'แพทองธาร' ย้ำไทม์ไลน์ 'ทักษิณ' กลับไทยแน่ในเดือน ก.ค. 2566 แต่ยังไม่ระบุวัน ส่วนตัวอยากไปรับ ส่วนการตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล มอบพรรคคุย แต่ยินดีร้องเพลงขอให้เหมือนเดิมกับ 'พิธา'

แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2566 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันไหนว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าวันไหน เมื่อทราบจะบอกกับสื่อมวลชนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ จะเป็นในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยืนยันว่าจะเป็นเดือนกรกฎาคม แต่ยังไม่ระบุวันที่ หรือวันไหน แต่จะเดินทางมาโดยเครื่องบิน

เมื่อถามว่าจะไปรับด้วยตนเองหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จะไปรับดีไหม พร้อมย้ำว่าถ้าถามในฐานะของลูกก็อยากไปรับด้วยตนเอง ไม่อยากรอรับที่นี่ จะได้กลับมาพร้อมกัน ถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ

เมื่อถามย้ำว่าเส้นทางเดือนกรกฎาคมนี้สดใสแล้วใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ ดังนั้น จะเป็นอย่างไรให้กำลังใจเต็มที่

ส่วนหลังเลือกตั้งตนเองได้พูดคุยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้คุย เพราะเชื่อว่านายพิธางานยุ่งมาก และติดตามข่าวมาโดยตลอด มีความเคลื่อนไหวอย่างไรก็ได้เอาใจช่วย ดังนั้น ในวันนี้เมื่อเจอกับนายพิธาก็ต้องทักทายกัน ส่วนรายละเอียดเรื่องการทำงานคงต้องคุยผ่านทางพรรคดีกว่า จะได้เป็นทางการ ย้ำว่าตนเองรู้จักกับนายพิธามานานแล้ว เมื่อเจอก็ต้องทักทายกันแน่นอน

ทั้งนี้ กรณีนายพิธาเคยออกมาระบุว่าจะร้องเพลงขอให้เหมือนเดิม นางสาวแพทองธารร้องอุทาน “อุ๊ยตาย” และบอกว่าปราศรัยจะง่ายกว่า เพราะเป็นคนเสียงไม่ค่อยดี แต่ถ้าจะให้ร้องเพลงด้วยก็ยินดี

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงการมาร่วมงานเดินขบวนบางกอกไพรด์ 2023 ว่าเป็นการมาแสดงจุดยืนพรรคเพื่อไทยสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ นอกจากเป็นนโยบายของพรรคแล้ว ตนเองสนับสนุนเรื่องนี้ โดยเฉพาะการผลักดันสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าเมื่อเปิดสภาฯ จะผลักดันเรื่องนี้ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ที่รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องผลักดันเป็นเรื่องแรกๆ เพราะความเท่าเทียมทางเพศมีส่วนสำคัญ ไม่ควรเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวกำหนดให้ชีวิตของเราดำเนินได้ไม่เต็มศักยภาพ โดยเรื่องนี้ต้องผลักดันในนามพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้ตกลงเจรจาไปหลายอย่างแล้ว ดังนั้น จะต้องทำร่วมกัน

‘ทักษิณ’ ย้ำ ก.ค. กลับไทยแน่ให้ ‘แพทองธาร’ เป็นคนบอกวัน-เวลา ลั่นยอมติดคุก พ้อแก่แล้วไม่เป็น ‘นายก’ อีก

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2566 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “คุยแหลก แดกดึก” ของ “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดัง โดยย้ำถึงการเดินทางกลับบ้าน ซึ่งกลับมาจะต้องติดคุกว่า ยังไงก็ได้ ยังไงก็กลับ ส่วนจะเป็นเดือน ก.ค.นี้หรือไม่นั้น พูดไปแล้ว ยืนยันไปแล้ว รอ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว เป็นคนบอกว่าวันที่เท่าไร และเวลาเท่าไร เพราะขณะนี้มีหลาน 7 คนแล้ว ถึงเวลาต้องไปเลี้ยงหลานแล้ว พ่อแม่ เป็นวัยต้องไปทำงาน ปู่ย่าตายาย มีหน้าที่เลี้ยงหลาน เพื่อให้พ่อแม่ ได้ทำงานได้เต็มที่

ส่วนจะกลับมาเป็น นายกฯ อีกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า แก่แล้ว หมดสมัย วันนี้เป็นยุคคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่ยุคคนแก่ คนแก่บางทีแนะนำก็อย่าไปบังคับ เพราะเราไม่ทันเด็ก คนแก่แม้เข้าใจเด็ก แต่เข้าใจแบบคนเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทย มันสู้คนโตเมืองนอก ที่รู้ภาษาอังกฤษ แล้วพูดภาษาอังกฤษแตกฉานไม่ได้  ไม่ใช่เอาคนแก่ มาบอกเข้าใจคนรุ่นใหม่ แล้วบอกเข้าใจ แต่เข้าใจไม่ลึกซึ้ง

ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร เคย บอกว่าคุณพ่อแก่แล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า ว่า ใช่ พ่อแก่แล้ว ให้คนรุ่นใหม่เขาคิด เราให้คำแนะนำจากประสบการณ์ ให้ไปมีสติเอาเอง แต่อย่าไปบังคับ สมัยพ่อทำอย่างนี้ ลูกต้องทำอย่างนี้ ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ๊งเลย เพราะมันไม่เหมือนกัน วิธีคิด ภาษาพูด อยากเห็นอนาคตแบบไหนของคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าไม่เหมือนกัน เราประวัติเยอะ อดีตเยอะ อนาคตสั้นจุ๊ดจู๋ คนรุ่นใหม่อดีตน้อย แต่อนาคตยาวนาน เขาจะมองอนาคตเขา ได้ดีกว่าที่เรามอง เพราะอนาคตเรามันสั้น