แอมเนสตี้ฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันกรณี 'นิว' แต่งชุดไทยทำกิจกรรมเสียดสีโดยสงบไม่ควรต้องติดคุก การใช้ ม.112 ต่อกรณีนี้เป็นเรื่องน่ากังวลต่อทิศทางการใช้กฎหมายของไทย ที่ตอนนี้ก็มีสถิติสูงเป็นประวัติการณ์
13 ก.ย.2565 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยออกแถลงการณ์ต่อกรณีศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาจำคุก จตุพร แซ่อึง (นิว) เป็นเวลา 2 ปีจากการสวมชุดไทยเข้าร่วมกิจกรรมจำลองการเดินแฟชั่นโชว์เมื่อเดือนตุลาคม 2563
ไคลด์ วอร์ด รองเลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการเสียดสีการเมืองไทยและจัดขึ้นโดยสงบ ไม่ต่างจากงานเทศกาลตามท้องถนนทั่วๆ ไปที่มีการแสดงดนตรี ออกร้านขายอาหาร และการเต้นรำ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวไม่ควรต้องถูกตัดสินลงโทษ เพียงเพราะการมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มกันโดยสงบเช่นนี้
“คำพิพากษาในคดีนี้ นับเป็นการตัดสินลงโทษในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นคดีที่ 10 ตั้งแต่ปี 2564 การตัดสินลงโทษครั้งนี้เป็นปฐมบทอันน่ากลัวของทิศทางการบังคับใช้กฎหมายในอนาคตอันใกล้ ตั้งแต่การชุมนุมโดยสงบเป็นส่วนใหญ่ที่เริ่มขึ้นในปี 2563 มีนักกิจกรรมและผู้ชุมนุม 210 คนถูกฟ้องดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งนับเป็นจำนวนที่สูงเป็นประวัติการณ์”
“แม้ว่ารัฐไทยมีหน้าที่ในการคุ้มครองการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินคดีอาญากับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่อง โดยหลายรายเป็นเยาวชนหรือแม้แต่เด็ก พวกเขาควรมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนในการสร้างประโยชน์แก่สังคม โดยไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงในการถูกจำคุกและถูกบันทึกประวัติอาชญากรรมอย่างไม่เป็นธรรม”
ไคลระบุถึงข้อเรียกร้องต่อทางการไทยว่า เจ้าหน้าที่รัฐยุติการดำเนินคดีทั้งหมดต่อบุคคลผู้เพียงใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบโดยทันที พร้อมปล่อยตัวบุคคลที่ถูกคุมขังอย่างไม่ชอบธรรม
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)