Skip to main content
sharethis

"คนอย่างผมไม่มีใจบันดาลแรงนะ แต่ผมมีแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยเหลือประเทศไทย สร้างอนาคตให้ประเทศไทย"

เปิดตัว ‘สมคิด’ กลับสนามการเมือง นั่งเก้าอี้ ปธ.พรรคสร้างอนาคตไทย ปราศรัยถึงวิสัยทัศน์หนุนนโยบายกระจายอำนาจ-งบฯ เป็นพรรคของ ปชช.อย่างแท้จริง ให้ ปชช.มีส่วนร่วมในนโยบายทั้งในและนอกสภา เข้าร่วมเพราะไม่ได้ต้องการเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่มาเพื่อช่วยพรรค สร้างอนาคตให้คนรุ่นใหม่ ชื่นชมจุดยืนเป็นพรรคสาย ‘กลาง’ 

 

8 ก.ย. 2565 สำนักข่าว Voice TV และมติชน ออนไลน์ รายงานวันนี้ (8 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้น พรรคสร้างอนาคตไทย จัดงานเปิดตัว สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ในฐานะประธานพรรคสร้างอนาคตไทย อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางผู้บริหารและแกนนำพรรคมาร่วมแสดงความยินดีอย่างคึกคัก หลังจากวานนี้ (7 ก.ย.) ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคฯ มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง 

เว็บมติชน ออนไลน์ รายงานด้วยว่า ผู้บริหารพรรคที่เข้าร่วมประชุม อาทิ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ประธานภาคใต้ นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค ประธานภาคอีสาน สุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ประธานกรุงเทพฯ สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค ประธานฝ่ายนโยบาย วิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการพรรค กำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค ประธานฝ่ายวิชาการ นริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค ละโฆษกพรรค และวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค ประธานภาคกลาง

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวปราศรัย เปิดใจว่า วันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับลูกชายคนเล็ก ‘ณฉัตร’ ชื่อเล่นชื่อ ‘คลัง’ เป็นลูกที่สวรรค์ส่งมาให้ตน ขณะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คลังเป็นลูกคนเล็ก อายุ 20 ปี เรียนวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ตนพามา ไม่ได้พามาเที่ยว แต่พามาเพื่อให้เป็นประจักษ์พยาน ได้เห็นได้รู้ว่าการสร้างพรรคการเมืองที่ดีมันมีจริง ต้องการให้เรียนรู้ว่าการทำพรรคการเมืองมันไม่ใช่ของง่าย ต้องการให้เขาเข้าใจในพ่อของเขาว่าต้องกลับมาช่วยเหลือน้องๆ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นภารกิจหน้าที่ทั้งนั้น ไม่ใช่เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งนายกฯ ไม่มีความหมายเลย แต่ที่มีคือ การเป็นผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย ประเทศไทยมีนายกฯ มาทุกสมัย ดีบ้าง อ่อนบ้าง แต่ยากจริงๆ ที่จะหาผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาบ้านเมือง บางทีไม่ใช่เพราะไม่กล้า แต่พลังไม่ถึง บางคนพลังถึง แต่ไม่คิดที่จะทำ เพราะ agenda มีมากกว่า ฉะนั้น วันนี้มาเพื่อให้ลูกชายคนเล็ก เห็นสิ่งที่พ่อเขาพยายาม ไม่ว่าจะได้มากได้น้อย มันเป็นเรื่องของชะตาบ้านเมือง

ถ่ายทอดสดเปิดตัว สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะประธานพรรคสร้างอนาคตไทย

นายสมคิด กล่าวว่า ต้องการให้นิวเจนได้รู้ว่าการเมืองไม่ได้เลวร้าย การเมืองดีก็มี การเมืองที่มุ่งทำงานให้ชาติก็มี คนที่มุ่งทำงานก็มี อย่าคิดว่าการกลับมานั้นหวังแค่นายกฯ ให้คิดเสียใหม่ รู้จักชื่อสมคิดน้อยไป วันนี้มาด้วย 2 วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์แรก มาเพื่อให้กำลังใจพรรค ขอบคุณทางพรรคที่มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อเป็นหลักยึดแก้ไข เพื่อเป็นอนาคตให้กับคนรุ่นหลาน ซึ่งหายากจริงๆ ไม่คิดถึงอนาคต คิดถึงแต่ปัจจุบัน ถ้าเป็นอย่างนั้นบ้านเมืองไปไม่ได้ 

