24 มิ.ย. 2566 เพจสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่านายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังจากการติดตามความคืบหน้าการสอบปากคำชุดสาธิตการดับเพลิงที่เกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิดที่สน.นางเลิ้งว่า มีประชาชนที่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และคิดว่าถังดับเพลิงน่ากลัวนั้น อยากจะสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่าแท้จริงแล้วถังดับเพลิง CO2 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ระเบิดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่โดยหลังจากนี้จะระงับการใช้ถังดับเพลิงชนิด CO2 ไปก่อน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย และไม่ให้ประชาชนเกิดความกังวล
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้นำถังดับเพลิงไปอัดแก๊สก่อนที่จะนำมาสาธิต 2 วัน โดยระหว่างนั้นไม่มีการแตะต้องหรือทำให้เกิดความเสี่ยง และเก็บไว้ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งปกติโรงงานจะมีมาตรฐานในการบรรจุแก๊ส เข้าไปในถังดับเพลิง และมีการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนนำมาใช้ทุกครั้ง หากตรวจพบว่าชำรุดก็จะไม่ส่งมาให้ใช้ และที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดมาก่อน จึงต้องใช้เหตุการณ์อันนี้เป็นกรณีศึกษาต่อไป
สำหรับผู้สาธิตทั้ง 3 คนในที่เกิดเหตุที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชานั้นยังคงอยู่ในอาการเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทุกคนให้ความร่วมมือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี จากนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยทางหน่วยงานต้นสังกัดก็จะให้การช่วยเหลือด้วยการยื่นหลักฐานเอกสารในการประกันตัวทั้ง 3 คน โดยทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่มีใครคิดหนีอย่างแน่นอน และเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2566 เพจกรุงเทพมหานคร รายงานว่าเวลาประมาณ 11.22 น. เกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิดระหว่างซ้อมดับเพลิง มี นร.เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายราย ณ โรงเรียนราชวินิต มัธยม แยกพาณิชย์ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ว่า เบื้องต้นพบนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย นักเรียนบาดเจ็บเล็กน้อย 21 ราย และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกลาง 2 ราย โรงพยาบาลวชิระ 5 ราย นอกนั้นบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้สูญเสีย โดยเบื้องต้นเหตุเกิดจากทางโรงเรียนได้ประสานให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสนมาเป็นวิทยากรในการซ้อมเผชิญเหตุป้องกันอัคคีภัยในโรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกของการฝึกซ้อมของโรงเรียนราชวินิต มัธยม และเป็นสิ่งที่ดีในการให้ความรู้กับนักเรียนและบุคลากร โดยแบ่งการอบรมเป็น 3 รอบเนื่องจากมีนักเรียนจำนวนมาก และใช้ถังดับเพลิง 14 ถังในการซ้อม โดยในรอบที่ 2 เกิดอุบัติเหตุขึ้นเนื่องจากอุปกรณ์ถังดับเพลิงที่วางอยู่ตรงบริเวณลานพระ ซึ่งห่างจากจุดที่เด็กนั่งอยู่ในประมาณ 10 เมตร เกิดระเบิดขึ้นแล้วถังที่ระเบิดพุ่งไปโดนนักเรียนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เนื่องจากบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ถังดับเพลิงดังกล่าวเรียกว่าเป็นถังคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีความดันสูงก็คือ 800-1,200 PSI ขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากถังดับเพลิงเคมีปกติในชุมชนที่มีความดันเพียง 100 PSI แต่เวลาซ้อมดับเพลิงจะใช้ถังแบบคาร์บอนไดออกไซด์เพราะไม่ฟุ้งกระจายมาก ฉีดแล้วจะระเหยทันที ไม่ใช่เป็นสารเคมีที่ปกติฉีดแล้วเป็นควันขาวฟุ้งกระจายเต็มไปหมดซึ่งถังดังกล่าวต้องให้พนักงานสืบสวนตรวจสอบสาเหตุการระเบิดอีกที เบื้องต้นถังที่นำมาใช้แล้วระเบิด ตำรวจแจ้งว่ามีอายุประมาณ 6 ปี ได้เติมคาร์บอนไดออกไซด์มาจากบริเวณพัฒนาการ และถังดังกล่าวไม่มีเกจวัดความดันเพราะว่าเป็นถังที่มีความเย็นมาก โดยใช้วัดตามน้ำหนักกิโลกรัมแทน ซึ่งตอนที่ไปเติมล่าสุดก็ไม่ถึงกับเต็มความจุ เนื่องจากต้องนำมาสาธิต ส่วนสาเหตุว่าทำไมถึงระเบิด ระเบิดรูปแบบไหนต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอย่างชัดเจนก่อน ส่วนถังเป็นของใครจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บางส่วนผู้ฝึกอบรมนำมาเองและบางส่วนเป็นของส่วนกลาง ซึ่งต้องขอไปตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และนักเรียนทั้งหมดก็คงต้องมีการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ รวมถึงต้องมีการเยียวยาทางด้านจิตใจสำหรับนักเรียนที่ประสบเหตุเนื่องจากเป็นภาพที่น่าตกใจ ซึ่งกทม.