'ประจักษ์-ปริญญา' ชง 4 ข้อเสนอให้ ส.ว.เคารพเจตนารมณ์ของประชาชนใน #เลือกตั้ง66 เรียกให้ ส.ว. มาลงสัตยาบัน แยกให้ ส.ส.โหวตก่อนเพื่อเช็คเสียงข้างมากแล้วให้ ส.ว.โหวตตาม รวมทั้งทำมติออนไลน์คู่ขนานเพื่อส่งเสียงถึง ส.ว.

จากกรณีข้อกังวลการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ ส.ว. 250 คน ยังมีสิทธิร่วมโหวตนายกฯ อยู่นั้น คิดเป็นสัดส่วน 33% ของสภาฯ โดยเมื่อครั้งปี 62 ส.ว.ก็ทำสถิติไม่แตกแถว 249 เสียง โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ มีเพียง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ส.ว. ซึ่งทำหน้าที่รองประธานรัฐสภาเท่านั้นที่งดออกเสียง 

ในวงเสวนาหัวข้อ 'ประเทศไทยหลังการเลือกตั้งทางออกสู่ประชาธิปไตย' เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา จากห้องริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจักษ์ ก้องกีรติ นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ข้อเสนอ 2 ข้อเสนอให้ ส.ว.เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน

1. ก่อนเลือกตั้ง ประชาชนทำแคมเปญล่ารายชื่อให้ ส.ว.เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน และให้ ส.ว.มาลงชื่อว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ไหม

2. แยกโหวตระหว่าง ส.ส. กับ ส.ว. ป้องกัน ส.ว.อ้างไม่รู้ใครได้เสียงข้างมาก โดยวันโหวตนายกฯ ให้ ส.ส.โหวตก่อน เมื่อใครได้เสียง ส.ส.เกิน 250 เสียง ก็ถือว่าได้เสียงข้างมาก และให้ ส.ว.โหวตตาม 

ปริญญา เทวานฤมิตรกุล จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ว่าการโหวตแยกแบบที่ประจักษ์เสนอนั้นต้องเปลี่ยนข้อบังคับการประชุม ซึ่งก็ต้องอาศัยเสียงข้างมากของทั้ง 2 สภา ดังนั้นหาก ส.ว.ไม่ยอม ก็อาจไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้ 

ดังนั้น ปริญญา เสนอว่า สำหรับ ส.ว. หากไม่มั่นใจว่าเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่เลือกใคร ในรอบแรกที่โหวตร่วม ส.ว.อาจงดออกเสียงโหวตก่อนได้ หากเสียง ส.ส.ยังไม่ถึง 376 เสียง รอบ 2 ส.ว.ก็ต้องโหวตตามฝ่ายที่ได้เสียงข้างมาก

ปริญญา ยังเสนอว่า ระหว่างหาเสียงทุกพรรคต้องประกาศเป็นนายกฯโดยไม่อาศัยเสียง ส.ว. และใช้การทำมติออนไลน์โดยชวนสถาบันการศึกษาและสื่อมวลชนมาร่วมเป็นช่องทางให้ประชาชนแสดงมติเรื่อง ส.ว.ให้โหวตตาม ส.ส.