ขอบคุณจริงๆ ที่มีความเด็ดเดี่ยวที่กล้าประกาศว่าเป็นพรรคสายกลาง ไม่คิดสุดโต่ง สุดขั้ว เพราะความคิดแบบนั้นแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งกลุ่มมันมีแต่ทำลายตัวเอง ทำลายบ้านเมือง จุดสำคัญคือคุณต้องเป็นกลาง เพื่อเป็นตัวยึดโยงให้พลังในชาติสามารถเป็นพลังแห่งชาติ คิดในสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อชาติบ้านเมืองเป็นใหญ่

สมคิด กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด ท่านมีความกล้าหาญเพียงพอที่กล้าตั้งพรรคการเมืองในขณะนี้ทั้งที่สถานการณ์ทางการเมืองมันค่อนข้างเละเทะจริงๆ สถานการณ์ที่เงินตราเริ่มเข้ามามีบทบาทสูงมาก การแข่งขันทางการเมืองเริ่มมีลักษณะเหมือนการแข่งขันในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของ และคอกก็ต้องหาเงินมาเลี้ยงม้า สิ่งเหล่านี้ที่ผ่านมาแม้มีมาตลอด แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ โจ่งครึ่มเกินไป เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย แล้วคนรุ่นหลังจะหันหลังให้การเมืองไทยตลอด จะไม่ได้คนดีเลย รุ่นใหม่จะไม่อยากเข้ามา ฉะนั้น ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ที่จะรวบรวมความคิดอ่านเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนคือความกล้าหาญที่แท้จริง ไม่ต้องไปคำนึง ไปกลัวว่าจะได้กี่เสียง จำนวนเสียงไมได้บอกอะไร แต่ศรัทธาของประชาชนคือหัวใจ อย่าคิดว่าเงินตราจะซื้อคอกม้าใหญ่ได้แล้วจะมีพลังในการบริหารประเทศ ถ้าเล่นการเมือง สร้างพรรคการเมือง คิดแต่สร้างผลทางอำนาจ แต่ถ้าไม่มีโครงสร้างทางปัญญา ไม่สั่งสมคนมีความสามารถ สุดท้ายจะไปไม่รอด จะพาบ้านเมืองไปไม่รอดด้วย

“มีคนเคยบอกว่าสมคิด ไม่มาแน่นอน เพราะต้นทุนทางสังคมเยอะพอสมควร จะมาอยู่กับพรรคเล็กทำไม ผมมาที่นี่ไม่ใช่เพราะตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ แต่ต้องการช่วยพรรคครั้งนี้ เป็นตัวอย่าง เป็นตัวขับเคลื่อน สร้างความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยในทางที่ถูกต้อง” สมคิด กล่าว

สมคิด กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยสถานการณ์หนักกว่าที่คิด และอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ตนจำได้ว่ารัฐบาลที่แล้วเมื่อปี 2557 ก่อนที่ตนจะส่งทีม 4 กุมารเข้าไป จีดีพีเหลือเพียง 1% เพราะมีการรัฐประหาร ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องช่วยกันทำงานจนลากจีดีพีขึ้นมาถึง 3-4% แต่ต่อมาต้องมาเจอพิษโควิด-19 และพิษการเมืองที่แสวงหาอำนาจ แต่ไม่แสวงปัญญา เป็นรัฐบาลผสม หรือบุฟเฟต์คาบิเนต มีที่ไหนที่นโยบายประเทศแบ่งกันตามกระทรวง ทางใครทางมัน ตนจึงวอล์กเอาต์ นี่คือความเป็นจริงของประเทศไทย ทำให้จีดีพีหดตัว วันนั้นเรายังไม่มีปัญหาเรื่องการส่งออก และพลังงาน มาวันนี้การส่งออกเริ่มชะลอตัว เมื่อมองไปข้างหน้า เราจะพบมรสุมลูกใหญ่ แล้วเราจะถึงฝั่งได้อย่างไร

