'สุทิน' สั่งเร่งตรวจสอบกรณีน้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 สระบุรี หาย 2 แสนลิตร - กองทัพบกแจง สั่งตั้งกรรมการสอบตั้งแต่เดือน มิ.ย. 66 แล้ว ยังไม่ได้สรุปผล ชี้ใครผิด ดำเนินการลงโทษ ตามขั้นตอนแน่นอน
สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
26 ก.ย. 2566 สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่านายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีน้ำมันเชื้อเพลิงของ มทบ.18 จังหวัดสระบุรี สูญหายจากคลังกองโรงงานซ่อมสร้างรถยนต์ทหาร ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กองทัพบก กว่า 2 แสนลิตรว่า ขณะนี้มีรายงานเข้ามาแล้ว และกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่ โดยเฉพาะการหาคนกระทำความผิด
ส่วนที่พรรคก้าวไกลวิจารณ์เรื่องนี้และอยากให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ยืนยันว่า ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่เกิดในกองทัพ ซึ่งต้องขอให้รอดูการสืบสวนสอบสวนให้แน่ชัดก่อนว่าบุคคลในกองทัพมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เชื่อว่าไม่นานเรื่องทุกอย่างคงจบ
ทั้งนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้าเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับทางการเยอรมัน เนื่องจากเรื่องยังไม่ส่งมาที่กระทรวงกลาโหมและยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้
กองทัพบกแจง สั่งตั้งกรรมการสอบตั้งแต่เดือน มิ.ย. 66 แล้ว ยังไม่ได้สรุปผล ชี้ใครผิด ดำเนินการลงโทษ ตามขั้นตอนแน่นอน
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ข่าวสด รายงานเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2566 พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบ การเบิกจ่ายน้ำมันของหน่วยทหารพื้นที่สระบุรี ซึ่งระบุว่าอาจมีการสูญหายเป็นจำนวนหนึ่งนั้น ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เกิดจากการที่ผ่านมาเมื่อปี 2565 กองทัพบกได้ส่งชุดตรวจพิเศษการส่งกำลัง
โดยกรมจเรทหารบก ไปตรวจสอบการเบิกจ่ายเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์สำคัญทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และชุดตรวจพิเศษได้เข้าตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายและเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ได้ตรวจพบข้อสังเกตในการเบิกจ่ายน้ำมัน จึงรายงานให้กองทัพบกทราบ ต่อมาเมื่อมิถุนายน 2566 กองทัพบกจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
เจ้ากรมจเรทหารบกเป็นประธาน เพื่อตรวจสอบในรายละเอียดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำลังเร่งดำเนินการยังไม่ได้สรุปผล หากผลสอบสวนปรากฎมีผู้ที่ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ก็จะเสนอให้พิจารณาลงโทษต่อไป ขอเรียนว่า เมื่อกองทัพบกได้รับรายงานว่าอาจมีความไม่เรียบร้อยในการเบิกจ่ายและเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ดังกล่าว
ทางกองทัพบกได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสอบสวนด้วยความรอบคอบ ครอบคลุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง และรายงานสรุปผลสอบสวนให้ทราบโดยเร็ว ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องบริหารจัดการสิ่งอุปกรณ์ประเภท ต่างๆให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ
กรณีนี้กองทัพบกให้ความสำคัญในการตรวจสอบทุกข้อมูลข้อเท็จจริง และจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติงานตามปกติ การเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยทหารกองทัพบก จะมีระบบการควบคุมตรวจสอบตามวงรอบระบบส่งกำลังบำรุง
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบช้ำด้วยชุดตรวจพิเศษการส่งกำลังจากกรมจเรทหารบกเพื่อให้หน่วยปฏิบัติได้เรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการในลักษณะการตรวจสอบภายในองค์กรด้วย โดยกองทัพบกได้จัดชุดตรวจพิเศษในลักษณะดังกล่าวเข้าดำเนินการตรวจสอบการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์สำคัญ อาทิ วัตถุระเบิด อาวุธ กระสุน รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเป็นการกำกับดูแลภายในอีกระดับหนึ่ง