Skip to main content
sharethis

'ฟิลิปปินส์' ย้ำจุดยืนเดิม 'จีน' ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อ 8 ปีที่แล้วที่ให้ฟิลิปปินส์ ชนะคดีฟ้องร้องจีน ปมพิพาทกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ สะท้อนนโยบายของมาร์กอสรุ่นลูกที่ไม่อ่อนข้อต่อการรุกล้ำน่านน้ำของจีน

 

18 ก.ค. 2567 เว็บไซต์สื่อสัญชาติสิงคโปร์ News Asia Channel รายงานเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของทางการฟิลิปปินส์ ประกาศว่า พวกเขาจะ "ย้ำจุดยืนเดิม" ในเรื่องข้อพิพาททะเลจีนใต้ 8 ปีหลังจากที่ศาลอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินให้จีนไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาทกับฟิลิปปินส์

การย้ำจุดยืนเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา มีความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างเรือของฝ่ายฟิลิปปินส์ และฝ่ายจีน เพื่อแย่งชิงกรรมสิทธิ์เหนือเส้นทางสัญจรทางน้ำซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแง่ของเส้นทางการค้าทางทะเล

กรณีความตึงเครียดที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งของจีนถือมีด ไม้พลอง และขวาน ไปปิดล้อมแล้วก็บุกขึ้นเรือนาวีของฟิลิปปินส์ ในช่วงที่กำลังปฏิบัติภารกิจเติมเสบียงให้กับสันดอนโธมัสที่ 2 บริเวณหมู่เกาะสแปรตลี

จากเหตุการณ์ดังกล่าวอ้างอิงตามรายงานของผู้บัญชาการฟิลิปปินส์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีเรือเสียหายจำนวน 2 ลำ นอกจากนี้ กองทัพเรือฟิลิปปินส์ถูกทางการจีนยึดปืนไรเฟิลไป 7 กระบอก

ในขณะที่ทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันเมื่อต้นเดือน ก.ค. 2567 ว่าจะ "ลดระดับความตึงเครียด" ในเรื่องพื้นที่พิพาท แต่เอ็ดดูอาร์โด อาโน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ฟิลิปปินส์ จะไม่ยอมถอยในเรื่องเขตแดนน่านน้ำ

"พวกเราจะยังคงย้ำจุดยืนเดิมและโต้กลับการบีบบังคับ การแทรกแซง การใช้อิทธิพลในทางร้าย และยุทธวิธีอื่นๆ ในการมุ่งบั่นทอนความมั่นคงและเสถียรภาพของพวกเรา" อาโน กล่าวไว้ที่งานวันฉลองครบรอบคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่เคยตัดสินเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2559 ให้จีนไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ โดยที่ฟิลิปปินส์ ฟ้องร้องจีนในเรื่องการรุกล้ำน่านน้ำมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ทางการจีนก็ไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการพิจารณาคดี และไม่ยอมรับคำตัดสิน

รอดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่เข้าสู่ตำแหน่งเมื่อปี 2559 ไม่สนใจคำตัดสินจากศาลในเรื่องข้อพิพาทน่านน้ำ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับจีน

แต่เมื่อเฟอร์ดินานด์ 'บองบอง' โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์ ได้เป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่เมื่อปี 2565 เรื่องนี้ก็เปลี่ยนไป มาร์กอส จูเนียร์ ยืนกรานว่าจะไม่ยอมให้จีนเข้ามาเหยียบย่ำกรรมสิทธิ์ในพื้นที่น่านน้ำของฟิลิปปินส์

นับแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนก็เสื่อมถอยลง จากการที่รัฐบาลมาร์กอสรุ่นลูก คอยต่อต้านการกระทำต่างๆ ของจีน

ทางการจีนได้วางกำลังยามชายฝั่งและเรืออื่นๆ ของตัวเองเพื่อลาดตระเวณน่านน้ำรอบๆ แนวสันดอนที่ซึ่งฟิลิปปินส์อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่แถบนั้น โดยรวมถึง สันดอนโธมัสที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป 200 กม. จากเกาะปาลาวันทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ และห่างจากเกาะไห่หนานซึ่งเป็นพื้นที่แผ่นดินขนาดใหญ่ของจีนที่ใกล้เคียงที่สุด 1,000 กม.

ฟิลิปปินส์จงใจนำเรือนาวีของตัวเองไปทิ้งไว้บนสันดอนเพื่อเป็นการอ้างสิทธิเหนืออาณาเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยมีทหารของฟิลิปปินส์บางส่วนที่ประจำการบนเรือเก่านี้ พวกเขาอยู่รอดได้เพราะมีคนส่งเสบียงให้

มีนักกิจกรรมฟิลิปปินส์หลายสิบรายที่เดินขบวนกันที่กรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมาเพื่อยืนยันว่า ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก "เป็นของพวกเรา" ซึ่งชื่อทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกนี้เป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์ ใช้เรียกพื้นที่น่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งติดกับฝั่งตะวันตกของฟิลิปปินส์

สหรัฐฯ แสดงความเป็นห่วง เรียกร้องให้เคารพการตัดสินจากศาล

รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ออกแถลงการณ์วันครบรอบคำตัดสินว่าทางการสหรัฐฯ มี "ความเป็นห่วงอย่างมาก" ต่อการที่จีนอ้างสิทธิ "เหนือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ภายใต้เขตอำนาจทางน่านน้ำของเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน"

บลิงเคน เรียกร้องให้จีน "ปฏิบัติตามคำตัดสินจากศาลอนุญาโตตุลาการปี 2559" และ "หยุดการกระทำที่อันตรายและทำลายเสถียรภาพ"

ฟิลิปปินส์ ได้สร้างความร่วมมือทางการทหารกับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ มากขึ้นในช่วงที่จีนแสดงอิทธิพลมากขึ้น

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2567 ฟิลิปปินส์ ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือด้านการทหารกับญี่ปุ่น ซึ่งจะอนุญาตให้ต่างฝ่ายสามารถวางกำลังบนพื้นที่อาณาเขตของประเทศคู่สัญญาได้

อาโน กล่าวเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะยังคง "เสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศที่คิดเหมือนกันให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น" และจะยังคงเปิดกว้างที่จะหารือกันใน "ประเด็นที่ยุ่งยาก"

อาโน กล่าวในที่ประชุมที่มีเอกอัครราชทูตจากสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น เข้าร่วมว่า ฟิลิปปินส์พร้อมเสมอที่จะเปิดกว้างต่อการ "หารืออย่างตรงไปตรงมาโดยอยู่บนฐานของการเคารพแต่ละฝ่ายและอยู่บนฐานของความจริงใจ"

"ถ้าหากพวกคุณเรียก พวกเราก็จะขานรับ" อาโน กล่าวในที่ประชุม

 

แปลและเรียบเรียงจาก

Philippines to 'stand our ground' in South China Sea dispute, Channel News Asia, 12-07-2024
https://www.channelnewsasia.com/east-asia/south-china-sea-philippines-stand-ground-4474826

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net