Skip to main content
sharethis

วงเสวนารวมพลคนเดือดร้อนค่าไฟ  ชำแหละสูตรคำนวณค่าไฟผลักภาระประชาชน ทำให้นายทุนรวย ทำให้ไทยแชมป์ค่าไฟแพงที่สุดในอาเซียน ชี้การสำรองไฟฟ้าล้นเกินประชาชนต้องจ่ายปีละห้าหมื่นล้าน หวังพรรคการเมืองไม่รับราคาทิพย์ แนะเปลี่ยนเป็นปิโตเลียมเป็นของปวงชน 

19 ก.พ. 2566 สภาที่สาม-The Third Council Speaks แจ้งข่าวว่าได้เปิดเวทีเสวนา ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว หัวข้อ “รวมพลคนเดือดร้อนค่าไฟ หยุดขึ้นค่าไฟฟ้า” โดยวิทยากร ประกอบด้วย นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโคภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ ๓๕ , ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการด้านพลังงาน, พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี นักวิชาการด้านพลังงาน ร่วมเสวนา

โดยนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโคภาส ได้กล่าวถึงท่อส่งก๊าซ และปัญหาที่ทำให้ราคาทรัพยากรขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ช่วงหนึ่งได้กล่าวว่า “ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการที่ไม่เป็นธรรม เชื่อว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่รัฐบาลควรจะแก้ไขได้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว” และได้อธิบายเรื่องของความเป็นมาจองบริษัทสำรวจปิโตรเลียม ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีการผูกขาดท่อส่งก๊าซในทะเล

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กล่าวถึงเรื่องค่าไฟว่า ท่อผ่านก๊าซเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้ค่าไฟแพง แต่ถามว่าทำไมเราต้องจ่ายเพราะเป็นสมบัติสาธารณะ อยู่บนบกเป็นสมบัติสาธารณะ แต่พอลงทะเลกลับไม่ใช มันเป็นเรื่องตลกมากที่สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน อยู่บนบกเป็นของสาธารณะแต่พอลงทะเลกลับเป็นอื่น” ซ้ำยังกล่าวย้อนไปถึงสมัยนายกฯ ชวน ที่ทำการแต่งตั้งบางคน ไปเป็นประธานในการประชุมเรื่องท่อก๊าซกับปิโตรเลียม แต่สุดท้ายได้กลายเป็น บริษัท จึงเกิดเป็นคำถามเรื่องผลประโยชน์ตอบแทน ที่ประชาชนเสียประโยชน์ ประเทศไทยเป็นแชมป์เรื่องค่าไฟแพงที่สุดในอาเซียน ไม่นับรวมสิงคโปร 

ม.ล.กรกสิวัฒน์ ยังได้อธิบายถึงการผลิตไฟฟ้าที่แม้ว่าประชาชนไม่ได้มีความต้องการใช้และโรงงานผลิตไฟฟ้าไม่ได้ผลิต แต่ประชาชนยังคงต้องจ่ายส่วนต่างตรงนั้นโดยไม่จำเป็น “เรื่องไฟฟ้าจะมีประชาชนจนแน่นอน และกลุ่มนายทุนรวยแน่นอน เพราะสูตรของค่าไฟ เป็นสูตรที่ผลักภาระให้ประชาชน” คำว่าปิโตเลียมเป็นของรัฐฯรัฐฯอาจจะเป็นรัฐบาล อยากให้เปลี่ยนเป็นปิโตเลียมเป็นของปวงชน เหมือนกับหลายประเทศในอาเซียน และต้องบริหารเพื่อประโยชน์ ทั้งยังบอกข้อได้เปรียบของไทยที่มีก๊าซเปียกที่เป็นทรัพยากรที่สาสารถทำได้หลายอย่าง แต่รัฐบาลนี้กลับมีกฏหมายสมมติ สมมติว่าประเทศไทยไม่มีก๊าซและต้องรับจากประเทศอื่น ทำให้ค่าก๊าซแพงทะลุเกินประเทศเพื่อนบ้าน และทิ้งท้ายว่า “ทำไมไม่จัดการทรัพยากรที่เป็นของเรา ให้เป็นของเราสักที”

พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ได้กล่าวถึงการบริษัท PTTP ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ในการมีคิดค่าต่างๆตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อยากให้ไปดูเรื่องของกำไรผลประกอบการของตลาดทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่กฝพ. บอกว่าเขาขาดทุนเขาต้องขึ้นค่าไฟจากประชาชน แต่เขาได้กำไรว่าหลายหมื่นกว่าล้าน และได้เล่าเรื่องราวของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ที่ตอนแรกเป็นของเอกชน และถูกเปลี่ยนให้เป็นของรัฐฯ ช่วงหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า “เศรษฐกิจของชาติ ของชาติใคร หรือของตระกูลไหน” แก๊สในอ่าวไทยได้เป็นอันดับ 2 รองจากอเมริกา ควรจะเป็นของไทย แต่ทุกรัฐบาลกลับยกทรัพยากรให้กับบริษัทสำรวจและผลิต แล้วกินกำไรส่วนต่าง 5-10% เท่านั้น ไม่เหลือกำไรใดๆให้ประชาชน ราวกับปล้นประชาชนซึ่งหน้า 

