Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

หลังจากผ่านไปสองปีกว่า สงครามในยูเครนกำลังพัฒนาไปสู่เรื่องราวใหม่ กระแสของการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงคราม กำลังก่อตัวเพิ่มขึ้นและมีแรงกดดันพุ่งตรงไปที่ตะวันตก พลเมืองของประเทศเสรีนิยมในยุโรปและอเมริกา เริ่มส่งเสียงเรียกร้องให้ยุติสงครามที่ล้างผลาญผู้คนและทรัพยากรจำนวนมาก  ความเหนื่อยล้าจากการสนับสนุนการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวยูเครน และการปกป้องอุดมคติของเสรีภาพ ทำให้ความคิดเรื่องการยอมรับความจริงในโลกที่โหดเหี้ยมและไม่ยุติธรรม เป็นวาระที่ต้องถูกนำมาพิจารณา  สงครามยืดเยื้อที่อยู่ห่างไกลจากเหล่านักอุดมคติทั้งหลายในยุโรปและอเมริกา ค่อยๆบั่นทอนความรู้สึกโกรธและความมุ่งมั่นที่จะพิทักษ์ความยุติธรรมและความถูกต้อง

การสูญเสียดินแดนของยูเครนเพื่อยุติสงคราม อาจช่วยให้โลกกลับมาเริ่มต้นใหม่บนหนทางที่ยากลำบากได้ดีกว่า

ปูตินเป็นคนมองโลกตามความเป็นจริง แม้จะล้มเหลวจากการก่อสงครามในช่วงต้น ที่หวังชัยชนะในระยะเวลาอันสั้น แต่ปูตินรู้ดีว่า รัสเซียมีความทนทานต่อวิกฤติการณ์ได้ดีกว่าฝ่ายเสรีนิยม  การเติบโตของชนชั้นกลาง และการกระจายความเท่าเทียมที่นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยมของฝ่ายเสรีนิยม เป็นกับดักของเหล่าผู้เสวยสุขเหล่านั้น เมื่อต้องเผชิญกับอันตรายที่ใกล้เข้ามา

การห้ามใช้อาวุธของตะวันตกที่ให้ความช่วยเหลือยูเครน ในการโจมตีลึกเข้าไปในแผ่นดินรัสเซีย คือกฎศักดิ์สิทธิที่ยูเครนจะละเมิดมิได้ เงื่อนไขความช่วยเหลือที่อิงอยู่บนความกลัวของฝ่ายพันธมิตร สะท้อนความหวาดวิตกการขยายตัวของสงคราม

ถ้าสงครามจะต้องยืดเยื้อ ก็ให้จำกัดขอบเขตอยู่ในดินแดนยูเครน ฉันทามติที่เหล่านักบูชาเสรีภาพยอมประนีประนอมกับความจริงที่โหดร้าย ยูเครนต้องเสียสละ

ตรงกันข้ามกับรัสเซีย คนจนและคนชายขอบจำนวนมาก คือต้นทุนสำคัญในการก่อสงคราม พวกเขาเข้าร่วมสงครามเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน  และถูกปั่นหัวให้เชี่อว่าตะวันตกคือศัตรูของรัสเซีย  ส่วน “ความมั่นคงของชาติ” คือเรื่องเล่าที่ช่วยขับเคลื่อนความชอบธรรมในการฆ่าคนแปลกหน้าที่พูดภาษาเดียวกัน

ปูตินรู้ดีว่า การเกณฑ์ทหาร จะทำให้เกิดการต่อต้านจากชนชั้นกลางที่เป็นพลังทางเศรษฐกิจที่สำคัญ การใช้นักโทษและอาสาสมัครที่มาจากชนชั้นล่าง แลกกับผลตอบแทนที่เย้ายวน เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า

ปูตินกับชนชั้นนำร่วมกันสร้างเครื่องจักรบดเนื้อที่กลืนกินเด็กหนุ่มรัสเซียหลายแสนคนในช่วงเวลาสองปีกว่าโดยไม่รู้สึกเสียดาย พิธีกรรมสรรเสริญความเสียสละของวีรบุรุษนับแสนคน จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพื่อตอกย้ำความเลวร้ายของศัตรู และภัยคุกคามของชาติ(และของชนชั้นนำ)

การประชุมเพื่อหาแนวทางยุติสงครามของเหล่าพันธมิตรชาติตะวันตก กลางเดือนมิถุนายนที่สวิตเซอร์แลนด์(โดยไม่มีรัสเซียเข้าร่วม) เป็นจังหวะเวลาสำคัญที่ปูตินจะกดดันให้พันธมิตรนาโต้ที่มีร่องรอยความแตกแยก ยอมรับความจริง

“ยอมรับการครอบครองดินแดนในเขตยึดครองของรัสเซียปัจจุบัน แลกกับสันติภาพ”  คือข้อเสนอเพื่อยุติสงครามของปูตินที่พุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของตะวันตกโดยตรง

ปูตินแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจเด็ดเดี่ยวในการก่อสงคราม และจะไม่ยอมแพ้หากไม่บรรลุเป้าหมาย แม้จะต้องสูญเสียคนและทรัพยากรจำนวนมหาศาล ประวัติศาสตร์รัสเซียแสดงให้เห็นถึงตัวตน และอุดมคติที่มุ่งมั่นของชาวรัสเซียในการต่อสู้อย่างรุนแรงกับศัตรูภายนอก และแสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของชนชั้นนำทางการเมือง ที่ทำทุกอย่างทั้งกับประชาชนของตนเองและของศัตรู เพื่อบรรลุเป้าหมาย

ความขมขื่นของเยอรมันที่ถูกกดขี่จากพันธมิตรหลังสงครามโลกครั้งที่ 1  ก่อให้เกิดสงครามที่รุนแรงกว่าเดิมในอีกยี่สิบปีต่อมา

ส่วนความพ่ายแพ้ของคอมมิวนิสต์ในสงครามเย็นเมื่อกว่าสามสิบปีก่อน ก่อให้เกิดสงครามครั้งใหม่ที่อาจลุกลามจนกลายเป็นวาระสุดท้ายของโลก

Doomsday Clock บอกเวลา 23.58.30 น. หรือ 90 วินาทีก่อนวันสิ้นโลก

นักเลงและนักพนันแบบปูติน ยอมเสี่ยงแบบหมดหน้าตัก และใช้ทุกวิถีทางที่ไม่ต้องขึ้นอยู่กับคุณค่าใดๆ  ย่อมได้เปรียบกว่าเหล่าผู้ดีปัญญาชนตะวันตก ที่พยายามรักษาอุดมคติไปพร้อมๆกับชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง

อนาคตของมนุษยชาติ จะเดินไปสู่สันติภาพหรือหายนะ ก็ขึ้นอยู่กับเหล่าผู้ดีตะวันตก ไม่เกี่ยวอะไรกับปูติน “เสรีภาพของคนตาย ย่อมไร้ค่า” เป็นประโยคล่าสุดที่ปูตินจงใจมอบให้กับที่ประชุม

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net