สำนักงานลูกเสือแห่งชาติตั้งคณะทำงานยกเครื่องชุดเครื่องแบบลูกเสือ-เนตรนารี ให้ทันสมัย รวมทั้งข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้อง - เตรียมปรับปรุงหลักสูตร โปรแกรมฝึกอบรมลูกเสือ ให้น่าสนใจ ทันสมัย สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ยังคงอุดมการณ์และหลักการทางการลูกเสือไว้
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 นายวรัท พฤกษาทวีกุล รองเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ปฏิบัติงานแทนเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ที่ 1376/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ การปรับปรุงและพัฒนาเครื่องแบบ และเครื่องหมายประกอบเครื่องแบบของลูกเสือให้ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน และความต้องการของลูกเสือ ผู้ปกครอง และสังคม
โดยมีนายสมมาต สังขพันธ์ ผู้ตรวจการลูกเสือประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงาน และผอ.ส่วนอำนวยการ เป็นเลขานุการ รวมคณะทำงาน 44 คน ซึ่งมาจากสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ศึกษาธิการภาค สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน หน่วยงานด้านกิจการนักเรียน ด้านประชาสัมพันธ์ ผู้แทนสโมสร สมาคมลูกเสือ ผู้ทรงคุณวุฒิสภาลูกเสือไทย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการลูกเสือ ลูกเสือ เนตรนารี
ทั้งนี้เพื่อทำหน้าที่รวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อสรุปของความคิดเห็นเกี่ยวกับเครื่องแบบ เครื่องหมายประกอบของเครื่องแบบลูกเสือ จากเอกสารและสื่อทุกช่องทาง รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับราคา ค่าใช้จ่าย และงบประมาณที่เกี่ยวกับเครื่องแบบและเครื่องหมายประกอบเครื่องแบบ
รวมทั้งจัดทำรายงานข้อเสนอแนะ และแนวทางในการปรับปรุง พัฒนา เครื่องแบบและเครื่องหมายประกอบเครื่องแบบลูกเสือให้ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน รวมทั้งข้อเสนอการแก้ไข ปรับปรุง กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เสนอเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติโดยเร็วต่อไป
เตรียมปรับปรุงหลักสูตร โปรแกรมฝึกอบรมลูกเสือ ให้น่าสนใจ ทันสมัย
นอกจากนี้รองเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ปฏิบัติงานแทนเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ยังได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ที่ 1377/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรลูกเสือ หรือโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา
ด้วยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ มีภารกิจสำคัญในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามัคคีและมีความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้ เพื่อความสงบสุข และความมั่นคงของประเทศชาติ ซึ่งปัจจุบันเด็กและเยาวขนที่สมัครเข้าเป็นลูกเสือทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษามีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ในการพัฒนางานลูกเสือทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษาให้มีความน่าสนใจ ทันสมัย และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่ยังคงอุดมการณ์และหลักการทางการลูกเสือไว้
สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จึงแต่งตั้งคณะทำงานชุดดังกล่าว โดยมีองค์ประกอบคณะทำงานจำนวน 44 ราย โดย นายศัจธร วัฒนะมงคล เป็นประธาน และผู้อำนวยการส่วนพัฒนารายได้และสิทธิประโยชน์ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เป็นเลขานุการคณะทำงาน โดยมีหน้าที่ดังนี้
1. รวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อสรุปการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรลูกเสือในกิจกรรมนักเรียน ตามกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ให้ทันสมัย เป็นโปรแกรมการฝึกอบรมที่เพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจตามช่วงวัย มุ่งพัฒนา ฝึกฝน และบ่มเพาะให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณลักษณะที่ดี ก่อเกิดเป็นสมรรถนะที่นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตและการทำงานได้อย่างบูรณาการกัน โดยเน้นกิจกรรมกลางแจ้งที่สนุกสนาน ทันสมัย เพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม ตลอดจนเป็นกิจกรรมลูกเสือที่สามารถจัดทำเป็นแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ตามระดับและประเภทของลูกเสือที่สามารถนำไปใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และสามารถต่อยอดในรางวัลลูกเสือระดับโลกได้
2. จัดทำรายงานข้อเสนอและแนวทางในการปรับปรุง พัฒนาหลักสูตรลูกเสือ หรือโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา รวมทั้งข้อเสนอการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เสนอเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ โดยเร็ว
3. ดำเนินการอื่นๆ ตามที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติมอบหมาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)