พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ 'พระธรรมวชิรมุนี -พระธรรมวัชรบัณฑิต' ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง โดยไม่ปรากฎชื่อผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ พร้อมย้อนดูเริ่มประกาศสถาปนาสมณศักดิ์โดยที่ไม่ปรากฏชื่อผู้ลงนามรับสนองฯ คือเมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 ขณะที่ก่อนหน้านั้นมีชื่อนายกฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ
17 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า พระสงฆ์ซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรจะได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้นมีอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา
1.พระธรรมวชิรมุนี ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวัชรวิมลมุนี ศรีวิปัสสนาวรนายก ดิลกศาสนกิจพิธาน ปฏิภาณธรรมสาธก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป
2. พระธรรมวัชรบัณฑิต ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวัชรธีราจารย์ มหาจุฬาลงกรณบริหารวรกิจ วิสิฐพุทธธรรมภาณี ศาสตรเมธีญาณดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดปากน้ำ พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 ประกาศ ณ วันที่ 17 พ.ค. 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
โดยไม่ปรากฏชื่อผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
อนึ่งการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ มีชื่อนายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองฯ โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2562 ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ จำนวน 9 รูป โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จากนั้น 2 พ.ย. 2563 พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ สมเด็จพระญาณวชิโรดม เริ่มไม่ปรากฏชื่อผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการจากนั้นเป็นต้นมา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)