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาดูแลด้วย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 จุดที่ต้องตรวจสอบ คือ 1. มาตรฐานของอุปกรณ์เนื่องจากไม่ควรจะมีการระเบิดขึ้น 2. คือการจัดวางอุปกรณ์ก่อนฝึก ซึ่งจากการตรวจสอบก็เป็นพื้นที่จำกัด ซึ่งในอนาคตต้องให้อยู่ห่างกว่านี้หรือไม่ หรือว่าควรมีอุปกรณ์ มีคอกใส่ป้องกันไว้ให้เป็นระเบียบหรือไม่ ซึ่งกทม.ต้องนำไปทบทวน แต่เท่าที่ทราบมาในประวัติศาสตร์กทม.ไม่เคยระเบิด นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีการระเบิดซึ่งต้องไปหาสาเหตุอย่างจริงจัง ประกอบกับขณะนี้เราก็มีการสั่งซื้อถังดับเพลิงแบบใหม่ที่จะแจกชุมชนอยู่แล้วประมาณเกือบหมื่นถังเพื่อแจกในชุมชน ซึ่งเป็นคนละแบบกับที่ระเบิด เป็นถังพิเศษและมีแรงดันต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้อยู่ในสถานที่ราชการ จึงไม่ต้องตื่นตระหนก โดยกทม.จะเพิ่มความเข้มข้นในการทบทวนตรวจสอบด้านความปลอดภัยของถังดับเพลิงต่อไป
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกส่วนหนึ่งที่ต้องมีการทบทวน คือ ขั้นตอนในการวางถังดับเพลิงว่าควรวางตรงไหน ตามหลักวิทยาศาสตร์อาจจะมีแรงดันเพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะเกิดจากการตากแดด ซึ่งคงต้องไปตรวจสอบอีกให้ชัดเจนอีกครั้ง รวมถึงการเติมกับบริษัทเอกชนซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เติมเต็มความจุและเติมน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ก็เป็นบทเรียนสำคัญมากที่ต้องไปทบทวนกระบวนการ นอกจากนี้ก็ต้องทบทวนเรื่องการฝึกอบรมการซ้อมดับเพลิงในโรงเรียน รวมถึงขั้นตอนในการระงับอัคคีภัยของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสถานีดับเพลิงต่างๆ ว่าสารเคมีดังกล่าวที่ใช้มีความเสี่ยงหรือไม่ รวมถึงถังดับเพลิงต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งจะต้องมีการทบทวนอบรมป้องกันความเสี่ยงทั้งกระบวนการ รวมถึงมาตรฐานการดูแลถังดับเพลิงทั้งระบบ
รร.ราชวินิตมัธยม ประกาศหยุดเรียน 26-27 มิ.ย.นี้ เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ หลังเกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิด
24 มิ.ย. 2566 นายเทพฤทธิ์ ยอดใส ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต มัธยม ลงนามในประกาศโรงเรียน เรื่อง หยุดการเรียนการสอนด้วยเหตุพิเศษ เป็นเวลา 2 วัน โดยข้อความประกาศ ระบุว่า ตามที่โรงเรียนราชวินิต มัธยม ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ การป้องกันและระงับอัคคีภัย การซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ประจำปีการศึกษา 2566 ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ในวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะดำเนินกิจกรรมได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งยังส่งผลกระทบความรุนแรงสะเทือนต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ด้วยเหตุดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจกับนักเรียน ผู้ปกครองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจของนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเพื่อให้โรงเรียนได้ดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยในด้านสภาพแวดล้อมและอาคารสถานที่ภายในโรงเรียน ให้มีความพร้อมใช้งานและสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ นั้น
ดังนั้น โรงเรียนราชวินิต มัธยม จึงขอหยุดการเรียนการสอนด้วยเหตุพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 และวันอังคารที่ 27 มิถุนายน 2566 รวมเป็นเวลา 2 วัน และจะเปิดเรียนปกติในวันพุธที่ 28 มิถุนายน 2566 โดยระหว่างที่หยุดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตนเอง และจะได้จัดตารางการสอนเสริมชดเชยให้กับนักเรียนต่อไป
ทั้งนี้ โรงเรียนขอความร่วมมือผู้ปกครองได้กำกับดูแลนักเรียนในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ติดตามตรวจสอบความครบถ้วนของกิจกรรมการเรียนรู้และภาระงานที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)