Skip to main content
sharethis

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "อุกฤษฏ์ ทะลุราม" 5 ปี 30 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีม.112 จากเหตุแชร์ข้อมูลผิดเรื่องอาการประชวรของ ร.10 และเรื่องเกี่ยวกับสถาบันฯ รวม 5 โพสต์ รอผลประกันชั้นอุทธรณ์

21 ธ.ค.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้ที่ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีของอุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล หรือ “ก้อง” สมาชิกกลุ่มทะลุราม ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์และมาตรา 14 ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการแชร์ข่าวเรื่องรัชกาลที่ 10 ทรงพระประชวรและเรื่องอื่นๆ รวม 5 โพสต์

ศูนย์ทนายความฯ เคยรายงานถึงข้อความทั้ง 5 โพสต์ที่พนักงานสอบสวนนำมาแจ้งข้อกล่าวหาว่า 2 ข้อความแรกพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แจ้งตั้งแต่การจับกุมครั้งแรกโดยทั้ง 2 โพสต์เป็นเรื่องการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จำนวน 2โพสต์ เป็นการทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ

ต่อมาพนักงานสอบสวนของ บก.ปอท.เรียกอุกฤษฏ์เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกครั้ง ครั้งนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 3 โพสต์ ที่มีเนื้อหาดังนี้

1. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2563 เวลา 11.49 น. โพสต์ข้อความว่า “วันที่ 6 กันยายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านการคอร์รัปชั่นและนี่คือบุคคลคอร์รัปชั่นประจำปีนี้นะครับ” พร้อมภาพปฏิเสธการรับธนบัตรและพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10

2. เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2563 เวลา 11.26 น. โพสต์ข้อความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวเนื่องในวันแม่ โดยมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 9, พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง และ รัชกาลที่ 10 ขณะทรงพระเยาว์

3. เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2564 เวลา 16.52 น. โพสต์ข้อความเกี่ยวกับอาการประชวรด้วยโรคโควิด-19 ของพระราชินีสุทิดา ประกอบภาพพระบรมฉายาลักษณ์

เบื้องต้นอุกฤษฏ์เคยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาไว้ในชั้นสอบสวน แต่กลับคำให้การเป็นรับสารภาพก่อนเริ่มสืบพยานศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า ศาลมีคำพิพากษาโดยสรุปได้ว่า อุกฤษฏ์ทำความผิดรวมทั้งหมด 5 กรรม แต่เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษสูงสุดคือ มาตรา 112 โดยศาลให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษเหลือกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมโทษจำคุกเป็น 5 ปี 30 เดือน(ประมาณ 7 ปี 6 เดือน) และเห็นว่าการกระทำของอุกฤษฏ์เป็นการกระทำร้ายแรงทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียจึงไม่รอการลงโทษ

อย่างไรก็ตาม หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวอุกฤษฏ์ระหว่างอุทธรณ์คดีเพื่อขอศาลรอการลงโทษหรือลดโทษให้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลคำสั่งจากศาล

นอกจากคดีนี้แล้วอุกฤษฏ์ยังมีอีกคดีที่ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล กล่าวหาว่าอุกฤษฏ์กระทำความผิดตามมาตรา 112 จากการแชร์โพสต์เกี่ยวกับการประท้วงกษัตริย์ไทยในเยอรมันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดยคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลจังหวัดสมุทรปราการและอุกฤษฏ์รับสารภาพแล้วเช่นกัน ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 16 ก.พ.2566

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net