Skip to main content
sharethis

ศาลอาญาสั่งจำคุก 3 ปี 18 เดือน 'เวหา' คดี ม.112 ปมทวีตข้อความเรื่อง 'คุกวังทวีวัฒนา' และ 'แอร์ไม่เย็น' รอลุ้นผลประกันตัวชั้นอุทธรณ์คาด 2-3 วัน ระหว่างนี้จะถูกคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

 

18 พ.ค. 2566 เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (18 พ.ค.) ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีของเวหา แสนชนชนะศึก นักกิจกรรมวัย 39 ปี ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) กรณีใช้บัญชีทวิตเตอร์ "ฟ้าฝน ver.เกรี้ยวกราด" ทวีตข้อความเล่าประสบการณ์การถูกคุมขังในคุกเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล เขตทวีวัฒนา หรือ #คุกวังทวี และทวีตข้อความจนเกิดกระแสใน #แอร์ไม่เย็น บนทวิตเตอร์ เมื่อช่วงปี 2564 

เวหา แสนชนชนะศึก (ที่มา: iLaw TH)

ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ฝ่ายคดีอาญา 3 ได้ยื่นฟ้องคดีในข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)  ต่อมาศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเดิมที่เคยใช้ในชั้นสอบสอน

คำฟ้องบรรยายโดยสรุปว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อ “lll ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด” ซึ่งพบว่าเป็นของจำเลย ได้ทำการหมิ่นประมาทหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยจำเลยได้พิมพ์และโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคม 2564 รวมทั้งหมดแยกเป็น 3 กระทง

เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 712 เวหาและครอบครัวได้เดินทางมาถึงศาล โดยมีนักกิจกรรมมาสังเกตการณ์ด้วยจำนวนหนึ่ง

ต่อมา เวลา 10.56 น. ศาลขึ้นพิจารณาคดี โดยเรียกให้จำเลยลุกขึ้นยืนรายงานตัวเพื่อฟังคำพิพากษา คำพิพากษาโดยสรุปว่า ศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทั้ง 3 กระทงตามฟ้องในตัวบทกฎหมายที่โทษหนักที่สุดคือมาตรา 112 ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี 

แม้ศาลจะเห็นว่าจำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน แต่การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดร้ายแรง สร้างความเข้าใจผิดให้แก่ประชาชน และทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติ อันทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ จำเลยให้การรับสารภาพ จึงสมควรลดโทษเหลือกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ทั้งนี้ ในระหว่างการอ่านคำพิพากษา ศาลได้ชี้แจงต่อหน้าจำเลยว่า รายงานการสืบเสาะของพนักงานคุมประพฤติได้ระบุรายงานการวินิจฉัยโรคของจำเลยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ได้เป็นโรคความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ (PTSD) ซึ่งในคำร้องที่รับสารภาพ จำเลยได้ขอให้ศาลสืบเสาะโรค PTSD จากแพทย์ 

อย่างไรก็ตาม เวหา ชี้แจงยืนยันว่า ตนเองเป็นโรค PTSD จริง โดยมีใบรับรองแพทย์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจำเลยได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติที่ทำรายงานการสืบเสาะไปแล้ว และไม่ทราบว่าทำไมรายงานทางการแพทย์ที่ศาลได้รับ จึงลงความเห็นว่าจำเลยไม่ได้ป่วยตามที่เคยได้ไปตรวจจริง 

ศาลแจ้งว่า หากจำเลยยืนยันเรื่องดังกล่าว ขอให้ทำคำร้องขออุทธรณ์ในภายหลังได้ โดยวันนี้ให้ไปทำเรื่องประกันตัวก่อน ซึ่งประชาชนที่เข้าร่วมฟังพิจารณาคดี ได้ลุกขึ้นร้องขอให้ศาลทำการเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป และขอให้ศาลสั่งให้สืบเสาะเพิ่มเติมอีกครั้ง

ทั้งนี้ ประชาชนหญิงรายหนึ่งได้ยกมือขอแถลงต่อศาล โดยกล่าวว่าตนเองเป็นนักจิตวิทยา และพยายามอธิบายว่าโรคซึมเศร้าและ PTSD เป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาโดยตัวยาเดียวกัน

แต่ศาลแจ้งว่าจะอ่านคำพิพากษาให้เสร็จภายในวันนี้ และได้ตัดสินโทษแล้วว่าจะไม่มีการรอการลงโทษ โดยเห็นว่าหากเวหาได้กล่าวตามที่เขาได้ชี้แจงจริงให้ไปทำคำร้องขออุทธรณ์คดีและแนบใบรับรองแพทย์ในภายหลังได้  ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวเวหาลงไปที่ห้องขัง ใต้ถุนศาล ส่วนนายประกันได้ยื่นขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี

ต่อมาเวลา 16.07 น. ศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอประกันให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา โดยจะใช้ระยะเวลา 2-3 วัน จึงจะทราบผล ทำให้ในวันนี้เวหาจะต้องถูกควบคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศูนย์ทนายความฯ และสื่ออิสระ ภราดร เกตุเผือก เผยเมื่อ 20 พ.ค. 2566 ระบุว่าคดีมาตรา 112 ของเวหา แสนชนชนะศึก ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัว โดยระบุเหตุผลว่าศาลชั้นต้นลงโทษสูง หากปล่อยตัวผู้ต้องหา อาจมีเหตุให้หลบหนี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net