Skip to main content
sharethis

กำลังเสริมในเมียวดีของกองทัพเผด็จการพม่ายังไม่สามารถยึดทางหลวงเอเชียที่นำไปสู่กอกะเร็กคืนจากกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ได้ แม้จะพยายามแสวงหาความร่วมมือกับกองกำลังกะเหรี่ยงกลุ่มที่แยกออกจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU)

เผด็จการทหารพยายามจะเปิดฉากรุกฝ่ายต่อต้านที่นำโดยกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) โดยมีแผนรุกจากทั้งสองด้านทั้งจากเชิงเขาและจากยอดเขา เนื่องจากฝ่ายต่อต้านพยายามขัดขวาง "ปฏิบัติการอ่องเซยะ" ที่เป็นการรุกคืบไปตามแนวเขาดาวนา

นับตั้งแต่ที่มีการเริ่มต้นปฏิบัติการอ่องเซยะ ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. เป็นต้นมา ก็มีการขยายเวลาปฏิบัติมากกว่า 40 วันแล้ว แต่กองทหาร 2 กองของฝ่ายเผด็จการทหารก็ยังคงไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของ KNLA ไปได้ ซึ่งมีการตั้งแนวป้องกันเหล่านี้ทั้งตามเส้นทางภูเขาซึ่งเป็นเส้นทางเก่า และตามเส้นทางหลวงสายเอเชียซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ ทำให้ฝ่ายกองทัพพม่าปฏิบัติการไม่คืบหน้า

โซวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า และเป็นผู้นำหมายเลขสองของกองทัพเผด็จการ เป็นผู้ที่คอยดูแลปฏิบัติการอ่องเซยะ ปฏิบัติการที่มีเป้าหมายรุกคืบจากเมืองกอกะเร็กข้ามเทือกเขาดาวนาไปยังเมียวดีโดยมีการแบ่งกองทัพออกเป็น 2 กอง

อย่างไรก็ตามกองทัพเผด็จการได้เผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากกองกำลังแนวร่วมฝ่ายต่อต้านที่นำโดย KNLA ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวเขาเส้นทางเก่า และตามถนนสายเอเชียเส้นทางใหม่ เป็นการสกัดกั้นการรุกคืบของฝ่ายกองทัพเผด็จการ

ฝ่ายกองทัพเผด็จการพยายามแสวงหาความช่วยเหลือจากกองกำลังกะเหรี่ยงที่แยกตัวจาก KNU ซึ่งพวกเขาได้เซ็นสัญญาหยุดยิงด้วย เพื่อที่จะเอามาเป็นกองกำลังเสริมให้กับพวกเขาในเมียวดี และเตรียมการโจมตีโต้ตอบกลับจากสองช่องทางแยกกัน รายงานสมรภูมิระบุว่าน่าจะมีทหารกองทัพพม่ารวมตัวกันอยู่ราว 500 นาย ในเมียวดี

แหล่งข่าวจากแนวหน้าของสมรภูมิระบุว่ากองทัพเผด็จการกำลังเตรียมเปิดฉากโจมตีขนาบสองด้านต่อ KNLA และต่อกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) โดยมีเจตนาที่จะอ้างการควบคุมเหนือถนนสายเอเชีย ถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองเมียวดีกับกอกะเร็กและเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการค้าชายแดนไทย-พม่า

"เนื่องมาจากความช่วยเหลือของกองกำลังกะเหรี่ยงส่วนที่ลงนามหยุดยิง (กับฝ่ายเผด็จการทหาร) ในการช่วยเหลือลำเลียงกำลังเสริมของฝ่ายเผด็จการพม่าไปสู่เมียวดีผ่านช่องทางบ้านทอก่อโก่มีทหารฝ่ายกองทัพเผด็จการประมาณ 500 นาย ประจำการอยู่ที่นั่น พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะร่วมกับกองกำลังฝ่ายเผด็จการที่รุกคืบจากกอกะเร็กเพื่อสู้รบกับ KNLA และ PDF โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดถนนเส้นทางสายเอเชียที่เชื่อมไปสู่ ติงกานญีนอง (บ้านปางกาน) อีกครั้ง" แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสถานการณ์นี้กล่าว

มีสมาชิกไม่ประสงค์ออกนามขององค์กรติดอาวุธกะเหรี่ยงที่แยกตัวจาก KNU แล้วไปตกลงหยุดยิงกับกองทัพเผด็จการ ได้กล่าวยืนยันว่ารายงานนี้เป็นเรื่องจริง

สมาชิกกลุ่มติดอาวุธรายดังกล่าวบอกว่า "ผมไม่ต้องการที่จะเปิดเผยชื่อขององค์กรแบบลงรายละเอียด แต่ผมสามารถยืนยันได้ว่ารายงานเหล่านี้ตรงกับข้อเท็จจริง กองกำลังฝ่ายต่อต้านกำลังวางแผนที่จะลอบโจมตีขบวนลำเลียงกำลังเสริมของกองทัพเผด็จการใกล้กับนาบู อย่างไรก็ตามมีการยกเลิกแผนการโจมตีหลังจากพบว่ามีการนำขบวนโดยกลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยงบางกลุ่ม"

กองทหาร 2 กอง ของกองทัพพม่าที่ออกจากกอกะเร็กและพยายามข้ามเทือกเขาดาวนากำลังเผชิญกับอุปสรรคอย่างหนักจากความพยายามดักสกัดของ KNLA จนส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างหนัก ส่งผลให้เผด็จการทหารกันมาเน้นใช้วิธีการยิงปืนใหญ่และโจมตีทางอากาศในการพยายามต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านในพื้นที่

เจ้าหน้าที่กองกำลัง KNLA กล่าวว่า "ในการปฏิบัติการตอนนี้ของฝ่ายเผด็จการ กองทัพเผด็จการได้วางกองทหาร จากกองพันที่ 22, 44, 55 และ 77 ของกองพลทหารราบเบา ไปพร้อมๆ ทหารที่มาจากการเกณฑ์ทหารใหม่ภายใต้กฎหมายเกณฑ์ทหารและคนที่ถูกบังคับให้รับราชการทหาร นอกเหนือจากกรณีการเสียชีวิตแล้ว ทหารฝ่ายเผด็จการบางคนก็ถูกจับกุมและยอมแพ้ในช่วงที่มีการปะทะด้วย จนถึงตอนนี้กองทหารฝ่ายเผด็จการยังคงหยุดชะงัก กระตุ้นให้กองทัพเผด็จการเพิ่มการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่มากขึ้น"

 

เรียบเรียงจาก

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net