Skip to main content
sharethis

รังสิมันต์ โรม คือ Man of the Match ในการอภิปราย“ไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ” โดยไฮไลต์อยู่ที่การชำแหละทุนพม่าสีดำ พ่อค้ายาเสพติด คนสนิทมินอ่องไหล่ โยงใยส.ว.ตู่ตั้ง ให้เช่าที่ตั้งพรรคตู่

“เช่าถูกกฎหมาย” ธนกรดิ้นพล่าน ใช้ตรรกะ IO ย้อนพรรคอนาคตใหม่เช่าตึกไทยซัมมิท บิดเบนทั้งที่เขาไม่มีอำนาจไม่เหมือนหัวหน้ารัฐประหาร ตั้ง ส.ว.พัวพันธุรกิจสีเทาชายแดน พอเรื่องแดง ตำรวจออกหมายจับก็ถอนหมายจับ ตำรวจที่จับพ่อค้ายา โดนเด้งจากนครบาลไปบ้านเดื่อ

ในไฮไลต์ยังมีไคลแม็กซ์ โรมเปิดโปงทุนจีนสีเทา เหิมเกริมบังอาจ แอบอ้างเบื้องสูง เห็นข้อมูลหลักฐานแล้วตกใจ มันเอาไปใช้อ้างหลอกคนจีนถึงขนาดนี้ รัฐบาล ทหาร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ไม่มีใครรู้เลยหรือไง

ทีเด็กอายุ 14 โพสต์เฟซบุ๊ก โดนแจ้งจับ 112 ทุนจีนพิมพ์เป็นหนังสือ ไม่ยักมีใครสนใจ

แน่ละ ข้อมูลนี้มาจากชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่กำลังแฉทุนจีนสีเทา ตำรวจสีดำ แต่ถ้าไม่ใช่รังสิมันต์ โรม ผู้กล้าหาญ ก็คงไม่มีพลัง ขนาดนี้

ฝ่ายอนุรักษนิยมควรตระหนัก และชื่นชมโฆษกพรรคก้าวไกล พรรคที่มีนโยบายแก้ 112 กล้าตีแผ่ข้อมูลการแอบอ้าง เพื่อปกป้องสถาบัน พวกจงรักภักดีแต่ปากต่างหาก ไม่มีความกล้า มีแต่ใช้เล่นงานทางการเมือง

มองให้กว้างกว่าเรื่องนี้ ก็มีมุมชวนขัน ว่าที่จริง พรรคก้าวไกลนี่แหละคือ “พรรคการเมืองในฝันของคนชั้นกลางอนุรักษนิยม” คนรุ่นใหม่ มีการศึกษา ไม่ซื้อเสียง โดดเด่นในสภา ยังกะยกพรรคการเมืองยุโรปมาตั้งที่ประเทศไทย

ลองนึกถึงพรรคการเมืองใหม่ ที่พันธมิตรตั้ง ก็หวังจะเป็นอย่างนี้แหละ แต่ได้คะแนนขี้ปะติ๋ว ลองนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 30-40 ปีก่อนก็เป็นขวัญใจคนกรุง สุดท้ายดีแต่พูด

ก้าวไกลคุณสมบัติครบถ้วน แต่มันดันเป็นลิเบอรัล! มันเป็นพวกหัวแข็ง พวกชังชาติ จะแก้ 112 อภิปรายงบสถาบัน จะปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปศาล ยุบ กอ.รมน. หนุนม็อบสามนิ้ว เป็นนายประกัน 112 ฯลฯ

พวกอนุรักษนิยมสวัสดีวันจันทร์จึงคลั่ง ยิ่งชังยิ่งเกลียดพรรคลิเบอรัลทำในสิ่งที่พรรคฝ่ายขวาทำไม่ได้ ไม่ซื้อเสียงแต่ได้คะแนนนิยมเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่พรรคอุดมการณ์นกหวีดต้องพึ่งเสี่ยเฮียเสธ. พรรคที่ปกป้อง 112 คนชั้นกลางชาวกรุงก็เคยมองเป็นนักการเมืองยี้

ที่สำคัญ คนชั้นกลางรุ่นใหม่ รุ่นลูกรุ่นหลาน กลายเป็นติ่งก้าวไกลซะเยอะแล้ว ดูง่ายๆ เงินบริจาคภาษี จากคนเงินเดือน 2 หมื่นกว่าขึ้นไป ก้าวไกลทิ้งห่างประชาธิปัตย์ 4-5 เท่า

