พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเล่าวีรกรรมยืนเคารพเพลงเสริญคนเดียวในโรงหนัง พร้อมโพสต์ภาพรณรงค์ โอดคนหนุ่มสาวพกความอกตัญญูรู้คุณมาดูหนัง มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นยืนยันว่าตนเองจะยืนเช่นกัน รวมทั้งแชร์ประสบการณ์การยืนคนเดียวในโรงหนังด้วย บางความเห็นบอกคนไม่ยืนเป็นพวกใจบอดเพราะคนมีบุญมีบาปจะมาให้เท่ากันได้อย่างไร

3 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 พ.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพที่มีข้อความ "แม้เหลือคนเดียวทั้งโรงเราก็จะยืน" พร้อมบอกเล่าว่า ตนยืนถวายความเคารพ คนเดียวในโรงหนัง จริงๆ ระบุว่า วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนไปดูหนัง จอห์น วิค 4 หลังจากที่ดูเรื่องสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อน โฟร์เซ่น 2 ไปดูเพราะได้รับเชิญให้ไปดูในรอบพิเศษ

เขาเล่าด้วยว่าหลังฉายตัวอย่างหนังและโฆษณาก่อนหนังเรื่องจะเริ่มภาพบนจอขึ้นข้อความโปรดยืนถวายความเคารพโดยพร้อมเพรียงกัน เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น ตนลุกขึ้นยืนถวายความเคารพ แต่คนข้างหน้า ข้างหลัง ข้างๆ ผม กลับนั่งดูโทรศัพท์เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว ทั้งมาเดี่ยวและมาคู่ พกความอกตัญญูรู้คุณมาดูหนัง อย่างเต็มที่

"เยาวชนคนหนุ่มสาว ที่ไร้สติปัญญา ไร้การศึกษา ไร้ความเป็นตัวของตัวเอง ไร้ความคิดและอนาคตที่ดี" ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวระบุ พร้อมต่อว่าคนเหล่านี้พ่อแม่สั่งสอนไม่ได้ ถูกปลูกฝังล้างสมองให้เนรคุณ

"คุณไม่เคารพผู้อื่น ผู้อื่นย่อมไม่เคารพคุณ ผมอยากจะตะโกน ร้องบอกให้เขายืน แต่ผมจะไม่ไร้มารยาทกับสถานที่นั้นๆ ความกลัวกับผมเป็นเพื่อนกัน นานแล้ว เลิกพูดถึง" ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวระบุ พร้อมให้ข้อมูลว่าเป็นวันที่ 4 เม.ย.2566 ตนยืนถวายความเคารพ คนเดียวในโรงหนังจริงๆ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวใช้ตัวเลขไทยในการสื่อสารทั้งหมด

ตัวอย่างผู้เข้าไปแสดงความเห็นสนับสนุน

ขณะที่มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นยืนยันว่าตนเองจะยืนเช่นกัน รวมทั้งแชร์ประสบการณ์การยืนคนเดียวในโรงหนังด้วย

สำหรับแคมเปญ "แม้เหลือคนเดียว ก็จะยืน" ก่อนหน้านี้เมื่อ ต.ค.2564  'นักเรียนดี' ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมโพสต์รณรงค์ แม้เหลือคนเดียวทั้งโรงเราก็จะยืน ถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี มาก่อนท่ามกลางกระแสคนไม่ยืนจำนวนมาก ทั้งที่หลายปีก่อนมีการโพสต์ข่มขู่ผู้ที่ไม่ยืน จนถึงการต่อว่าและดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไม่ยืนแสดงความเคารพในระหว่างเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี ในโรงหนัง ในปี 50 ด้วย แม้ต่อมาคดีดังกล่าวอัยการมีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ฟ้องโดยระบุว่าแม้ป็นกิริยาที่ไม่อยู่ในบรรทัดฐานที่ประชาชนทั่วไปต้องปฏิบัติ แต่ไม่อาจชี้ชัดได้ว่ามีเจตนาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

ในโอกาสนี้ประชาไทจึงขอย้อนดูที่มาและการยืนถวายความเคารพก่อนหนังฉายดังนี้