Skip to main content
sharethis

28 ส.ค. 2565 เพจมูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.) รายงานว่า มพน.ได้รับแจ้งว่ามีหมายจากศาลจังหวัดลำปาง ไปยัง 'แสงเดือน ตินยอด' หรือ วันหนึ่ง ยาวิชัยป้อง เหยื่อทวงคืนผืนป่า ชุมชนบ้านแม่กวัก ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง ให้ไปรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 28 ก.ย. 2565 นี้ หลังต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมมากว่า 4 ปี 

กรณีแสงเดือน ตินยอด เกิดขึ้นตั้งแต่ชุมชนบ้านแม่กวัก ถูกประกาศป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ทับที่ทำกิน หลังจากนั้น กรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์และอยู่อาศัยได้โดยให้สิทธิ สทก.1 หลังจากนั้นมีการเตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ขณะที่ก็ยังมีการต่อใบอนุญาตทำกินให้ รวมถึงได้รับการส่งเสริมให้ปลูกยางพารา จนหลังมีคำสั่ง คสช. ที่ 64/2557 เรื่อง การปราบปรามและการหยุดยั้งการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ หรือ ‘นโยบายทวงคืนผืนป่า’ เธอจึงถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทและป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง บังคับให้ตัดฟันยางพาราของตนเอง 2 ครั้ง ในปี 2556 และ 2558 ก่อนจะถูกดำเนินคดีในปี 2561 

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าแสงเดือนทำกินในพื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นป่าสงวนฯ และกำลังดำเนินตามนโยบาย ‘โฉนดชุมชน’ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. 2553 และยังได้รับการผ่อนผันตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 อย่างไรก็ตามศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโดยเจตนา และเรียกค่าเสียหาย 4 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2561 รวมทั้งให้แสงเดือน ออกจากพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 

ด้านอัยการจังหวัดลำปางยืนยันเดินหน้าเอาผิดแสงเดือนในกระบวนการศาลอย่างถึงที่สุด 

โดยความคืบหน้าล่าสุดก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ 4 ภาค การแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมอาลัมภางค์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง ที่เกิดจากการผลักดันของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้มีการเจรจาแก้ไขปัญหาคดีทวงคืนผืนป่ากรณี ‘แสงเดือน ตินยอด’ หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่โป่ง ดำเนินคดีบนพื้นที่ทำกิน 10 ไร่ ซึ่งพบว่าจำเลยต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า ตลอดจนหนี้สินและปัญหาขาดแคลนรายได้เนื่องจากไม่มีที่ดินทำกิน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมดำเนินคดีรับผิดชอบเยียวยา

สิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะประธานที่ประชุมขณะนั้น กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่มีหลักเกณฑ์สำหรับการเยียวยาผลกระทบแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) หาหลักเกณฑ์ในการเยียวยาผลกระทบแก่แสงเดือน แล้วหารือกับพีมูฟ ส่วนกรณีที่ดินทำกินให้ผ่อนผันให้สามารถเข้าไปทำกินได้ในระหว่างรอคำพิพากษาศาลฎีกา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net