กองทัพพม่ายึดเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างชาติไว้กับตัว แล้วขู่ว่าจะไม่ให้เงินช่วยเหลือถ้าหากผู้ลี้ภัยโรฮิงญาไม่เข้ารับการฝึกเป็นทหารเพื่อไปเติมกองทัพฝ่ายเผด็จการที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในการรบที่ยะไข่ การขู่เช่นนี้บีบให้ผู้ลี้ภัยที่ดิ้นรนเรื่องรายได้อยู่แล้วให้ต้องยอมทำตาม

ในเมืองชิตตเว รัฐยะไข่ กองทัพเผด็จการพม่าได้ทำการยึดเงินทุนช่วยเหลือจากองค์กรต่างชาติไว้ที่ตัวเองซึ่งควรจะเป็นเงินที่ใช้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา กองทัพพม่าอ้างใช้เงินช่วยเหลือตรงนี้มาเป็นเงื่อนไขกดดันให้ชาวโรฮิงญาเกณฑ์เข้าไปเป็นทหารก่อนแล้วถึงจะสามารถเข้าถึงเงินช่วยเหลือเหล่านี้ได้

ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมในชิตตเวได้รับเงินช่วยเหลือ 42,000 จ๊าดต่อเดือน (ราว 740 บาท) จากองค์กรให้ความช่วยเหลือต่างๆ

กองทัพเผด็จการพม่าได้เดินทางเยือนค่ายผู้ลี้ภัย ทำการเตือนชาวมุสลิมที่อาศัยในพื้นที่ว่า จะมีการแจกจ่ายเงินทุนช่วยเหลือให้กับพวกเขาต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าคนในครอบครัวของผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 1 รายต้องเข้ารับการฝึกอบรมทหารเริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย. นี้เป็นต้นไป

ผู้ลี้ภัยหญิงรายหนึ่งจากค่าย Thet Kei Pyin ในชิตตเวกล่าวว่า "มันหมายความว่ากองทัพเผด็จการทหารขู่ว่าจะเลิกแจกจ่ายความช่วยเหลือจากต่างชาติถ้าหากพวกเราปฏิเสธที่จะเข้าไปเป็นทหาร มีบางคนที่กังวลว่าพวกเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือตามโควต้าอีกหลังจากนี้และได้สมัครเข้าร่วมฝึกทหารไปแล้ว"

เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา กองทัพเผด็จการได้เกณฑ์ชาวมุสลิม 15 รายจากค่ายผู้ลี้ภัยที่ต่างๆ ของชิตตเว เพื่อพาพวกเขาไปเข้ารับราชการทหาร

เนื่องจากเผด็จการทหารพม่าทำการปิดกั้นความช่วยเหลืออย่างโหดร้าย จำกัดการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและความช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติ รวมถึงการที่ผู้ลี้ภัยขาดโอกาสในเรื่องการสมัครงาน ทำให้สภาพทางการเงินของพวกเขาบีบรัด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้กลุ่มผู้ลี้ภัยไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะต่อต้านการบีบบังตับของเผด็จการทหาร

กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมเปิดเผยว่า การส่งสมาชิกครอบครัวแค่คนเดียวไปเข้ารับการฝึกทหารตามที่กองทัพเผด็จการต้องการก็ทำให้พวกเขายังคงได้รับเงินช่วยเหลือขององค์กรนานาชาติเป็นจำนวน 42,000 จ๊าดต่อเดือนต่อคนได้ต่อไป

มีผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมรายหนึ่งกล่าวว่า "เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เผด็จการทหารได้แจกจ่ายเงินช่วยเหลือก้อนแรกให้กับผู้คน 50 คน แต่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากก็ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือในเดือนนี้เลย เมื่อเผด็จการทหารขู่ว่าจะระงับการให้เงินช่วยเหลือเว้นแต่ว่าพวกเราจะไปเข้าร่วมการฝึกทหาร พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องปฏิบัติตาม"

โดยหลักๆ แล้วผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมในชิตตเวต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากองค์กรให้ความช่วยเหลือระดับโลกอย่าง 'เวิร์ลด์ฟูดโปรแกรม' (WFP), คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC), องค์กรเซฟเดอะชิลเดรน, และองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF)

ลูกจ้างเอ็นจีโอระบุว่าองค์กรให้ความช่วยเหลือจะสามารถดำเนินการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากกองทัพเผด็จการแล้วเท่านั้น "ฉันได้ยินมาว่าปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ๆ กองทัพเผด็จการควบคุมอยู่นั้นมักจะต้องรอเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อได้รับการอนุมัติและมีการให้เงินทุนช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองทัพเผด็จการ"

นอกจากนี้ยังมีข้อกล่าวหาต่อกองทัพเผด็จการพม่าในเรื่องที่ว่า ในขณะที่พวกเขาเผชิญกับการเพลี่ยงพล้ำต่อเนื่องหลายครั้งในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านที่รัฐยะไข่ กองทัพเผด็จการพม่าก็แสดงความไม่จริงใจโดยอาศัยเงินทุนช่วยเหลือจากต่างชาติเป็นเครื่องมือในการบีบเค้นผู้คนให้มาเป็นไพร่พลที่พวกเขากำลังขาดแคลน

ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 มีชาวมุสลิมหลายพันคนในชิตตเวที่ถูกบังคับเกณฑ์ทหารโดยกองทัพเผด็จการให้ไปเข้ารับการฝึกทหาร

ชาวมุสลิมเหล่านี้ในปัจจุบันได้ถูกจัดวางกำลังตามฐานปฏิบัติการหลายแห่งหลังจากที่รับการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน จากหน่วยบัญชาการยุทธการภูมิภาค (ROC) ในชิตตเว นอกจากนี้ฝ่ายเผด็จการทหารยังให้สัญญาแบบลมๆ แล้งๆ ว่าจะให้อำนาจและสิ่งล่อใจในระดับหนึ่งต่อผู้ที่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร

นักวิเคราะห์การเมืองชาวยะไข่บอกว่า "จากการที่เผด็จการทหารเผชิญกับความพ่ายแพ้ในการสู้รบทั่วรัฐยะไข่เพราะกองกำลังอาระกันอาร์มี (AA) ทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกเผด็จการทหารจึงหันมาใช้ชาวมุสลิมเพื่อเข้าไปเสริมทัพของตนเองที่กำลังร่อยหรอ กองทัพเผด็จการได้ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์จากประชากรชาวมุสลิมให้ไปเติมกำลังทหารของพวกเขา โดยใช้วิธีการข่มขู่หรือให้รางวัลตามที่พวกเขาต้องการ"

ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในชิตตเวเป็นผู้พลัดถิ่นที่หนีออกจากบ้านของตัวเองและพยายามหาที่พักพิงในค่ายผู้ลี้ภัยนับตั้งแต่ที่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในรัฐยะไข่เมื่อปี 2555

เรียบเรียงจาก

• Junta Blackmails Rohingya Refugees – Join the Military Or Else We Cut off International Aid, BNI, 05-06-2024

https://www.bnionline.net/en/news/junta-blackmails-rohingya-refugees-join-military-or-else-we-cut-international-aid