พท.พญ.กมลพรรณ กล่าวต่อว่า รวมถึงการสำรองไฟฟ้าเกินที่ประชาชนต้องจ่ายปีละห้าหมื่นล้าน มั่วแต่กลัวบริษัทเอกชนเจ๋ง กลัวลูกหลานตนไม่ได้ผลประโยชน์ และปล้นประชาชน นี้คือสิ่งที่รัฐบาลกระทำ “ทรัพย์ในดินควรเป็นของประชาชน” และกล่าวถึงการบริหารของรัฐบาลที่มาจากทหารที่ไม่เอื้อต่อประชาชน “คุณเอาภาระนี้ให้กับประชาน ค่าไฟ ค่าแก๊ส ปล้นประชาชนซึ่งหน้า” สุดท้ายได้ฝากถึงนักการเมืองที่อยากจะให้ทำดีสักครั้งต่อแผ่นดิ

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์  กล่าว ในฐานะที่เป็นผู้สูญเสียและญาติโดยตรงจากเหตุการณ์พฤษภา 35 กลุ่มญาติวีรชนมีกฏข้อหนึ่งคือ เราต้องเคารพความเห็น เน้นย้ำว่า “การต่อสู้ของท่านถูกต้องแล้ว และอย่ายอมแพ้…การต่อสู้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ทำเพื่อประชาชน นี้คือสิ่งที่นายทุนไม่มี” ประโยคหนึ่งที่ได้รับเสียงปรกมืออย่างน่ายกย่อง “ไม่ว่าใครก็ซื้อเราไม่ได้ เพราะเรามีประชาชนในหัวใจ” และขอให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่วิทยากรมาพูดในวันนี้ จะเป็นสิ่งที่ฟ้องร้องกันไปในอนาคต และได้กล่าวเสริมในสิ่งที่หม่อมกร (ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี) พูด ทั้งเรื่องค่าไฟ ท่อก๊าซ และสิ่งต่างๆมันพังเพราะ นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

“ผมไม่อยากพูดชื่อนายกฯประยุทธ์ดัวยซ้ำ มันเป็นเสนียดปาก เพราะการบริหารจัดการที่ย่ำแย่ มันเลวที่รัฐบาลและผู้นำหนุนนายทุนเพียงอย่างเดียว  ต้องการให้รัฐฯมองให้เห็นว่าประโยชน์ที่จะได้ในด้านทรัพยากรควรเป็นของประชาชน ไม่ควรเป็นของนายทุน และได้บอกว่าทุกคนในประเทศได้ผลกระทบกับการขึ้นค่าไฟกันหมด หวังว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง จะรับนโยบายของหม่อมกร ว่าจะไม่รับราคาทิพย์ ราคาสมมติของค่าไฟ และเราจะให้กำลังใจกัน ความเจ็บปวดต้องอดทน และจะประสบความสำเร็จ ขอให้กำลังใจ” นายอดุลย์ กล่าว 

คุณสมบูรณ์ สมบูรณ์ อดีต ส.ส.ยโสธร  กล่าวว่า ได้กล่าวถึงการอยู่บ้านนายกฯแบบผิดกฏหมาย การเสียภาษีเงินได้ ได้ตั้งคำถามว่านายกฯเป็นมนุษย์ประหลาด บ้านนายกฯกินฟรี อยู่ฟรี ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ต้องจ่าย “อย่าคิดว่าเป็นพลเอกแล้วจะฉลาด ยกตัวอย่างเช่น พลเอกประเทศไทย” และยังกล่าวถึงระบบเกื้อหนุนที่ หลานนายกฯได้รับโครงการทุบตึกราคาแพงเป็นเจ้าแรก เพราะใช้เส้นสาย หลานนายกฯบีบผู้ว่า ให้งานกับหลานนายกฯหน้างาน และได้กล่าวชมถึงสุรต่านบรูไน ที่ราคาน้ำมัน 8 บาทเท่านั้น และได้แบ่งให้ประชาชนทุกคนเท่ากัน “ถ้าเราได้น้ำมัน ได้ก๊าซ และได้นายกฯ ที่มาบริหารอย่างมีคุณธรรม หรือได้ประธานบริหารที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นด็อกเตอร์ก็ได้ หรือเป็นพลเอกก็ได้ เป็นหม่อมกร หมอกลมพรรณ ก็ยิ่งดี เพราะเขาเชียวชาญเรื่องนี้” 

ช่วงหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมฟังงานเสวนาได้ขึ้นพูดบนเวที พูดเข้าร่วมท่านแรกได้กล่าวว่า “ผมใช้ไฟฟ้าประหยัดแล้ว แต่ผมกลับโดนกล่าวหาว่าใช้ไฟเปลือง เพราะราคาขึ้น…ต้องยกเลิกสัมปทานอเมริกา…ต้องมีรัฐสวัสดิการ ทวงคืน ปตท.” นอกจากนี้ยังมีผู้เข้าร่วมขึ้นมาพูดว่าตนได้รับผลกระทบอย่างไร รวมถึงการเสนอวิธีการแก้ปัญหา บางคนยังฝากความหวังถึงการเลือกตั้งว่าจะสามารถเปลี่ยนเสาหลักได้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net