ส่วนเด็กจบใหม่ นักเรียนนักศึกษา ม็อบคนรุ่นใหม่ก็มาจากยุบพรรคอนาคตใหม่นั่นไง ผุดทุกมหาวิทยาลัย โรงเรียน ก่อนจะกลายเป็นสามนิ้ว

ทำไมต้องเน้นคนชั้นกลาง แบ่งแยกชนชั้น เห็นคนไม่เท่ากันหรือไง

หนึ่งคนหนึ่งเสียง เท่ากันอยู่แล้ว แต่คนชั้นกลางมีอิทธิพลทางความคิด วัฒนธรรม การสื่อสาร ข้อสำคัญคือคนชั้นกลางในเมืองนี่แหละ เป็นฐานอำนาจอนุรักษนิยม ออกบัตรเชิญรัฐประหาร 2 ครั้งหลัง ยึดทำเนียบยึดสนามบินปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งคนชั้นกลางในเมืองเสียงดัง ทั้งที่เป็นเสียงข้างน้อย

แต่ตอนนี้ เหลือน้อยแล้ว น้อยลงๆ เพราะคนรุ่นใหม่เทไปก้าวไกล

พูดอย่างนี้ไม่ใช่แบ่งแยกเมืองชนบท ก้าวไกลชั้นกลาง เพื่อไทยชั้นล่าง เพราะคนชั้นกลาง นักธุรกิจ นิยมเพื่อไทยก็มีกว้างขวางคนรุ่นใหม่ในชนบท เลือกก้าวไกลไม่น้อยเช่นกัน คนสมัยนี้อยู่กลางทุ่งก็รู้ข้อมูลข่าวสารออนไลน์มากกว่าคนกรุงอิกนอแรนซ์

แต่ที่ย้ำคือ คนชั้นกลางที่เคยเป่าปี๊ดๆ เรียกรัฐประหาร เคยเป็นฐานอำนาจศรัทธา เหลือน้อยลงๆ ลูกหลานตัวเองกลายเป็นติ่งส้ม ไม่นับคนย้ายข้างอย่างพันธมิตรสาย NGO

แน่ละ พรรคก้าวไกลยังไม่ชนะเลือกตั้ง ตราบใดที่เป็นขวัญใจคนชั้นกลาง ไม่ถนัดงานพื้นที่ ไม่มีฐานบ้านใหญ่ ก็ได้แค่คะแนนในเมืองและปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งถูกทอนลงไปอีกจากสูตร “หารร้อย”

แต่ก้าวไกลก็ “ฝังเชื้อ” แบบสมัยหน้าขอได้ 30 บวกลบสมัยโน้นสามารถปะทุอีกที

แม้การหาเสียงช่วงนี้ “สับสนตัวเอง” อยู่บ้าง คือพยายามจะเป็นพรรค Mass ทั้งที่เป็นพรรค Niche การหาเสียงด้วยนโยบาย เป็นรัฐบาลแล้วจะทำอะไร จำเป็นต้องมี เพื่อประชาชนให้เห็นว่าพร้อมเป็นรัฐบาล แต่ในความเป็นจริงนั่นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ได้รับเลือก ผู้สมัครก้าวไกลต้องหาเสียงจากความแหลมคมท้าทายที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง

เช่น ไม่ต้องไหว้พระ 7 วัด ไม่ทำให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นก้าวไกลได้คะแนนจากการอภิปรายงบจัดซื้อพัดยศต่างหาก

ก้าวไกลไม่ได้สมบูรณ์ ยังมีจุดอ่อนอยู่มาก แต่เลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลเป็นสัญลักษณ์ ของหลายๆ อย่างรวมกัน ทั้งความต้องการ “การเมืองใหม่ใสสะอาด” ตัวแทน “คนรุ่นใหม่”(เห็นส.ส.ก้าวไกลอภิปรายแล้วรู้สึกเหมือนเพื่อนตัวเองเข้าไปอยู่ในสภา) ไปจนความต้องการแก้ 112 ความต้องการเปลี่ยนแปลงมากกว่าชนะเลือกตั้ง ปฏิรูปให้ถึงโครงสร้าง ปฏิวัติความคิดค่านิยม วัฒนธรรม

เป้าการเลือกตั้งครั้งนี้คือ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ก้าวไกลทะลุเพดาน” แล้วถ้าคะแนนคนชั้นกลางในเมืองเทไปที่ฝ่ายค้านเหมือนชัชชาติชนะผู้ว่า

อำนาจอนุรักษ์ควรตระหนักว่า “ขาลอย”

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7516717

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net