เคร่งครัดขึ้น โดยมีการนำรั้วเหล็กมากั้นบริเวณหน้าศาลฯ มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจอดหน้ารั้วศาลฯ ทั้งวันทั้งคืน 

ทั้งนี้ ประชาชนมาตั้งเต็นท์หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้ถูกคุมขังทางการเมือง ซึ่งปัจจุบัน มีด้วยกัน 30 คน ขณะที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานด้วยว่า วันนี้ 'บุ้ง' เนติพร เสน่ห์สังคม และ 'ใบปอ' ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ สมาชิกทะลุวัง อดอาหารเป็นเวลา 59 วันแล้วในเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง และถือเป็น 2 นักกิจกรรมที่อดอาหารประท้วงยาวนานที่สุดในตอนนี้

สำหรับการแจ้งดำเนินคดี ‘ไบร์ท’ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง เกิดขึ้นวานนี้ (29 ก.ค.) เมื่อนพคุณ ทองถิ่น รองประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ ผู้ประสานงานเพจ ศปปส. และแอดมินน้ำ เพจ ศปปส. เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ‘ไบร์ท’ ข้อหา มาตรา 112 ที่ สน.ยานนาวา โดยกล่าวหาว่า ไบร์ท กระทำการมิบังควรหน้าพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และล่าสุด ตำรวจรับเป็นคดีมาตรา 112 แล้ว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศปปส. ยื่นถอนประกัน ‘ไบร์ท’ จี้ บช.น.สลายการชุมนุมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้

แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพจ ‘ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน’ ถ่ายทอดสดวันนี้ (30 ก.ค.) อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. และแนวร่วมอื่นๆ เดินทางไปที่ สน.พหลโยธิน เมื่อเวลา 12.00 น. เพื่อยื่นหนังสือ 2 ฉบับ 1. หนังสือถึงผู้กำกับ สน.พหลโยธิน ถอนประกันตัว 'ไบร์ท' ชินวัตร จันทร์กระจ่าง จากการทำกิจกรรม ‘ยืนบอกเจ้า ว่าเราโดนรังแก’ เมื่อ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

และ 2. หนังสือถึงพลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกร้องให้ตำรวจจัดการการชุมนุมทางการเมืองตามสถานที่ต่างๆ ในเขตความรับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยมี พลตำรวจตรีสรรเสริญ ใช้สถิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (น.6) มารับหนังสือ

ประธาน ศปปส. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เหตุที่ต้องการให้มีการจัดการการชุมนุมทางการเมืองตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจาก ศปปส.ติดตามพฤติกรรมของผู้ชุมนุมที่ปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้มาหลายวันแล้ว พบว่ามีการกระทำจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ตลอดเวลา จึงอยากเรียกร้องให้ บช.น. มีการสลายการชุมนุมที่ปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ออกไปให้หมด 

“เราเลยมาขอให้ บช.น. ให้รื้อ ให้สลายการชุมนุมให้รื้อถอนที่อยู่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ้าไม่ทำ …จะให้ประชาชนทำกันเองหรือไม่ พวกเราไม่สามารถจะทนดูอยู่ได้ ภายในเร็ววันนี้ท่านจะต้องรื้อ เพราะไอ้พวกนี้มีกันอยู่ไม่กี่คนเอง ผมว่าไม่เกินความสามารถของตำรวจ ให้ บช.น.สั่งการ” อานนท์ กลิ่นแก้ว กล่าว    

ก่อนการยื่นหนังสือ นพคุณ รองประธาน ศปปส. อ่านแถลงการณ์ 2 ฉบับให้สื่อมวลชน และผู้มารับหนังสือ ได้รับฟัง 

อานนท์ กลิ่นแก้ว (คนที่ 3 จากซ้าย) ประธาน ศปปส. ยื่นหนังสือถึง (ที่มา: ไลฟ์สดเฟซบุ๊ก ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน)

ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังรับหนังสือว่า หลังจากนี้ทาง สน.จะมีพิจารณาว่าสิ่งที่ชินวัตร ทำ ถือว่าผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าผิด ทางตำรวจจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้อัยการ เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทางด้านพลตำรวจตรี สรรเสริญ ระบุต่อว่า ทั้งนี้ หลังจาก ศปปส. แจ้งความชินวัตร ที่ สน.ยานนาวา แล้ว ทางพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา มีการสอบปากคำผู้กล่าวหา และมีการเรียกพยานหลักฐานในส่วนนี้แล้ว ต่อจากนี้จะมีการพิจารณาเชิงคดีให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ถ้ามีการกระทำผิดกฎหมาย จะรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับ ดำเนินการจับผู้กระทำความผิดในการนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

"อยากให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะตรงไปตรงมาตามกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัด" พลตำรวจตรีสรรเสริญ กล่าว

แถลงการณ์ถอนประกัน 'ไบร์ท ชินวัตร'

เรื่อง ยื่นถอนประกันตัวผู้ต้องหา

เรียน ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน

เนื่องด้วยนายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ผู้กล่าวหานายชินวัตร จันทร์กระจ่าง ในความผิดดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งศาลอาญารัชดา อนุญาตให้ประกันตัวบุคคลดังกล่าว หากได้เกรงกลัวต่อกฎหมายไม่ ยังกระทำความผิดแบบนี้ซ้ำๆ อยู่เรื่อย และเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง ผู้ต้องหามาตรา 112 ได้กระทำมิบังควรต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งหลักฐานต่างๆ แนบมาในเอกสารดังกล่าวแล้ว ซึ่งในวันต่อมา วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ได้เข้ากล่าวโทษแจ้งดำเนินคดีในมาตรา 112 กับบุคคลดังกล่าวที่ สน.ยานนาวา ด้วยเหตุนี้ ทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน ยื่นหนังสือถอนประกันตัวนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง ผู้ต้องหาในมาตรา 112 เพื่อให้ทางผู้กำกับ สน.ยานนาวา ได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวต่อไป 

รายละเอียดแถลงการณ์เรื่องตำรวจปล่อยประชาชนทำกิจกรรมการเมืองตามสถานที่ต่างๆ     

เรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยให้มีการชุมนุมพาดพิงโจมตีใส่ร้ายคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ตามสถานที่ต่างๆ

เรียน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เนื่องด้วยขณะนี้มีผู้ชุมนุมจัดม็อบตามสถานที่ต่างๆ อาทิเช่น ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลฎีกา ซึ่งมีการปราศรัยพูดจาพาดพิง โจมตี ใส่ร้าย และคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ประเทศไทยถือว่าเป็นเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการจัดงานเทิดพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลตามหน่วยงานราชการและสถานที่ต่างๆ แต่ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ กลับมีม็อบที่กระทำการมิบังควร อาทิเช่น โกนหัวประท้วงต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ศาลอาญากรุงเทพใต้ รวมไปถึงการพูดปราศรัยในลักษณะที่บังอาจ และมิบังควรต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย 

ทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน เล็งเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะให้มีการจัดชุมนุมในลักษณะนี้ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และสถานที่ราชการ ในการกระทำหมิ่นเบื้องสูงในเขตความรับผิดชอบของ บช.น. ในเรื่องดังกล่าวนี้ทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก และอยากให้ทาง บช.น. ภายใต้การกำกับดูแลของพลตำรวจโท สำราญ นวลมา ต้องชัดเจนและเด็ดขาดกับเรื่องดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นที่เสื่อมเสียต่อพระเกียรติของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้สมดั่งคำปฏิญาณตนและวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ 20 ปีของ สตช. (พ.ศ. 2561-2580) ที่ว่าเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา และจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาได้อย่างไร ในเมื่อมีเหตุการณ์มิบังควรแบบนี้เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร จึงเรียนมาดังกล่าวแก่ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา เพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดและเร่งด่วน                      

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net