สมคิด กล่าวว่า วันนี้เรามีนายกฯ แต่คนไหนตัวจริงยังไม่รู้เลย ที่น่ากังวลเพราะว่าเราต้องการนายกฯ จริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องมีจริงๆ เพื่อให้โฟกัสที่ไปตัวผู้นำ ไม่อย่างนั้นใครนำเรือลำนี้ หรือจะให้ข้าราชการนำ ข้าราชการนำไม่ได้ สมัยก่อนนำได้ แต่สิบกว่าปีมานี้ให้หลังไม่ได้ เพราะการเมืองไม่ไหว ทำมากผิดมาก ไม่ทำเลยไม่ผิด คนดีมีความสามารถนิ่งเสียตำลึงทอง ฉะนั้น ทั้งหมดอยู่ที่ผู้นำที่ต้องทุบโต๊ะ ถ้าไม่ช่วยเหลือให้ยุบสภาเลย เก็บไว้ทำไม เมืองไทยจะไปไม่ไหว ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าทำไม่เป็น ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่ดี คนไทยมีความอดทนสูงมาก ตนอายุขนาดนี้ คนไทยไม่เคยบ่น ลำบากก็ไม่บ่น เขามองหาความหวังว่าใครจะมาช่วยเขา ที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าเขามองแล้วความหวังไม่มี พรุ่งนี้ไปตายเอาดาบหน้า อันนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ยิ่งวันยิ่งจน เมื่อจนไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ การจะเป็นเหยื่อของการปลุกปั่นเกลียดชังจะเกิดขึ้น เพราะจะมีคนปลุกปั่นอยู่ การปลุกปั่นยุยงให้แตกแยกกันไม่มีใครได้ประโยชน์นอกจากคนปลุกปั่น การเป็นปฏิปักษ์กันเองของคนในชาติเป็นสิ่งที่พรรคนี้อย่าให้เกิดขึ้น ต้องมุ่งมั่น เอาคนดีมาร่วมมือกันทั้งในพรรคและนอกพรรค

สมคิด กล่าวว่า อยากให้พรรคนี้พยายามเข้าไปกอบกู้และสร้างอนาคตของประเทศไทย ตนได้ยินว่านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค จะตั้งกองทุนสร้างอนาคตไทย ตนจึงขอให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนเร่งด่วน ช่วยเหลือคนยากลำบาก ไม่เช่นนั้นจะอยู่ไม่ได้ ส่วนกองที่สอง คือกองทุนเพื่ออนาคต คนไทยกว่า 60% อยู่ในภาคเกษตรกรรม แต่กลับมีส่วนในจีดีพีน้อย จึงไม่มีอำนาจซื้อ เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงและช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังต้องปฏิรูปการท่องเที่ยว และทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในชุมชุน เมื่อเชื่อมต่อระหว่างการเกษตรยุคใหม่ และการท่องเที่ยว มีหรือที่ชีวิตความเป็นอยู่จะไม่ดีขึ้น ทั้งนี้ ความผิดไม่ได้อยู่ที่การประกัน หรือการจำนำ แต่อยู่ที่การคอรัปชัน จึงต้องปฏิรูปให้ชัดเจน อนาคตข้างหน้าเครื่องยนต์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ที่บริษัทใหญ่ๆ แต่อยู่ที่ทุกคน จึงต้องมีเรื่องของอินเทอร์เน็ต บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยี กองทุนกองที่สองจะต้องเข้าไปหนุน และยกเครื่องทั้งหมด

“คนทำงานต้องเปลี่ยนทัศนคติ การคอรัปชั่นต้องอย่าให้เกิด เมื่อวันที่ 7 กันยายน พรรคสร้างอนาคตไทยได้เสนอให้ผมเป็นประธานพรรค ผมสนับสนุนพรรคในทุกบทบาท และทุกรูปแบบ จึงอยากเข้ามาช่วยสนับสนุน แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ก็เห็นใจน้องๆ เพราะการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย คนอย่างผมไม่มีใจบันดาลแรงนะ แต่ผมมีแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทย สร้างอนาคตให้ประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเอง สิ่งนี้มาจากความจริงใจของผม ยิ่งมาแข่งเยอะยิ่งดี ตั้งใจจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับใคร ในระบอบนี้ต้องคิดต่าง แต่เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน” สมคิด กล่าว

สมคิด กล่าวว่า การกระจายงบ และอำนาจ คือหัวใจของการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ ตนจะสนับสนุนท่าน ถ้าท่านรับปากตน 3 ข้อ คือ ข้อหนึ่งการสร้างพรรคการเมืองที่ดี ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ และนโยบาย เป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แปลว่าพรรคต้องมีช่องทางเกาะเกี่ยวกับประชาชน ให้ประชาชน เข้ามากำหนดการตัดสินใจกับพรรคทั้งในสภา และนอกสภา ต้องไม่ใช่การเมืองที่มีส่วนร่วม 4 วินาที ที่ไทยเป็นอย่างนี้เพราะภาคประชาชนอ่อนแอ ทั้งนี้ ต้องอย่าแสวงอำนาจ แต่ให้แสวงหานโนบาย องค์ความรู้ และปัญญา สามารถทำงานกับทุกพรรคเพื่อพาชาติให้รอด ข้อที่สอง การเข้าไปกอบกู้เศรษฐกิจ และทำตามที่ตนเสนอ คือการทำงานแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว และข้อสามที่สำคัญที่สุดคือเรื่องการเมือง ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่กระบวนการประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นอย่างที่ตนหวังไว้ เพราะทุกเรื่องไม่ได้พ้นเรื่องเงิน

สมคิด กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้นำต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง พรรคการเมืองต้องร่วมมือสนับสนุน ต้องสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ ไม่ใช่เลือกตั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม สภาคือหัวใจ ที่ต้องรื้อกฎหมายเก่า และสร้างกฎหมายใหม่ ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงการเมือง จะต้องเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงกติกาเลือกตั้ง แต่ต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ ทั้งการกระจายอำนาจ งบประมาณ และระบบราชการ เพื่อให้ไปสู่ทิศทางข้างหน้าให้ได้ ต้องไม่ใช่จากใครที่มาเขียนรัฐธรรมนูญ ต้องให้คนทุกเพศ ทุกวัยเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงคนรุ่นใหม่ พรรคสร้างอนาคตไทยจะต้องดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะพรรคจะโตขึ้นจากการที่ประชาชนให้การสนับสนุน กลายเป็นพลังที่อยู่ข้างหลัง จนพรรคใหญ่ก็ต้องฟัง

สมคิด กล่าวว่า อย่าหวงอำนาจ หวงตำแหน่ง การที่ประสบความสำเร็จ อย่าแสวงหาอำนาจ ต้องแสวงหาคน อย่ามาบอก 7 คน 1 ที่นั่ง ตนไม่ฟัง ถ้ามี ส.ส.คนไหนในพรรคที่เดินออกนอกลู่นอกทาง พร้อมทรยศอุดมการณ์ พร้อมขอนายอุตตม ใช้มติกรรมการบริหารพรรคไล่ออกไปเลย เราต้องเป็นพรรคของประชาชนที่แท้จริง ต้องทำให้ดีที่สุด และเราต้องไม่มีศัตรู ต้องมีมิตร เราไม่ได้เก่งคนเดียว คนอื่นเขาก็เก่งเหมือนกันเมื่องไทยรอไม่ได้แล้ว มันถึงจุดนี้ถ้ารอต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง มิเช่นนั้นลูกหลานคงไปอยู่เมืองนอก

“ผมมาที่นี่ อย่าพูดไปเรื่อยๆ ว่าสมคิด ต้องเป็นนายกฯ เพราะการเป็นนายกฯ ฟ้าลิขิต แต่ผมพร้อมที่จะเป็นผู้นำให้พวกคุณ ฉะนั้น ถ้าหากว่ายอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ ผมพร้อมจะเป็นประธานพรรคให้ท่าน รับหรือไม่รับ” ทำให้นายอุตตม นำสมาชิกลุกขึ้นตะโกนว่า “รับๆ” พร้อมตะโกนว่า “สมคิด”

ผู้สื่อข่าวมติชน รายงานเพิ่มว่า ภายในงานยังพบ ปองพล อดิเรกสาร พร้อมลูกชายคือ ปรพล อดิเรกสาร มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ ยังมี นวกิจ พลวิเศษ บุตรชาย ภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net